แอสเซทไวส์ อสังหาฯ ย่านสะพานใหม่-รัชดาฯ เตรียมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ปีหน้า วางเป้าปี 2561 รับรู้รายได้ก้าวกระโดด 4,000 ล้านบาท กางแผนเปิดตัว 6 โครงการ คว้าที่ดินห่างโรงพยาบาลศิริราช 600 เมตรจับกำลังซื้อแพทย์พยาบาล-นักศึกษาม.ธรรมศาสตร์
กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2560 ที่ผ่านมา บริษัทมีการเปิดตัวโครงการรวม 6 โครงการ มูลค่ารวม 4,445 ล้านบาท อาทิ โครงการคอนโดมิเนียม Wynn โชคชัยสี่ คอนโดฯ Kave ม.กรุงเทพ รังสิต คอนโดฯ Brown พหลโยธิน-สะพานใหม่ โดยทำยอดขายรวม 3,336 ล้านบาท รับรู้รายได้ไป 829 ล้านบาท และมียอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์ (แบ็กล็อก) รวม 5,508 ล้านบาท
สำหรับปี 2561 บริษัทวางแผนเปิดตัว 6 โครงการ มูลค่ารวม 4,000-5,000 ล้านบาท อาทิ คอนโดฯ Brown ห้วยขวาง ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์ Glam ลาดพร้าว 71 ราคาเริ่มต้น 12 ล้านบาท คอนโดฯ Atmoz ลาดพร้าว 15 ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดขาย 4,200 ล้านบาท เป้ารับรู้รายได้ 4,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ยอดรับรู้รายได้ที่จะก้าวกระโดดขึ้นมานั้นเกิดจากแบ็กล็อกที่จะโอนในปีนี้ราว 4,000 ล้านบาท
นอกจาก 3 โครงการดังกล่าว แอสเซทไวส์ยังมีอีกหนึ่งโครงการที่น่าจับตามอง คือ คอนโดฯ
Brown ศิริราช-อิสรภาพ มูลค่าโครงการ 600-700 ล้านบาท เนื้อที่ 1 ไร่ ทำเลติดถนนใหญ่ห่างจากรพ.ศิริราช 500-600 เมตร ซึ่งกำลังออกแบบโครงการ คาดว่าจะก่อสร้างเป็นอาคารสูง 8 ชั้น ราคาเริ่มต้นราว 2 ล้านกว่าบาท หวังจับกลุ่มแพทย์ พยาบาล รวมถึงนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจะเปิดตัวได้ช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ ส่วนอีก 2 โครงการที่เหลือยังอยู่ระหว่างคัดเลือกที่ดิน
กรมเชษฐ์ กล่าวต่อว่า
แอสเซทไวส์วางแผนการเติบโตปี 2560-2564 ต้องการเติบโตเฉลี่ยปีละ 20% โดยในปี 2564 วางเป้ายอดขายที่ 7,500 ล้านบาท ซึ่งทำให้มองว่าบริษัทต้องการระดมทุนเพื่อแข่งขันในตลาด รวมถึงการผลักดันให้ระบบภายในบริษัทมีมาตรฐาน ดึงดูดให้มืออาชีพเข้ามาร่วมงานด้วยมากขึ้น จึงตัดสินใจเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ปัจจุบันมีที่ปรึกษาทางการเงินคือเอเชียพลัส คาดว่าจะสามารถยื่นไฟลิ่งได้ช่วงต้นปี 2562 และเปิดขาย IPO ช่วงไตรมาส 3-4/62
