‘ไวไว’ เตรียมส่ง ‘ไวไว ว้าว’ บะหมี่พรีเมียมท้าชน ‘มาม่า OK’ ประเดิมขายที่เซเว่นฯ 12 มิ.ย.นี้ ชี้เศรษฐกิจไม่ดี ขอขายแค่ 11 บาท - Forbes Thailand

‘ไวไว’ เตรียมส่ง ‘ไวไว ว้าว’ บะหมี่พรีเมียมท้าชน ‘มาม่า OK’ ประเดิมขายที่เซเว่นฯ 12 มิ.ย.นี้ ชี้เศรษฐกิจไม่ดี ขอขายแค่ 11 บาท

“ไวไว” ปั้นพระเอกตัวใหม่ ส่ง “ไวไว ว้าว” ท้าชน “มาม่า OK” บะหมี่พรีเมียม พร้อมขายที่ 7-Eleven ทั่วประเทศ 12 มิ.ย. นี้ ก่อนปูพรมทุกช่องทางเดือนหน้า ชี้เศรษฐกิจไม่ดี ขายแค่ 11 บาทพอ ตั้งเป้ารายได้ 600 ล้านบาทภายใน 3 ปี


    บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อ “ไวไว” เคยขยายตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพรีเมียมตั้งแต่ปลายปี 2551 ด้วยกระแสบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเกาหลีที่มาแรงมาก ไวไวได้ส่ง “ไวไวรส หมูแดงฮ่องกง” และ “ไวไวควิกกิมจิชิเก” ในราคาโปรโมชั่นซองละ 10 บาทออกสู่ตลาด

    แม้ไวไวรสหมูแดง จะมีเนื้อหมูแดงจริงๆ ในซอง มาพร้อมกับน้ำซุปรสจัดจ้าน และไวไวควิกกิมจิฯ ที่มีรสเด็ดถึงเครื่องด้วยซอสกิมจิ แครอทอบแห้ง สาหร่ายวากาเมะ พร้อมเส้นบะหมี่ที่เหนียวนุ่ม ไม่อืด อันเป็นเอกลักษณ์ของไวไว แต่การยอมรับบะหมี่พรีเมียม และพฤติกรรมการกินบะหมี่พรีเมียมในยุคนั้นยังคง “ล้ำเกินไป ไม่ถูกที่ และถูกเวลา”

    ในปีนี้ตลาดเต็มไปด้วยปัจจัยลบทั้งจากต่างประเทศและเมืองไทย เศรษฐกิจย่ำแย่ กำลังซื้อหดหาย หลายบริษัทยังรอดูสถานการณ์และไม่ลงทุนเพราะ “กลัว” แต่ผู้บริหารของบะหมี่ไวไวกลับ “กล้า” เพราะมองว่าทุกครั้งที่เกิด “วิกฤต” มักจะมี “โอกาส” ให้ไขว่คว้าเสมอๆ

    ยศสรัล แต้มคงคา ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ได้เล่าให้ฟังเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ไวไวพร้อมกลับมาทำตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพรีเมียมอีกครั้ง เพราะมันใช่ ถูกที่ทั้งเรื่องเวลาและโอกาส

    การเข้ามาของอาหารจากต่างประเทศ โดยเฉพาะอาหารญี่ปุ่นและเกาหลี ทำให้วัฒนธรรมการกินโดยเฉพาะประเภทบะหมี่ได้เริ่มก่อตัวขึ้นจากผู้บริโภคกลุ่มเล็กๆ และเริ่มแพร่หลายมากขึ้นหลังจากได้ดูซีรีส์เกาหลี ประกอบกับมีแบรนด์พรีเมียมส่งรสชาติใหม่ๆ สู่ตลาด ดึงคนใหม่ๆ เข้ามาลองชิม ทำให้ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพรีเมียมในเมืองไทย เติบโตเป็นตัวเลขสองหลักมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูประดับ mainstream ที่ราคาซองละ 7 บาท ซึ่งมีสัดส่วนการขายในตลาดกว่า 70% แต่มีการเติบโตเพียงปีละ 1-2% เท่านั้น ขณะที่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบถ้วยที่เน้นความสะดวกสบาย ก็ยังเติบโตราว 5% ต่อปีเท่านั้น

