ทีซีซี กรุ๊ป ในเครือไทยเบฟเวอเรจ ทุ่มทุนสร้างโครงการยักษ์ One Bangkok บนที่ดิน 104 ไร่หัวมุมถนนพระราม 4-ถนนวิทยุ เทเม็ดเงิน 1.2 แสนล้านบาทพัฒนาโครงการอสังหาฯมิกซ์ยูส ออฟฟิศ-รีเทล-โรงแรม-ที่พักอาศัย เปิดมาสเตอร์แพลนสร้างตึกสูงที่สุดในไทย 90 ชั้น 380 เมตร หวังเป็นแลนด์มาร์กแห่งประเทศ
เจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการ
กลุ่มบริษัท ทีซีซี และกลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส เซ็นเตอร์พอยท์ ลิมิเต็ด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมพัฒนาที่ดินบริเวณหัวมุมถนนพระราม 4-ถนนวิทยุ ขนาด 104 ไร่ ซึ่งบริษัทได้รับสิทธิเช่าจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ พัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูส
One Bangkok แหล่งรวมพื้นที่ออฟฟิศบิลดิ้ง รีเทล โรงแรม และที่พักอาศัย
“บริษัทรู้สึกเป็นเกียรติที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์อนุญาตให้ทีซีซี กรุ๊ปเป็นผู้พัฒนาที่ดินผืนสำคัญนี้ เราได้รวมบุคลากรจากทั้งทีซีซีและเฟรเซอร์สฯ จากทั่วโลกมาช่วยกันทำงานบนที่ดินผืนนี้ ซึ่งอยากจะให้เป็นแลนด์มาร์กของไทยและให้เป็นที่รู้จักของโลก” เจริญกล่าว
ปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส เซ็นเตอร์พอยท์ ลิมิเต็ด กล่าวต่อว่า คอนเซปท์การออกแบบ One Bangkok ต้องการให้เป็นแลนด์มาร์กของไทย เป็น City within the city เมืองที่ทุกคนอยากอาศัยอยู่ เป็นย่านธุรกิจชั้นนำดึงดูดบริษัทต่างๆ เข้ามาใช้เป็นสำนักงาน และช่วยยกระดับการวางผังเมืองจากการมีสิ่งแวดล้อมที่ร่มรื่นและสะดวกต่อคนเดินเท้าในโครงการ
โดยโครงการ One Bangkok เกิดจากความร่วมมือของผู้ถือหุ้น 2 บริษัท คือ บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ท (ประเทศไทย) จำกัด ถือหุ้น 80.1% และบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ถือหุ้น 19.9% จัดตั้งเป็น
บริษัท วัน แบ็งคอก โฮลดิ้งส์ จำกัด ทุนจดทะเบียน 3.58 หมื่นล้านบาท
และเตรียมลงทุนในโครงการนี้มูลค่า 1.2 แสนล้านบาท บนพื้นที่พัฒนารวม 1.83 ล้านตารางเมตร โดยได้รับสัญญาเช่าจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ผ่าน บริษัท เกษมทรัพย์วัฒน จำกัด ในเครือทีซีซี เป็นเวลา 30+30 ปี โดยได้รับเวลาวางแผนและก่อสร้างอีก 9 ปี นับจากปี 2557 และบริษัทจะเริ่มการก่อสร้างภายในสิ้นปีนี้
สำหรับการบริหารโครงการหลังจากสร้างเสร็จ บริษัท วัน แบงค็อก โฮลดิ้งส์ จำกัด จะบริหารเอง แต่ยังไม่มีแผนที่ชัดเจนว่าจะเป็นเชนโรงแรมใดหรือศูนย์การค้าแบรนด์ใดเข้ามาบริหาร อย่างไรก็ตาม ทั้งทีซีซี กรุ๊ปและเฟรเซอร์สต่างมีศักยภาพที่จะบริหารส่วนโรงแรมและรีเทลได้
ด้าน
ซู หลิน ซูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
โครงการ One Bangkok เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวมีพื้นที่ทั้งหมด 1.83 ล้านตารางเมตร
แบ่งพื้นที่พัฒนาหลักๆ ออกเป็น อาคารสำนักงานเกรดเอ 5 อาคาร พื้นที่เช่ารวม 5 แสนตร.ม., โรงแรมระดับ 5 ดาว 5 แห่ง รวมจำนวน 1 พันห้อง, คอนโดมิเนียมระดับ ultra luxury 3 อาคาร สูงประมาณ 20-30 ชั้น และพื้นที่รีเทลอีก 4 แห่ง นอกจากนี้จะมีบริเวณพลาซ่า 1 หมื่นตร.ม. ใช้จัดกิจกรรมหรือคอนเสิร์ตต่างๆ ได้
การออกแบบพื้นที่ภายในมีพื้นที่สีเขียว 50 ไร่และยังอยู่ใกล้สวนลุมพินี โดยการออกแบบตึกสูงทั้ง 5 อาคารของโครงการจะทำให้สามารถมองทิวทัศน์ของสวนลุมพินีให้ได้มากที่สุด มีถนนขนาดใหญ่ (boulevard) กว้าง 33 เมตรในพื้นที่ และออกแบบให้ทางเดินสามารถเชื่อมต่อสู่สถานีรถไฟฟ้า MRT ลุมพินีได้สะดวก คาดว่าเมื่อก่อสร้างเสร็จในปี 2568 จะมีคนเข้ามาทำงานและพักอาศัยในพื้นที่ 6 หมื่นคน
ซูกล่าวต่อว่า ในปี 2564 พื้นที่บางส่วนใน One Bangkok จะได้รับการพัฒนาและเปิดบริการได้ เช่น พื้นที่รีเทลส่วนใหญ่ โรงแรมและออฟฟิศบิลดิ้งบางส่วน ส่วนคอนโดฯ นั้นยังอยู่ระหว่างศึกษาราคาที่เหมาะสมและจังหวะเวลาเปิดขาย
นอกจากนี้ไฮไลต์ของอาคารใน One Bangkok อาคารหนึ่งเป็นตึกที่ออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจากดอกพิกุล สูง 90 ชั้น หรือ 380 เมตร ภายในประกอบด้วยออฟฟิศ รีเทล และจุดชมวิว
ทั้งนี้
Forbes Thailand รายงานว่า ปัจจุบันตึกที่สูงที่สุดในไทยคือตึกมหานคร พัฒนาโดยบมจ.เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น สูง 77 ชั้น หรือ 314 เมตร โดยคาดว่าอนาคตจะถูกแทนที่ตำแหน่งแชมป์ด้วยตึกแมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟร้อนท์ เรสซิเดนเซส ในโครงการไอคอนสยาม ที่สูง 315 เมตร พัฒนาโดยบริษัทร่วมทุนระหว่างบมจ.แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเมนต์ คอร์ปอเรชั่น, สยามพิวรรธน์ และเครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งคาดว่าจะสร้างเสร็จในปี 2561 อย่างไรก็ตามหากอาคารพิกุลใน The One Bangkok สร้างเสร็จจะทำให้ตำแหน่งแชมป์ตึกสูงที่สุดในไทยถูกเปลี่ยนมืออีกครั้ง