“ตอนนี้ที่ดินในเมืองแพงมาก สมมติถ้าเราต้องการที่ดินย่านสุขุมวิท 2 ไร่ อาจจะต้องลงทุนซื้อที่ดินไม่ต่ำกว่า 1,600 ล้าน ถ้าเราไม่มีแหล่งเงินทุนนอกจากธนาคาร เงินทุนของเราคงซื้อไม่ได้ นอกจากนี้ผมยังอยากให้บริษัทได้สร้างระบบภายในที่ชัดเจน ทำให้บริษัทแข็งแกร่ง และมีทีมงานที่เชี่ยวชาญมากขึ้น”
กรมเชษฐ์มองว่า แม้จะเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ แล้ว แต่
ช่วง 3 ปีแรกบริษัทจะยังเน้นแนวทางเดิมคือการลงทุนกลุ่มคอนโดมิเนียม low rise (ความสูง 8 ชั้น) เป็นหลัก และถ้าหากมีโอกาสซื้อที่ดินก็สนใจที่จะพัฒนาคอนโดฯ high rise ในกลุ่มราคาที่เหมาะสมกับทำเล (ปัจจุบัน คอนโดฯ ส่วนใหญ่ของบริษัทอยู่ในกลุ่มราคา 6.5 หมื่น – 1 แสนบาท/ตร.ม.) รวมถึงการพัฒนาโครงการแนวราบซึ่งบริษัทเน้นการพัฒนาโครงการขนาดเล็กแต่อยู่ในทำเลใกล้เมืองซึ่งเป็นตลาดระดับบน อย่างที่ผ่านมาบริษัทเคยพัฒนา The Honor ประดิษฐ์มนูธรรม และปีนี้จะมีโครงการ Glam ลาดพร้าว 71
ในขณะที่การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่า ในช่วงแรกจะยังไม่มีการลงทุน แต่อยู่ในความสนใจระยะยาว ส่วนโครงการในต่างจังหวัดเชื่อว่ายังไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเข้าลงทุน
“จุดขายของเราที่เป็นรายเล็กจะสู้กับรายใหญ่อย่างไร เรามองที่คุณภาพและการบริการหลังการขาย การก่อสร้างเราใช้วิศวกรบริษัทเดียวกับรายใหญ่ เช่น วิศวภัทร์ คุณภาพเราจึงเทียบเท่า และมีแผนก QC (ควบคุมคุณภาพ) ตรวจสอบอีกครั้ง ปัจจุบันเรามียูนิตที่เป็น zero defect (การก่อสร้างที่ไม่มีจุดผิดพลาด) ในจุดใหญ่ๆ ประมาณ 80% ของยูนิตทั้งหมด นอกจากนี้นิติบุคคลเราเลือกใช้บริษัทที่มีชื่อเสียงเพื่อป้องกันปัญหาการบริหารผิดพลาด เช่น QPM หรือพลัส พร็อพเพอร์ตี้” กรมเชษฐ์กล่าว
ทั้งนี้ ปีที่ผ่านมาแอสเซทไวส์ยังเสริมเรื่องการบริการหลังการขาย โดยจัดตั้ง
Asset Wise Club ให้ลูกบ้านเป็นสมาชิกเพื่อรับสิทธิทำกิจกรรมร่วมกัน เน้นหนักด้านสุขภาพ ตั้งแต่การออกแบบโครงการ เช่น สระว่ายน้ำโครงการต้องมีความยาวเหมาะสมกับการออกกำลังกายได้จริง มีเซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิในห้องชุดเพื่อให้พัดลมดูดอากาศทำงานอัตโนมัติ และล่าสุดจับมือกับสตาร์ทอัพ MeID (มี ไอดี) และ Xiaomi พัฒนา smart watch เฉพาะให้กับลูกบ้าน
Forbes Facts
กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ก่อตั้งบริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด ในปี 2547 เริ่มต้นจากการพัฒนาโครงการแนวราบในโซนรามอินทรา ก่อนจะเริ่มพัฒนาคอนโดมิเนียมอย่างจริงจังเมื่อปี 2556 จนถึงปัจจุบัน บริษัทมีพอร์ตโครงการแนวสูงราว 90% ขณะที่โครงการแนวราบลดเหลือ 10%