ยศสรัล แต้มคงคา


    ยศสรัล บอกว่า ในเดือนมิถุนายนนี้ ไวไวจะวางตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพรีเมียมอีกครั้ง แต่ไม่ยอมเปิดเผยว่า เป็นรสชาติอะไร บอกแต่เพียงว่าสินค้าใหม่จะมี 2 รสชาติ เป็นรสชาติที่แปลกใหม่ในตลาด 1 รสชาติ และรสชาติที่มีในตลาดอยู่บ้างแล้วอีก 1 รสชาติ พร้อมยืนยันด้วยความมั่นใจว่า ลูกค้าจะชอบสินค้าใหม่ 2 ตัวนี้ของไวไวแน่นอนทั้งคุณภาพเส้นที่เหนียวนุ่มและรสชาติอร่อย

    เมื่อวานนี้ (9 มิ.ย. 2568) ได้เกิดกระแสในโซเชียลมีเดียในเพจเฟซบุ๊กเพจหนึ่ง ด้วยข้อความว่า “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไวไว เหนียวนุ่ม ไม่อืด” จากการพูดตอบโต้ในเพจดังกล่าว รวมถึงหน้าเพจเฟซบุ๊กของไวไว ที่เริ่มมีการโปรโมต Wai Wai Wow ทำให้ทราบได้ว่าสินค้าใหม่ที่ไวไวกำลังจะวางตลาดให้เฉพาะที่เซเว่นอีเลฟเว่นมากกว่า 15,000 สาขาทั่วประเทศภายในวันที่ 12 มิถุนายนปีนี้คือ “ไวไว ว้าว” นั่นเอง เป็นการตั้งชื่อที่เรียบง่าย จำได้ไม่ยาก แต่ได้ “Wow Emotion” ที่สุดยอดมากๆ

    สำหรับปีนี้ ไวไว ว้าว จะวางตลาด 2 รสชาติคือ Korean Spicy Seafood (โคเรียน สไปซี่ ซีฟู้ด) และ Japanese Curry Cheese (แกงกระหรี่ญี่ปุ่นชีส) ราคาขายซองละ 11 บาท ภายหลังจากขายเป็นสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟให้ 7-Eleven เป็นเวลา 1 เดือนแล้ว สินค้านี้จะกระจายไปยังร้านค้าปลีกทั่วประเทศภายในเดือนกรกฎาคมปีนี้


    แม้ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคดูจะซบเซาใน 5 เดือนแรกของปีนี้ แต่เชื่อว่าตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในเมืองไทยจะคึกคักแน่นอน ดูจากการตั้งราคาขายบะหมี่ไวไวพรีเมียมที่ซองละ 11 บาท ห่างจากมาม่า OK ของบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ ที่ขายอยู่ที่ 15 บาท เป็นการขอท้าชนมาม่าตรงๆ และตั้งใจจูงใจให้ลูกค้า trade down จาก Mama OK มาลองเป็นลูกค้า ไวไว ว้าว ดูบ้าง

    ไวไว ซุ่มพัฒนา ไวไว ว้าว มา 2 ปีเต็ม ดังนั้นความพยายามของไวไวครั้งนี้ จะเข้มข้นขึ้นกว่าการเข้าสู่ตลาดบะหมี่พรีเมียมเมื่อหลายปีก่อน แหล่งข่าววงในกล่าวว่า จะมีการทุ่มงบประมาณการตลาดในอัตราเปอร์เซ็นต์ต่อยอดขายที่สูงกว่าปกติ ด้วยแพลตฟอร์มการตลาดและอีเวนต์รูปแบบใหม่ ที่สร้าง engagement ทำให้เด็กที่อายุต่ำกว่า 16 ปีมาลอง ไวไว ว้าว ให้ได้ เป็นการสร้างแบรนด์ Wow อย่างจริงจัง

    ซึ่งที่ผ่านมา Mama OK ทำได้ดี ทำให้ทั้งยำยำและนิสชิน ซึ่งได้ส่งสินค้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพรีเมียมสู่ตลาด เข้าชิงส่วนแบ่งการตลาดด้วยเช่นกัน แต่ทำอะไร Mama OK ไม่ได้มาก เพราะแค่วางสินค้าเข้าสู่ตลาดเพียงอย่างเดียว ไม่ได้สร้างแบรนด์มาก ทำให้ Mama OK ขายอยู่ในตลาดเกือบเพียงคนเดียวด้วยส่วนแบ่งการตลาดเกือบ 70% ในเซกเมนต์พรีเมียม ที่มีขนาดตลาดประมาณ 3,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา และคาดว่าอาจจะเติบโตถึง 4,000 ล้านในปีนี้จากตลาดรวมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในไทยที่มีมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท สำหรับแบรนด์ไวไวคาดการณ์รายได้ของ ไวไว ว้าว ไว้ที่ 600 ล้านบาทภายใน 3 ปี

    แหล่งข่าวรายเดิมกล่าวว่า ไวไวได้เตรียมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพรีเมียมไว้อีกหลายรสชาติ และอาจจะมี 3-4 รายการวางตลาดในไตรมาสแรกของปีหน้า รสชาติไม่เผ็ดเหมือนสองรสชาติแรก เพื่อขยายฐานกลุ่มผู้บริโภคใหม่ๆ

    อย่างไรก็ตาม แม้ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพรีเมียมจะเติบโตดีกว่าตลาดบะหมี่เซกเมนต์ mainstream ราคาซองละ 7 บาทซึ่งเป็นที่นิยมแพร่หลายมากกว่า แต่ไวไวยังคงให้ความสำคัญกับการทำตลาดทั้งตลาดเมนสตรีม และเซกเมนต์พรีเมียม

    ยศสรัล เล่าเพิ่มเติมอีกว่า สินค้าอีกไลน์หนึ่งที่ไวไวจะให้ความสำคัญมากขึ้นได้แก่ ไวไว กรีน เป็นสินค้าเซกเมนต์สุขภาพ ที่เริ่มพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์มาระยะหนึ่งแล้ว อาทิ เส้นหมี่อบแห้งไฟเบอร์สูง สินค้าไวไว้ กรีน เริ่มจากสินค้าผลิตภัณฑ์ประเภทเส้นก่อนจะตามมาด้วยเครื่องปรุงรสในเฟสต่อไป


    “ไวไว กรีน ราเมนโชยุส้มจี๊ด” เป็นสินค้าภายใต้ ไวไว กรีน ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Thaifex -Anuga Asia 2025 ที่ผ่านมา วางจุดขายเป็นสินค้าพรีเมียมและดีต่อสุขภาพ “ราเมนโชยุส้มจี๊ด” ผลิตด้วยแป้งข้าว ใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นของไทยคือมะปรี๊ด ผสมผสานกับโชยุสูตรต้นตำรับจากญี่ปุ่น ทำให้มีรสชาติออกเค็มเปรี้ยว ส่วนราคาน่าจะอยู่ในตำแหน่งเดียวกับเส้นราเมนนำเข้าจากเกาหลี หรือต่ำกว่าเล็กน้อย จึงเป็นราเมนทางเลือกใหม่ที่ไม่มีสารกลูเตนและราคาคุ้มค่า


    ปัจจุบันในตลาดมีแบรนด์ไทยผลิตราเมนจากแป้งข้าวอยู่บ้าง แต่เป็นสตาร์ทอัพ และราคายังค่อนข้างสูง “ราเมนโชยุส้มจี๊ด” จะทดลองวางตลาดในไตรมาส 3 ปีนี้ที่ร้านอาหารควิกเทอเรสของไวไวทั้ง 5 สาขา ในจังหวัดนครปฐม ชลบุรี และสมุทรสาคร และช่องทางออนไลน์

    ปัจจุบันธุรกิจของบริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ประกอบไปด้วย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่สร้างรายได้เกือบ 80% ที่เหลือเป็นสินค้าประเภทเส้นหมี่ และเครื่องปรุงรส ในอนาคตสัดส่วนบะหมี่ไวไวจะลดลงเหลือเพียง 70% และที่เหลืออีก 25% และ 5% จะเป็นสินค้าประเภทเส้นหมี่และเครื่องปรุงรสตามลำดับ



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ทำไม ‘อายิโนะโมะโต๊ะ’ ต้องทำ ‘รสดี’ รสพิเศษ เพื่อขายเฉพาะแค่ในลาว ถูกปากคนลาวโดยเฉพาะ

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine