‘ท็อปส์’ ปล่อยหมัดเด็ด แคมเปญสะสมแสตมป์ สร้างความจงรักภักดีต่อแบรนด์ หวังรักษาฐานลูกค้าเดิม เพิ่มลูกค้าใหม่ Gen Z
สถานการณ์ค้าปลีกไทยในไตรมาส 2 มีความท้าทายมากกว่าไตรมาสแรก เพราะผู้บริโภคระวังการใช้จ่าย ใช้เงินประหยัดและคิดมากขึ้น เนื่องจากจะมีการเปิดเทอมในเดือนพฤษภาคมนี้
ประกอบกับความสำเร็จของการทำแคมเปญสะสมแสตมป์ในปี 2013 และปีที่ผ่านมา ซึ่งสามารถกระตุ้นให้ยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 10% และพบว่ากระตุ้นจำนวนครั้งที่ซื้อเพิ่มขึ้นถึง 4% และสูงถึง 72% ในสินค้าบางรายการ ตลอดจนการเพิ่มขึ้นของจำนวนยูนิตถึง 9% และกว่า 50% ในบางไอเท็ม
และจากผลการสำรวจกลุ่มลูกค้า ‘ท็อปส์’ พบว่า กว่า 39% ชื่นชอบโปรโมชั่น และใน 39% นี้ กว่า 25% ชื่นชอบแคมเปญการสะสมแต้มเพื่อแลกของรางวัล สะท้อนเทรนด์ของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ชื่นชอบการสะสมของพรีเมียมที่มีประโยชน์ สามารถใช้งานได้จริง และมีความเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร
ดังนั้น บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จํากัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล จึงเตรียมนำแคมเปญนี้กลับมาทำตลาดอีกครั้งในปีนี้
จักรกฤษณ์ จตุปัญญาโชติกุล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาดประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จํากัด กล่าวว่า ท็อปส์เตรียมนำแคมเปญสะสมแสตมป์กลับมาทำตลาดอีกครั้ง เพื่อยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งที่พิเศษกว่าที่เคยให้กับลูกค้าของท็อปส์ ซึ่งเป็นลูกค้าผู้หญิงเป็นสัดส่วนถึง 71.8% และผู้ชายมีสัดส่วน 28.2% และยังพบว่า 75.2% ของลูกค้าอยู่ในช่วงอายุ 25-54 ปี อยู่ในช่วงกลุ่ม Gen X และ Gen Y สัดส่วนของลูกค้าส่วนใหญ่กว่า 44% มีอาชีพเป็นพนักงานออฟฟิศ
แคมเปญสะสมแสตมป์ในปีนี้ได้ถูกพัฒนาและออกแบบมาเพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมของลูกค้า ผ่านสินค้าพรีเมียมที่มีคุณค่าและดึงดูดใจ “Value-engagement campaign” โดยถูกสร้างด้วยแนวคิดบน 3 แกนหลักสําคัญ (3Es) ได้แก่
(E1) Experience คือ ลูกค้าสามารถสะสมของรางวัลได้ทุกเวลาจากทุกฟอร์แมตของท็อปส์ ตั้งแต่ ท็อปส์ฟู้ด ฮอลล์ ท็อปส์เดลี่ ที่มีมากกว่า 160 แห่งทั่วประเทศ และท็อปส์ออนไลน์ด้วย
(E2) Exclusivity บริษัทได้นำผลงานของครีเอเตอร์และศิลปินไทยมาต่อยอดสร้างสรรค์สินค้าพรีเมียมให้มีความเอ็กซ์คลูซีฟ มีคุณค่า กระตุ้นให้ลูกค้าสนใจและอยากเป็นเจ้าของ
(E3) Extra-Ordinary สินค้าพรีเมียมมีคุณภาพดี คุ้มค่าสําหรับการสะสมแสตมป์เพื่อนําไปแลก นอกจากสะสมแสตมป์แล้ว ยังสามารถรับพอยท์ The 1 เพื่อนําไปใช้เป็นส่วนลดสําหรับซื้อสินค้าอื่นๆ ได้ตามปกติอีกด้วย
ทั้งนี้ แคมเปญสแตมป์ดังกล่าวได้ถูกคิดขึ้นภายใต้กลยุทธ์ Winning Together โดยให้ความสําคัญกับการสร้างผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างห่วงโซ่ธุรกิจ ได้แก่ ลูกค้า ที่มองหาความคุ้มค่าด้านราคาและประสบการณ์, ความเอ็กซ์คลูซีฟ, พาร์ทเนอร์ ที่ต้องการเพิ่มการมองเห็นแบรนด์และกลไกในการขับเคลื่อนยอดขาย ขณะเดียวกันยังมุ่งเน้นการรักษาฐานลูกค้าเก่าด้วยลอยัลตี้โปรแกรม ควบคู่กับการขยายฐานลูกใหม่โดยการใช้คาแร็คเตอร์การ์ตูนเพื่อดึงดูดลูกค้านิวเจน นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนศิลปินไทย สร้างโอกาสและพื้นที่โชว์ศักยภาพด้านการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ
“เราเชื่อมั่นว่าการนำแคมเปญสะสมแสตมป์มาใช้ในปีนี้จะประสบความสําเร็จมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม และเห็นการจับจ่ายที่ชัดเจนจากกลุ่มลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ในกลุ่ม Gen Z การดึงลูกค้ากลุ่มนี้มา Engage กับแบรนด์พร้อมกับประสบการณ์ จะทำให้เขาอยู่กับเราตลอดไป” จักรกฤษณ์กล่าว และว่า ปัจจุบันลูกค้าของท็อปส์ 25% เป็นลูกค้ากลุ่ม Gen Z และ 75% เป็นกลุ่ม Gen X และ Gen Y
สำหรับไฮไลต์ที่สำคัญของแคมเปญสะสมแสตมป์ในปีนี้ คือ ท็อปส์ได้จับมือกับ 3 ศิลปินไทย เพื่อร่วมสร้างสรรค์งานศิลปะที่ผสมผสานการออกแบบคาแร็คเตอร์และลายเส้นการ์ตูน ที่ถ่ายทอดเรื่องราวในมุมต่างๆ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Sustainability x Thai Culture
โดย 3 ศิลปินไทย ที่เข้าร่วมแคมเปญสะสมแสตมป์ในปีนี้ ได้แก่
1) Painterbell นักวาดภาพประกอบรุ่นใหม่ไฟแรงเจ้าของผลงาน John Lulu and Friends ที่บอกเล่าเรื่องราวของคาแร็คเตอร์ตัวการ์ตูนที่ร่วมมือร่วมใจกันใช้ชีวิตที่คํานึงถึงสิ่งแวดล้อมและเพื่อนร่วมโลก ผสมผสานกับลวดลายที่สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทย
2) Nui Wonderland เจ้าของนิทรรศการ Nui in Wonderland ที่มีแรงบันดาลใจในการถ่ายทอดความเป็นจริงของโลกที่กําลังเปลี่ยนแปลงและก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วในทุกๆ มิติ มีการสอดแทรกเอกลักษณ์ความเป็นไทยในคาแร็คเตอร์ประจําตัวที่มีความยูนีค
3) ARTSTORY by Autistic Thai กลุ่มศิลปินออทิสติกทั้ง 5 คน ที่ร่วมนําเสนอมุมมองที่แตกต่างในคอนเซ็ปต์ “The town of Galaxtica ประยุกต์ผลงานให้สะท้อนแนวคิดความยั่งยืน
“ท็อปส์เชื่อว่าลูกค้าทุกคนจะได้สัมผัสอีกประสบการณ์ที่ไม่ธรรมดา กับแคมเปญสะสมแสตมป์แห่งปีที่กลับมาเพื่อส่งมอบความคุ้มค่า สร้างสีสันให้ทุกการช้อปสนุกสนานยิ่งขึ้น พร้อมกับโปรโมชั่นและดีลดีๆ ไว้ตลอดทั้งปี” จักรกฤษณ์ กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ ลูกค้าที่เป็นสมาชิก The1 เพียงช้อปครบทุก 100 บาทต่อใบเสร็จ รับ e-stamp 1 ดวง หรือรับแสตมป์เพิ่มเติมเพียงช้อปสินค้าที่ร่วมรายการจากอีก 1,800 ซัพพลายเออร์ ได้ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม – 6 สิงหาคม 2567 และสามารถแลกของสะสมได้ถึงวันที่ 13 สิงหาคม 2567
โดยแบ่งระยะเวลาแลกสินค้าคอลเลกชันของศิลปินเป็น 3 รอบ ได้แก่ รอบที่ 1 แลกซื้อสินค้าคอลเลกชันจากศิลปิน Painterbell ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม – 13 สิงหาคม 2567 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด รอบที่ 2 แลกซื้อสินค้าคอลเลกชันจากศิลปิน Nui Wonderland ตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน - 13 สิงหาคม 2567 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด และรอบที่ 3 แลกซื้อสินค้าคอลเลกชันจากศิลปิน ARTSTORY by Autistic Thai ตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม - 13 สิงหาคม 2567 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด
สำหรับสินค้าพรีเมี่ยมประกอบด้วย ร่มพับ 5 ตอน กัน UV เพียงสะสมแสตมป์ครบ 100 ดวง แลกซื้อในราคา 1 บาท หรือสะสมครบ 10 ดวง แลกซื้อในราคา 119 บาท ส่วนแก้วน้ำเก็บอุณหภูมิ สะสมแสตมป์ครบ 150 ดวง แลกซื้อในราคา 1 บาท หรือสะสมครบ 20 ดวง แลกซื้อในราคา 159 บาท และกระเป๋าผ้าช้อปปิ้ง สะสมแสตมป์ครบ 250 ดวง แลกซื้อในราคา 1 บาท หรือสะสมครบ 30 ดวง แลกซื้อในราคา 299 บาท
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ตั้งแต่เครื่องนอน จนถึงยาสีฟัน แบรนด์ไทยโหนกระแส ‘มูเตลู’ สร้างสีสันตลาด-เข้าถึงลูกค้า
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine