Lionel Lee ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นให้ กฤษณ์ ณรงค์เดช เป็นประธานคณะกรรมการบริษัท และ กรณ์ ณรงค์เดช เป็นกรรมการบริษัท โดยหากได้รับอนุมัติแล้ว ทั้ง 2 ท่านจะเป็นกรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร
เพื่อนำเสนอผู้ถือหุ้นในการพิจารณาอนุมัติรายการดังกล่าว คณะกรรมการได้มีกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2562 เป็นวันพุธที่ 20 พฤศจิกายน 2562 เวลา 14:00 น. ณ ห้องสุรศักดิ์ 1 ชั้น 11โรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร
ในการตัดสินใจของคณะกรรมการ เพื่อนำเสนอต่อผู้ถือหุ้นในวาระนี้ คณะกรรมการได้เล็งเห็นว่าบุคคลดังกล่าวในครอบครัวณรงค์เดช เป็นผู้ที่มีความสามารถและประสบการณ์ของการทำธุรกิจใน บริษัท เคพีเอ็น แลนด์ จำกัด (KPNL) ที่หลากหลาย และมีความเชี่ยวชาญในด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมระดับบนเช่นเดียวกัน พร้อมทั้งมีวิสัยทัศน์ในการวางกลยุทธ์และให้คำแนะนำด้านการพัฒนาธุรกิจเป็นอย่างดี ซึ่งการเข้ามาเสริมศักยภาพทางธุรกิจในครั้งนี้ บริษัทมองว่าจะส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทในอนาคต
โดยบทบาทหน้าที่ของกรรมการทั้ง 2 ท่าน นั้นคือ กำหนดนโยบายการดำเนินงานของบริษัท เพิ่มช่องทางในการขยายฐานลูกค้า พร้อมแนะนำผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทต่อกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าเดิมของ KPNL
“กรรมการที่เข้ามาจาก KPNL นั้น มีบทบาทเพื่อสนับสนุนการขยายฐานลูกค้าใหม่ ทั้งในแง่ของอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย และเพื่อเช่า ทั้งนี้กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ยังคงถือครองหุ้นในสัดส่วนเดิม ทางกลุ่ม ไรมอน แลนด์ มั่นใจว่าการสนับสนุนจากครอบครัวณรงค์เดชจะช่วยให้บริษัทรักษาฐานที่แข็งแกร่งในฐานะผู้นำตลาดในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับหนึ่งที่ 16% ในตลาดนี้” Lionel Lee กล่าว
ปัจจุบัน กลุ่ม KPNL รวมกับหุ้นที่กฤษณ์ ณรงค์เดช ถือในนามส่วนตัวมีจำนวนรวม 892 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 21.4% ( ข้อมูลการถือหุ้น ณ วันที่ 24 กรกฎาคม 2562 ) โดยเมื่อมองโครงสร้างคณะกรรมการของ ไรมอน แลนด์ ในปัจจุบันที่มีตำแหน่งกรรมการรวมทั้งหมด 9 ท่าน การแต่งตั้งบุคคลครอบครัวณรงค์เดชเป็นตัวแทนของ KPNL ให้ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริษัทนั้น กำหนดให้สูงสุดไม่เกินจำนวน 2 ท่าน จาก 9 ท่านดังกล่าว จะเห็นว่าบุคคลในครอบครัวณรงค์เดชที่ได้รับการแต่งตั้งเข้ามาเป็นกรรมการบริษัทจะไม่สามารถมีอิทธิพลหรือควบคุมการดำเนินการหรือการตัดสินใจในเรื่องใดๆ ของคณะกรรมการบริษัท แต่จะเข้ามาช่วยผลักดันในด้านการขยายฐานลูกค้า ซึ่งจะทำให้บริษัทรักษาความเป็นอันดับหนึ่งด้านมาร์เก็ตแชร์ในตลาดคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่อย่างแข็งแกร่งต่อไป
อ่านเพิ่มเติม