ท็อปส์ เดลี่ มินิซูเปอร์มาร์เก็ต เครือเซ็นทรัล รีเทล เขย่าวงการค้าปลีกยกใหม่ ก้าวสู่ new chapter เปิดตัวแฟรนไชส์โมเดล ชูลงทุนต่ำ-คืนทุนไว-กำไรดี-การันตีรายได้ หวังดึงนักลงทุนทุกรูปแบบร่วมเร่งโต
จากผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ค้าปลีกทั่วประเทศของธนาคารแห่งประเทศไทยร่วมกับสมาคมค้าปลีกฯ ของภาพรวมตลอดปี 2566 พบว่ายังเป็นการฟื้นตัวแบบไม่สมดุลในลักษณะ K-Shaped แต่ธุรกิจที่เห็นการเริ่มฟื้นตัวแล้วได้แก่ กลุ่มห้างสรรพสินค้า-แฟชั่นความงาม-ไลฟ์สไตล์ ร้านสะดวกซื้อ และซูเปอร์มาร์เก็ต
ท็อปส์ เดลี่ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล จึงประกาศเข้าสู่บทบาทใหม่ เดินหน้าลุยขยายธุรกิจผ่าน “โมเดลแฟรนไชส์” เพื่อให้เติบโตได้ในอัตราที่เร็วกว่าในอดีตและเข้าถึงลูกค้าในทำเลใหม่ๆ ได้เพิ่มขึ้นทั่วประเทศ
เมทินี พิศุทธิ์สินธพ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า โมเดลแฟรนไชส์ของท็อปส์ เดลี่ มินิซูเปอร์มาร์เก็ต ได้ปรับให้รองรับและเหมาะสมกับการลงทุนของผู้สนใจทุกระดับ มี 4 จุดแข็งที่แตกต่างจากรายอื่นอย่างชัดเจน คือ
1.ลงทุนต่ำ ด้วยงบเริ่มต้นเพียง 1.07 ล้านบาท และยังมีการันตีรายได้ 60,000 บาทต่อเดือน และสามารถคืนทุนไวภายในเวลา 2 ปี
2. เป็นแฟรนไชส์ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนที่มีเงินลงทุนน้อยจนถึงมาก เข้ามาร่วมธุรกิจได้
3. การันตีความสำเร็จด้วยศักยภาพอันแข็งแกร่งของ ท็อปส์ เดลี่ ที่มีอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (same store sale growth) สูงกว่ารายอื่น
“นับตั้งแต่การปรับโฉมโมเดล ท็อปส์ เดลี่ สู่ Joy-venience Store ภายใต้แนวคิด Every Day for Everyone ศูนย์รวมแห่งความสุขที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ดีๆ ให้กับลูกค้าในทุกวัน พบว่าลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี สะท้อนความสำเร็จผ่านอัตราการเติบโตของยอดขายที่สูงเป็นตัวเลข 2 หลัก” เมทินีกล่าว
นอกจากนี้ ท็อปส์ เดลี่ ยังมีความโดดเด่นและแตกต่างด้วยสินค้าคุณภาพที่หลากหลายกว่า 6,000 SKU ครอบคลุมทั้งสินค้านำเข้า สินค้าเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์ สินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และสินค้า Eat now Eat later พร้อมรับประทานที่หลากหลายที่สุด ที่จะช่วยตอกย้ำศักยภาพของค้าปลีกกลุ่มฟู้ดชั้นนำ และช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ที่สนใจร่วมลงทุนแฟรนไชส์ของท็อปส์เดลี่
4.ผู้ลงทุนแฟรนไชส์จะมีโอกาสร่วมเป็นพันธมิตรธุรกิจกับเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล ผู้นำค้าปลีกกลุ่มฟู้ดของไทย ที่พร้อมสนับสนุนแฟรนไชส์ตลอดกระบวนการการดำเนินธุรกิจ ด้วยทีมเทรนนิ่งมืออาชีพและผู้บริหารที่มีประสบการณ์ค้าปลีกมามากว่า 20 ปี การบริการด้านระบบต่างๆ การตรวจสอบสินค้า IT ที่ปรึกษาเรื่องบัญชี ระบบการขนส่ง ตลอดจนโปรโมชั่นส่งเสริมการขายและการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด จนสามารถก้าวสู่ความสำเร็จตามเป้าหมาย
นอกจากนี้บริษัท ยังมีพันธมิตรด้านการเงิน คือ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) สนับสนุนสินเชื่อด้วยเงื่อนไขพิเศษให้กับผู้สนใจลงทุนแฟรนไชส์ พร้อมให้คำปรึกษาวางแผนเรื่องการเงินและการลงทุน ตลอดจนการพิจารณาสินเชื่อเพื่อการลงทุนแฟรนไชส์ท็อปส์ เดลี่ โดยเฉพาะ ผ่านข้อเสนอวงเงินกู้สูงสุดกว่า 5 ล้านบาท ดอกเบี้ยเริ่มต้น MLR-1.25% ผ่อนชำระนานสูดสุดที่ 12 ปี และยังมีระยะเวลาปลอดชำระเงินต้นสูงสุดถึง 6 เดือน รวมถึงการพัฒนาร่วมกันกับท็อปส์ เดลี่ เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบโจทย์กับนักลงทุนในทุกๆ รูปแบบที่แตกต่างกันอย่างต่อเนื่อง
