เทรนด์การอยู่อาศัยในคอนโดยังคงเติบโต แม้ที่ผ่านมาตลาดชะลอตัวเพราะสถานการณ์โควิด-19 แต่ 3 เดือนแรกของปีนี้ โนเบิล สามารถทำยอดพรีเซล 5 โครงการใหม่ได้กว่า 6,400 ล้านบาท สะท้อนตลาดฟื้นตัวชัดเจน จึงรุกเปิดคอนโดใหม่ เป็นตึกสูงโครงการแรกบนถนนเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา มูลค่ากว่า 4,800 ล้านบาท
ศิระ อุดล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวในงานเปิดตัวโครงการ โนเบิล ครีเอท ถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ว่า มีการฟื้นตัวชัดเจนสะท้อนได้จากยอดขาย (Pre-sale) 5 โครงการใหม่ของโนเบิล ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 พบว่าได้การตอบรับเป็นอย่างดี สร้างยอดขายได้กว่า 6,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 150% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และยอดขายดังกล่าวถือเป็นการสถิติเติบโตสูงสุดใหม่รายไตรมาส (New Highs) โดยโครงการที่เปิดขายใหม่จำนวน 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 15,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการ นิว ดิสทริค อาร์9, 2.โครงการ นิว เมกา พลัส บางนา, 3.โครงการ นิว ซี-สแควร์ สวนหลวง สเตชั่น, 4.โครงการ นิว อีโว อารีย์ และ 5.โครงการ นิว คอนเน็กซ์ คอนโด ดอนเมือง ทุกโครงการได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีสะท้อนให้เห็นจาก ยอดขายเฉลี่ย 40%-50% ของทุกโครงการรวมกันร่วมทุนยู ซิตี้
โครงการ "โนเบิล ครีเอท" เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ร่วมทุนกับ บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ U บริษัทในกลุ่ม บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ตั้งอยู่บนพื้นที่ 12 ไร่เศษ พัฒนาในรูปแบบของคอนโดมิเนียม High Rise แห่งแรก และแห่งเดียวบนถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ในนาม บริษัท มาเจสติก พาร์ค จำกัด ซึ่งประกอบด้วย 6 อาคาร ความสูง 24,25,28,29 และ 33 ชั้น ขนาดห้องชุดมีตั้งแต่ 22.90-52.87 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้นที่ 1.99-5.9 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ยที่ 110,000 บาท/ตารางเมตร มูลค่าโครงการกว่า 4,800 ล้านบาท ดังนั้น โนเบิล จึงมั่นใจและเดินหน้าเปิดโครงการ “โนเบิล ครีเอท” โดยเชื่อว่าจะได้การตอบรับที่ดีทั้งจากกลุ่มเรียลดีมานด์และนักลงทุน ด้วยศักยภาพของทำเล การออกแบบการอยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ การออกแบบ ฟังก์ชันการอยู่อาศัย ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 5 ไร่ ถือเป็นการส่งมอบคุณภาพชีวิตดีๆ ในราคาที่จับต้องได้ โดยเริ่มต้นที่ 1.99 ล้านบาท เป็นราคาดีที่สุดในทำเลที่อยู่อาศัยลักชัวรี่ ย่านเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา โครงการนี้เปิดพรีเซลวันแรก 20 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป โดยจะเปิดขาย 3 อาคารแรกก่อนคือ B, E และ F คาดว่าภายในระยะเวลา 3 เดือนนี้ จะสามารถทำยอดขายทั้ง 6 อาคาร ได้ประมาณ 40% ด้านการก่อสร้างเริ่มในปี 2565 และแล้วเสร็จในไตรมาส 3/2568 "โนเบิล ครีเอท ถือว่าเป็นคอนโดฯ แห่งแรกที่อยู่ติดถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา และมั่นใจว่าจะสามารถได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า เพราะจากในช่วง 3-4 เดือนที่เปิดขายโครงการใหม่มา แต่ละโครงการสามารถทำยอดขายได้ถึง 40-50% จึงเชื่อว่าภาพรวมตลาดอสังหาฯ เริ่มฟื้นตัวแล้ว” ศิระ กล่าวและว่า สำหรับตลาดเช่าในย่านนี้อาจยังเป็นรองและยังไม่มีสถิติ แต่เชื่อว่าราคาปล่อยเช่าน่าจะอยู่ที่ระดับ 500-700 บาท/ตารางเมตร โครงการ โนเบิล ครีเอท เป็นคอนโดมิเนียม High Rise แห่งแรกบนถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา มูลค่าโครงการกว่า 4,800 ล้านบาท ถูกพัฒนาภายใต้แนวคิด “Road to Create…ทุกรูปแบบของการใช้ชีวิต มุ่งตรงมาที่นี่” พัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม 6 อาคาร รวม 1,250 ยูนิต โดยมี 1 อาคารเป็น Pet Friendly ามารถเลี้ยงสัตว์ได้ จำนวน 1 อาคารห้องหน้ากว้างพื้นที่ส่วนกลางใหญ่
พื้นที่โครงการทั้งหมด 12 ไร่ มีจุดเด่นที่การจัดพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ถึง 2,500 ตร.ม. และการออกแบบห้องชุดทั้ง 4 แบบ รวมถึงห้อง Combine ล้วนมีจุดเด่นที่การดีไซน์หน้ากว้าง รับวิวเมืองและสวนสีเขียวกลางโครงการ ตอบโจทย์ฟังก์ชันการอยู่อาศัย ที่ตั้งของโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ และติดคริสตัล พาร์ค 300 เมตร เชื่อมต่อการเดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้า พร้อมรถ Shuttle Bus รับ-ส่ง จากโครงการไปยังสถานีรถไฟฟ้า ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และสถานที่ใกล้เคียง โดยโครงการมีกำหนดแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2568 ทั้งนี้ทำเลที่ตั้งโครงการอยู่ติดห้างคริสตัล พาร์ค 300 เมตร ถือเป็นพื้นที่ที่ดีที่สุดบนถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา เป็นทำเลศักยภาพ และที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี่อันดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ มีการวางผังเมืองและสาธารณูปโภคที่เป็นต้นแบบของถนนยุคใหม่ เชื่อมต่อการเดินทางด้วยถนนหลักได้หลายสายทั้ง สุขุมวิท พระราม 9 ลาดพร้าว เกษตร-นวมินทร์ และจุดขึ้นลงทางด่วนเข้าสู่ใจกลางเมือง ห่างจากใจกลางย่านธุรกิจอย่างทองหล่อ เอกมัย 10 นาที นอกจากนี้ยังรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก เป็นแหล่งไลฟ์สไตล์ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และโรงเรียนนานาชาติ อีกทั้งถนนเส้นนี้ยังอยู่บนแผนพัฒนารถไฟฟ้าสายสีเทา ซึ่งมีกำหนดเริ่มก่อสร้างในปี 2565 ซึ่งโครงการโนเบิล ครีเอท อยู่ใกล้สถานีโยธินพัฒนา ปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ส่งผลให้ราคาที่ดินในย่านนี้มีการเติบโตเฉลี่ยกว่าร้อยละ 30 ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา และเมื่อรถไฟฟ้าสายสีเทาเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ จะส่งผลให้มีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และราคาที่ดินเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง อ่านเพิ่มเติม: ‘Ana Beach House’ 12 ลักชัวรี่วิลล่า ดีไซน์หรูอลังการไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine