จากประสบการณ์ทีวีดาวเทียมและโอกาสการเติบโตที่เล็งเห็น สุรชัย เชษฐ์โชติศักดิ์ พร้อมนำทัพอาร์เอสร่วมแข่งขันในธุรกิจทีวีดิจิทัล เติมเต็มอาณาจักรผู้จัดหารายการบันเทิงทุกรูปแบบ พร้อมเป้าหมายในการขึ้นแท่นเป็น 1 ใน 3 ของอุตสาหกรรม
“การลงทุน ถ้าเราตัดสินใจช้าเกินไปก็ไม่ทัน เร็วเกินไปก็ไม่ดี ตรงจุดนี้ต้องอาศัยประสบการณ์มาช่วยพิจารณา ที่สำคัญก่อนจะกระโดดลงไปในธุรกิจไหน ต้องดูกติกาในการแข่งขันนั้นก่อนว่า เรามีโอกาสที่จะชนะหรือไม่ แล้วมาดูความพร้อมของตัวเอง อย่าประเมินว่า เราคือสุดยอดในทุกเรื่อง” สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เคยให้สัมภาษณ์กับ Forbes Thailand ในวันที่ช่อง 8 ก้าวสู่อันดับ 1 ในช่องระบบผ่านดาวเทียม พร้อมประกาศลุยธุรกิจทีวีดิจิทัล ด้วยการปรับผังรายการบางส่วนให้เข้ากับกติกาของช่องดิจิทัล เพื่อเติมเต็มอาณาจักรผู้จัดหารายการบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น เพลง วิทยุ โชว์บิซ โทรทัศน์ผ่านดาวเทียม และกีฬา
หนึ่งในตัวเต็งธุรกิจทีวีดิจิทัลมองเห็นความเป็นไปได้ในการพิชิตเป้าหมายการติดอันดับ 1 ใน 3 ของธุรกิจ จากความเปลี่ยนแปลงทางด้านส่วนแบ่งทางการตลาดที่เกิดขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยสองผู้นำตลาดที่เคยครองส่วนแบ่งรวมกันจำนวน 56% ถูกชิงเค้กส่วนแบ่งเหลือ 44% ขณะที่อันดับ 3 และ 4 สามารถสร้างรายได้เพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดจาก 5% เป็น 11% ซึ่งอาร์เอสถือเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับผู้ประกอบการหน้าใหม่
อาวุธสำคัญของอาร์เอสอยู่ที่การเตรียมความพร้อมตั้งแต่เริ่มต้น ก่อนจะทยอยปล่อยไม้เด็ดออกมาสร้างฐานผู้ชมอย่างต่อเนื่องเ ริ่มจากการเรียกความสนใจจากผู้ชมด้วยละคร รายการข่าว โดยรายการข่าวสามารถช่วงชิงความนิยมเป็นอันดับ 3 ของประเทศได้ในปัจจุบัน และเพิ่มสัดส่วนด้านกีฬา อาทิ การซื้อลิขสิทธิ์รายการกีฬาจากต่างประเทศ ได้แก่ ศึกมวยโลก ช่อง 8 HBO Boxing และ UFC มวยกรง 8 เหลี่ยม ซึ่งช่อง 8 ได้รับสิทธิในการถ่ายทอดสดตรงจากอเมริกาแต่เพียงผู้เดียว
ในไตรมาสสุดท้าย เพิ่มความเข้มข้นและหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยร่วมมือกับผู้ผลิตคอนเทนท์อย่าง บริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด รับจ้างผลิต รายการวาไรตี้ใหม่ 2 รายการ ได้แก่ ดาวประจำเมือง และ รายการบิ๊กเฮง ซึ่งเริ่มที่รายการวาไรตี้ก่อนในเฟสแรก และผลิตละครหรือซิทคอมในเฟสต่อไป
Fake Watches For Sale ดร.องอาจ สิงห์ลำพอง กรรมการผู้อำนวยการสายงานสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ดิจิทัลทีวี บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความร่วมมือล่าสุด “เรากับทางเจเอสแอลจะมีการร่วมงานกันในหลายส่วน เพราะเจเอสแอลมีความถนัดและเป็นมืออาชีพการผลิตอยู่แล้ว ขณะที่ช่อง 8 เข้าถึงและมีฐานผู้ชมเหนียวแน่นอยู่ทั่วประเทศ พอมา plug in กันจึงกลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัว ผมมั่นใจว่าการผนึกกำลังกันจะยิ่งประสบความสำเร็จเร็วขึ้น”
ในปีนี้บริษัทเตรียมผลิตรายการวาไรตี้ใหม่เองอีก 5 รายการ เช่น รายการเรียลลิตี้เด็ก หรือ รายการวาไรตี้ทอล์คโชว์ ที่เชิญทั้งเซเลบและดาราที่อยู่ในกระแสเข้าร่วมรายการ ซึ่งการปรับเปลี่ยนรูปแบบนี้สอดคล้องกับแผนปรับสัดส่วนรายการ ได้แก่ ละคร 20% รายการวาไรตี้ 50% รายการข่าว 25% และรายการกีฬา 5% พร้อมทั้งเดินหน้าจัดกิจกรรมโรดโชว์ “ช่อง 8 พบเพื่อน” ทั่วประเทศ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้ชม
ปัจจุบันธุรกิจสื่อกลายเป็นธุรกิจหลักที่สามารถสร้างรายได้และผลกำไรจำนวนมากให้กับกลุ่มอาร์เอส โดยมีช่อง 8 เป็นหัวหอกสำคัญในการผลักดันรายได้ของบริษัทให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังเป็น 835.8 ล้านบาท เสริมทัพด้วยช่อง 2 สบายดีทีวี และ You Channel ส่งผลให้ธุรกิจโทรทัศน์เติบโตเพิ่มขึ้น 28% ควบคู่กับการเติบโตทางด้านเรตติ้งของสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ที่ไต่ระดับอยู่ในอันดับ 4 ของประเทศ ทั้งยังสามารถขยายกลุ่มคนดูในเมืองและหัวเมืองใหญ่ได้สำเร็จ สุรชัยคาดการณ์การปรับตัวเพิ่มขึ้นของยอดผู้ชมจาก 350,000 คนต่อนาทีเป็น 450,000 คนต่อนาทีโดยเฉลี่ย
ด้าน ดิษฐนพ วัธนเวคิน นักวิเคราะห์อาวุโสสายงานวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด ให้มุมมองเชิงบวกกับหุ้นของอาร์เอสจากผลประกอบการที่เติบโตก้าวกระโดด โดยนักวิเคราะห์ต่างๆ ขนานนามช่อง 8 ว่า “ขุมทรัพย์ใหม่ของอาร์เอส” ด้วยคอนเซปต์ผังรายการวาไรตี้เจาะกลุ่มผู้ชมต่างจังหวัดที่มีอยู่จำนวนมาก และละครที่เป็นจุดเด่นเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการย้ายช่อง 8 มาออกอากาศในระบบทีวีดิจิทัล ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทำให้การออกอากาศสามารถเข้าถึงครัวเรือนเพิ่มขึ้น
คลิ๊กอ่าน "บนทางสายใหม่ของ RS รุกช่องทีวีดิจิทัลเต็มรูปแบบ" ฉบับเต็มได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ NOVEMBER 2015 ในรูปแบบ E-Magazine
Cheap Fake Watches