แฟรนไชส์ ท็อปส์ เดลี่ แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ
-รูปแบบที่ 1 สำหรับผู้ที่มีกรรมสิทธิ หรือสิทธิครอบครองที่ดิน/อาคาร ขนาดมากกว่า 200 ตร.ม. เป็นระยะเวลามากกว่า 9 ปี ใช้เงินลงทุน 4-6 ล้านบาท การันตีรายได้ 150,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 24 เดือนแรกของสัญญา
-รูปแบบที่ 2 สำหรับผู้ที่ไม่มีกรรมสิทธิ์ หรือสิทธิครอบครองที่ดิน แต่สนใจที่จะเข้าสวมสิทธิ์บริหารร้านท็อปส์ เดลี่ ที่กำลังเปิดดำเนินอยู่ ใช้เงินลงทุน 1.07 ล้านบาทขึ้นไป การันตีรายได้ 60,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 24 เดือนแรกของสัญญา
บริษัทตั้งเป้าว่าสัดส่วนสาขาของท็อปส์ เดลี่ ประมาณ 45% จากสาขาทั้งหมดจะมาจากแฟรนไชส์ในอนาคตเพิ่มขึ้นจากเดิม 30% ในปีที่ผ่านมา
“โอกาสของการลงทุนแฟรนไชส์ร้านค้าปลีกในไทยยังมีอีกมาก ในเกาหลี ร้านสะดวกซื้อ 1 สาขาตอบสนองลูกค้า 953 คน และ 2,240 คนสำหรับสาขาในญี่ปุ่น เปรียบเทียบกับเมืองไทย ที่ร้านสะดวกซื้อใน 1 สาขา รองรับลูกค้าถึง 4,428 คน” นางสาวเมทินีกล่าว
“การหันมาลุยโมเดลแฟรนไชส์ เป็นการเดินหน้าสานต่อความสำเร็จ และเป็น Growth Engine ให้กับท็อปส์ อีกทั้งยังตอกย้ำความเป็นผู้นำร้านค้าปลีกซูเปอร์มาร์เก็ตในภาพรวม ที่มีโมเดลธุรกิจทุกฟอร์แมท ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกเซกเมนต์ เราหวังว่าการขยายแฟรนไชส์มากขึ้นของท็อปส์ เดลี่ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างเศรษฐกิจไทยให้แข็งแกร่ง สร้างความมั่นคงทางด้านการเงินให้กับคนไทย รวมถึงผู้ประกอบการทั้งรายเล็กรายใหญ่ ให้มีโอกาสได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพันธมิตรทางธุรกิจในกลุ่จมเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล ที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นเบอร์ 1 ในธุรกิจค้าปลีกกลุ่มฟู้ดของไทย และร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต” เมทินีกล่าว
เธอยังระบุอีกว่า การเปิดรับสมัครแฟรนไชส์ ท็อปส์ เดลี่ ในครั้งนี้ รองรับการขยายตัวของธุรกิจมินิซูเปอร์มาร์เก็ตในประเทศไทยที่ยังมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
“การมีฐานข้อมูลจากเดอะวัน ทำให้ท็อปส์ เดลี่ มีความแข่งแกร่งและเข้าใจลูกค้าได้ดี แต่การมีพาร์ทเนอร์ที่เป็นคนในชุมชน เป็นเจ้าของท็อปส์ เดลี่ จะทำให้เป้าหมายที่จะทำให้ท็อปส์ เดลี่ กลายเป็นศูนย์กลาง หรือ ฮับ (Hub) ของคนในชุมชน เป็นไปได้เร็วขึ้น นี่ถือเป็นวิถีของการสร้างความเชื่อมโยงของท็อปส์ เดลี่ กับคนในชุมชนได้อย่างดี ทำให้ ท็อปส์ เดลี่ เข้าใกล้ชีวิตประจำวันของลูกค้ามากยิ่งขึ้น” เมทินี กล่าว
ทั้งนี้ ท็อปส์ก่อตั้งขึ้นในเมืองไทยในปี 2549 และเข้าถือหุ้นในแฟมิลี่มาร์ทในปี 2555 ตลอดเวลา 18 ปีในประเทศไทย ท็อปส์มีการพัฒนาสินค้าและคอนเซ็ปต์ร้านค้าใหม่ๆ ตลอดเวลา จำนวนสาขาของท็อปส์สาขา ณ สิ้นเดือนมกราคม 2567 มีทั้งสิ้น 673 สาขา แบ่งเป็น
-Tops Food Hall 17 สาขา
-Tops Fine Food 2 สาขา
-Tops Premium 139 สาขา
-Tops Daily 515 สาขา
โดยสาขาของท็อปส์เดลี่ 57% อยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ต่างจังหวัด 43% ประกอบด้วย ภาคใต้ 17% ภาคตะวันออก 12% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6% ภาคกลาง 5% ที่เหลือจะเป็นภาคตะวันตกและภาคเหนืออีก 3%
ส่วนใหญ่สาขาของท็อปส์ เดลี่ จะเปิดในพื้นที่ชุมชนที่อยู่อาศัย 51% ร้านในปั๊มน้ำมัน 12% ตามสถานที่ท่องเที่ยวและโรงแรม 11% และประเภทอื่นๆ 26%
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : CRG เผย 8 เทรนด์ธุรกิจอาหารน่าจับตา รับมือความท้าทายเศรษฐกิจปีนี้
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine