“แอสเซทไวส์” ขยายลงทุนภูเก็ตใน 3 ปี มูลค่ารวมกว่า 40,000 ล้าน กระจายความเสี่ยง รับเศรษฐกิจชะลอ - Forbes Thailand

“แอสเซทไวส์” ขยายลงทุนภูเก็ตใน 3 ปี มูลค่ารวมกว่า 40,000 ล้าน กระจายความเสี่ยง รับเศรษฐกิจชะลอ

“แอสเซทไวส์” มองโอกาสลงทุนอสังหาฯ ภูเก็ต พัฒนาโครงการใหม่เพียบใน 3 ปี มูลค่าโครงการรวม 40,000 ล้านบาท รองรับตลาดนักท่องเที่ยวฟื้นตัว เน้นกระจายความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แรงกดดันเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยสูง กระทบกำลังซื้อ ปีนี้เปิดตัว 12 โครงการใหม่ ทั้งกรุงเทพฯ อีอีซี และภูเก็ต มูลค่ากว่า 25,920 ล้านบาท คาดปี 2568 รายได้แตะหมื่นล้านบาท


    กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมขยายการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ตในอีก 3 ปีข้างหน้า (2567-2569) มูลค่าโครงการรวม 40,000 ล้านบาท

    โดยมีแผนพัฒนาโครงการใหม่อย่างน้อยปีละ 1-2 โครงการ จากปีนี้มีโครงการพร้อมเปิดขายในจังหวัดภูเก็ต รวม 4 โครงการ มูลค่ากว่า 16,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการเดอะ ไทเทิล เลเจนดารี บางเทา มูลค่า 4,500 ล้านบาท เปิดขายตั้งแต่ปี 2566 มียอดขายแล้ว 80% โครงการเดอะ ไทเทิล เฮริเทจ บางเทา มูลค่า 6,000 ล้านบาท เดอะ ไทเทิล เซเรนิตี้ ในยาง มูลค่า 4,000 ล้านบาท โครงการเดอะ ไทเทิล ราไวย์ มูลค่า 1,000 ล้านบาท


    “ภูเก็ตเหมือนเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีศักยภาพและมีแนวโน้มเติบโตสูง จากจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 14 ล้านคนต่อปี มีทั้งกลุ่มที่มาท่องเที่ยวตามซีซั่น กลุ่มที่มาจากปัจจัยสงคราม และกลุ่มที่ต้องการย้ายมาอยู่ถาวร ถือเป็น New Frontiers และเป็นโอกาสของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถเติบโตได้ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว จากอัตราเงินเฟ้อและดอกเบี้ยสูง รวมทั้งปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ที่ยังทำให้อัตราการเติบโตของจีดีพีเป็นไปอย่างแคบๆ” กรมเชษฐ์กล่าว

    แอสเซทไวส์ ขยายการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ตผ่านการเข้าซื้อกิจการบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ต และร่วมพัฒนาโครงการ โบทานิก้า แกรนด์ อเวนิว ลักชัวรี่พูลวิลล่า มูลค่าโครงการกว่า 15,000 ล้านบาท คาดว่าจะมียอดขาย 2,300 ล้านบาทในปีนี้ ทำให้บริษัทฯ มีโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย ทั้งซื้อเพื่อพักผ่อน คอนโดมิเนียม และวิลล่าระดับลักชัวรี เป็นหนึ่งใน 3 กลยุทธ์สำคัญในปีนี้ ได้แก่ Excute, Expand และ Explore ที่จะช่วยกระจายความเสี่ยงในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว และกำลังซื้อยังถูกกดดันด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูง


เปิดตัว 12 โครงการ มูลค่ากว่า 25,920 ล้าน

    สำหรับปีนี้ แอสเซทไวส์เปิดตัวโครงการใหม่ ทั้งหมด 12 โครงการ รวมมูลค่า 25,920 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 9 โครงการ มูลค่า 21.820 ล้านบาท และโครงการบ้านแนวราบ 3 โครงการ มูลค่า 4,100 ล้านบาท คาดว่าจะมียอดขาย 17,800 ล้านบาท เติบโตประมาณ 8% จากปี 2566 และมีรายได้ 8,700 ล้านบาท

    นอกจากนี้ยังมีสินทรัพย์รอการขายอยู่ 19,500 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 13,700 ล้านบาท อีอีซี 1,800 ล้านบาท และภูเก็ต 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2567 – 2569


    ขณะที่ปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทฯ เปิดตัวโครงการใหม่ทั้งคอนโดมิเนียมและแนวราบ รวม 15 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 30,260 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายเดิมที่จะเปิดตัว 12 โครงการ และทำยอดขายในปี 2566 ได้ถึง 16,486 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย และเติบโตจากปี 2565 ถึง 16% โดย 10 ปีที่ผ่านมา แอสเซทไวส์มีการพัฒนาโครงการไปแล้ว จำนวน 62 โครงการ มูลค่า 82,000 ล้านบาท

    “แอสเซทไวส์ เริ่มจากการพัฒนาทาวเฮ้าส์เล็กๆ และเติบโตจากการขยายธุรกิจคอนโดมิเนียม โดยเฉพาะแบรนด์ KAVE ATMOS และ MODIZ มาขยายธุรกิจบ้านแนวราบในช่วง 2 ปีหลังที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกอบกับเจอสถานการณ์โควิด ทำให้ต้องปรับกลยุทธ์เพิ่มความหลากหลายของสินค้า กระจายความเสี่ยง

    โดยยึด 3 กลยุทธ์หลัก คือ 1.Location ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างถูกต้อง แม่นยำ 2.Product ที่หลากหลาย และ 3.Price ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม” กรมเชษฐ์กล่าว


    สำหรับปี 2568 แอสเซทไวส์ คาดว่าจะมีรายได้แตะระดับ 10,000 ล้านบาท โดยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ภูเก็ต จะมีสัดส่วน 30% ของรายได้ อีก 50% มาจากธุรกิจคอนโดมิเนียม แนวราบอยู่ที่ 10% อีก 10% เป็นธุรกิจอื่นๆ เช่น คอมมูนิตี้ มอลล์ แบรนด์ Mingle Mall แบรนด์ Well Aesthetic & Wellness Center พื้นที่เช่าสำหรับผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจประเภทศูนย์สุขภาพและคลินิกด้านความงาม บนใจกลางย่านรัชดาภิเษก

    ล่าสุดขยายธุรกิจ มิงเกิ้ล สปอร์ต วิลเลจ (Mingle Sport Village at Rangsit) ศูนย์กีฬาในร่มเอาใจสายรักสุขภาพ รวมถึง Rocket Fitness โดยใช้ประสบการณ์และความชำนาญในด้านการทำธุรกิจอสังหาฯ ที่ยาวนานกว่า 19 ปี ภายใต้การบริหารงานของ “บริษัท เทรเชอร์ เอ็ม จำกัด” ในเครือแอสเซทไวส์ รวมถึง ZAAP World ธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอนเสิร์ตและอีเวนต์ต่างๆ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอว์สำคัญที่จะเข้ามาเติมเต็ม และเสริมความแข็งแกร่งด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของแอสเซทไวส์อีกด้วย


    “ผมเชื่อว่าปีนี้ จะเป็นอีกหนึ่งปีแห่งการเติบโตของแอสเซทไวส์ ทั้งการขยายธุรกิจสู่ทำเลใหม่ๆ ที่มีศักยภาพอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงการพัฒนาโครงการรูปแบบใหม่ๆ เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิต เพื่อมุ่งส่งมอบบ้านคุณภาพที่สร้างความสุขให้ลูกค้าอย่างแท้จริง จากกลยุทธ์ที่เราวางไว้ในปีนี้ เรามั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างแน่นอน” กรมเชษฐ์ กล่าวทิ้งท้าย



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : เครือบีทีเอสผนึกอนันดาฯ เปิดตัว “เดอะ เรสซิเดนเซส 38” เรสซิเดนซ์หรูติดรถไฟฟ้าทองหล่อ

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine