3 ยักษ์ใหญ่ ห้างฯ ไทย ชูแผน New Normal พร้อมรับมาตรการจากรัฐ - Forbes Thailand

3 ยักษ์ใหญ่ ห้างฯ ไทย ชูแผน New Normal พร้อมรับมาตรการจากรัฐ

ห้างสรรพสินค้าไทย ชูแผน New Normal เตรียมความพร้อมหลัง ศบค. พิจารณามาตรการผ่อนคลายระยะที่ 2 ในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ ร่วมใจนำอุตสาหกรรมค้าปลีกของไทยมูลค่า 3.5 ล้านล้านบาท กลับคืนมา

การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจค้าปลีกทั่วโลกโดยยอดค้าปลีกในสหรัฐอเมริกาและจีน ช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ลดลงต่อเนื่อง 20-25% ด้าน EIC ธนาคารไทยพาณิชย์ คาดว่ามูลค่าธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทยจะหายไปกว่า 5 แสนล้านบาท ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด -19 (ศบค.) เตรียมพิจารณามาตรการผ่อนคลายระยะที่ 2 ซึ่งการเปิดห้างสรรพสินค้าเป็นหนึ่งในหัวข้อที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะค้าปลีกถือเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีแรงงานเกี่ยวข้องมากกว่า 10 ล้านคน ทำให้ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าแต่ละรายต้องเตรียมมาตรการชุดใหญ่ วางแผนการเปิดให้บริการอย่างละเอียด รัดกุม และเข้มข้นที่สุด เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะไม่ให้เกิดการระบาดระลอกสอง หากมีการผ่อนคลายให้เปิดห้างสรรพสินค้าได้ในวันที่ 17 พฤษภาคม นี้

กลุ่มเดอะมอลล์งัด 100 มาตรการ

เกรียงศักดิ์ ตันติพิภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดิ เอ็มโพเรี่ยม กรุ๊ป และกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด  กล่าวว่า ที่ผ่านมา นอกจากผู้ประกอบการค้าปลีกจะได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจแล้ว การระบาดของโควิด-19 ยังส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ที่เรียกว่า NEW NORMAL ซึ่งเป็นปัจจัยที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น การใส่ใจในเรื่องของสุขภาพของผู้บริโภคที่มากขึ้น การใส่หน้ากาก ตรวจวัดอุณหภูมิกลายเป็นเรื่องปกติ การเว้นระยะห่างทางสังคมเป็นเรื่องที่ต้องปฎิบัติทุกคน รวมถึง Digital life ที่ดิจิทัลได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการดำรงชีวิตของคนทุกคน ระบบการจ่ายเงินแบบ TOUCHLESS PAYMENT สิ่งเหล่านี้เป็นหลักสำคัญในการบริหารศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าในยุคใหม่ ที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญในเรื่องของความปลอดภัยของศูนย์การค้า ร้านค้า ผู้บริโภคและพนักงานเป็นอันดับแรก จึงจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคได้ จากแนวโน้มที่เกิดขึ้น กลุ่มเดอะมอลล์ได้คิดค้นและพัฒนามาตรการต่างๆ ให้สอดรับกับ NEW NORMAL เป็นประสบการณ์ช้อปปิ้งไลฟ์สไตล์ใหม่ ภายใต้แนวคิด “TMG TOUCHLESS SOCIETY หรือสังคมไร้สัมผัสประกอบด้วย 5 มาตรการหลัก 34 มาตรการย่อย สำหรับลูกค้า และ 6 มาตรการเสริม 66 มาตรการย่อย สำหรับ 5 กลุ่มธุรกิจ รวมทั้งหมด 100 มาตรการ นับตั้งแต่ลูกค้าเข้าศูนย์การค้า จนถึงการใช้บริการในส่วนต่างๆ ของห้างสรรพสินค้า เช่น บริการไร้สัมผัส (TOUCHLESS FACILITIES) สแกนเพื่อจอดรถไม่ต้องสัมผัส บริการกดลิฟท์ บริการช้อปปิ้งแบบไร้เงินสด การเช็คอินอย่างเข้มข้นผ่านการลงทะเบียนเช็คอินและเช็คเอาท์ มาตรการลดความแออัด มาตรการสุขอนามัยเชิงรุก มาตรการเฝ้าระวังติดตาม เป็นต้น สำหรับพนักงาน ผู้ให้บริการต้องมีมาตรการด้านสุขอนามัยอย่างเข้มข้น ตั้งแต่มีใบรับรองแพทย์ ตรวจวันอุณหภูมิวันละ 2 ครั้ง มาตรการทำความสะอาด ณ จุดขาย การจำกัดลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในแต่ละเคาน์เตอร์ เป็นต้น

สยามพิวรรธน์ปั้นรีเทลโมเดลใหม่

ชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้บริหารห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัพเวอรี่ และพันธมิตรของโครงการไอคอนสยาม กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ทำให้วิถีชีวิตของคนเปลี่ยนแปลงไปในทุกด้า ธุรกิจรีเทลต้องปรับตัวก้าวสู่โมเดลใหม่ เพื่อสร้างบรรทัดฐานใหม่ในการดำเนินธุรกิจศูนย์การค้าในโลกอนาคตอย่างยั่งยืน เป็นระบบนิเวศน์ใหม่ของธุรกิจค้าปลีกที่จะสร้างความสุขให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้บริโภค ผู้ประกอบการร้านค้า หรือกลุ่มผู้ค้าย่อย ชุมชน สังคม และประเทศชาติ สำหรับกลุ่มสยามพิวรรธน์ เตรียมการเปิดให้บริการศูนย์การค้า ภายใต้แนวคิด “New Beginning – New Smile” เป็นการสร้างสังคมค้าปลีกในลักษณะไทยช่วยไทยเพื่อสร้างความสุขและรอยยิ้มให้ผู้ประกอบการที่ขาดรายได้ ต้องการความช่วยเหลือ โดยไม่คิดค่าเช่าพื้นที่ พร้อมนำเสนอสินค้าและบริการที่ตอบสนองชีวิตวิถีใหม่ เช่น สินค้าเพื่อสุขภาพและรักษาสุขอนามัย สินค้าที่ผลิตโดยไม่ใช้สารเคมี หรือสินค้าออร์แกนิค ที่มีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สินค้าที่ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ เป็นต้น นอกจากนี้ ได้สร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งใหม่ที่ผสานทุกช่องทาง หรือ Omni Channel Shopping โดยถือเป็นครั้งแรกในเมืองไทยที่เปิดประสบการณ์ช้อปปิ้งลักชัวรี่แบรนด์ผ่าน S-commerce ด้วยบริการ “Luxury Chat & Shop” รวมถึงบริการ OneSiam & ICONSIAM Chat & Shop ช่องทางนำเสนอสินค้าในชีวิตประจำวัน การบริการ Call & Pick Up บริการสั่งซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากกูร์เมต์มาร์เก็ต รวมถึงบริการ Eat@Home และ Eat@Condo สำหรับร้านอาหารในสยามพารากอนและไอคอนสยาม ขณะที่มีมาตรการสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าที่มาใช้บริการด้วยมาตรการสุขอนามัยและความปลอดภัยด้วยนวัตกรรมสร้างสรรค์ โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้ามากขึ้น ผ่านแอปพลิเคชัน หรือ QR Code มาตรการความปลอดภัยของศูนย์การค้า โดยใช้เทคโนโลยีในการทำความสะอาดฆ่าเชื้อ เช่น ประตูพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ หุ่นยนต์อัจฉริยะ True5G Temi Thermal Scan AutoBot เป็นต้น

เซ็นทรัลชูยุทธศาสตร์ 5 พร้อม

ญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่มเซ็นทรัลได้ประกาศแผน “ยุทธศาสตร์ 5 พร้อม” เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมค้าปลีกของไทยมูลค่า 3.5 ล้านล้านบาท ให้ขับเคลื่อนอีกครั้ง พร้อมทั้งเร่งกระจายรายได้ให้กับคนไทยทุกระดับตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ และเอสเอ็มอีไทยกว่า 4.5 แสนราย รวมถึงแรงงานที่เกี่ยวข้องกว่า 19 ล้านคนกลับเข้าสู่ระบบ ผ่าน Central Retail & Service Platform ที่ให้ความสำคัญ 2 เรื่อง คือ 1.ความสะอาดและสุขอนามัย และ 2. การฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก สำหรับยุทธศาสตร์ 5 พร้อม ประกอบด้วย 1.พร้อม…พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย ด้วยการช่วยเหลือครบวงจร โดยเฉพาะการดึงแรงงานในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 19 ล้านคนกลับเข้าสู่ระบบ เพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ผ่านช่องทางค้าปลีกทั้งหมดของกลุ่มเซ็นทรัล รวมถึงผู้ประกอบการเอสเอ็มอี 2.พร้อม…ยกระดับและชูมาตรฐานความสะอาดต่อยอดความแข็งแกร่งของระบบสาธารณสุขไทย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขั้นสูงสุด เช่น มาตรการฆ่าเชื้อ การจำกัดคนเข้าศูนย์ 1 คนต่อ 5 ตารางเมตร มาตรฐานด้าน Trace & Tracking 3.พร้อม…ใช้นวัตกรรมสร้างประสบการณ์ใหม่ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในยุค Seamless & Contact-Free Economy เช่น ระบบ Central Retail Smart FIN ด้วยแอปพลิเคชัน Dolfin ระบบ Digital Voucher 4.พร้อม…ต้อนรับและให้บริการลูกค้าทุกช่องทางในยุค NEW NORMAL ประสบการณ์ช้อปปิ้งในทุกช่องทาง 5.พร้อม…เร่งเครื่องแพลตฟอร์ม Central Retail & Service อย่างเต็มที่ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของทุกภาคส่วน ได้แก่ การขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องในส่วนที่สำคัญต่อธุรกิจ สร้างแพลตฟอร์มสำหรับคู้ค้า ซัพพลายเออร์ และเอสเอ็มอี เพื่อสนับสนุนเกษตรและเศรษฐกิจฐานรากให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ นี่คือมาตรการส่วนหนึ่งของ 3 กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ของประเทศ ที่นำเสนอออกมาเพื่อให้ภาครัฐพิจารณาประกอบแผนเปิดให้บริการศูนย์การค้าในวันที่ 17 พฤษภาคม นี้ และหากสามารถดำเนินการได้โดยไม่ก่อให้เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 รอบสอง ไทยจะกลายเป็นโมเดลใหม่สำหรับศูนย์การค้าทั่วโลก

คลิกอ่าน: บสย.ปรับองค์กรรับ New Normal วาง 6 ขุนพลเสริมแกร่งค้ำประกันสินเชื่อ