เดอะมอลล์ กรุ๊ป งัด 5 กลยุทธ์ สู้ศึกซูเปอร์มาร์เก็ต ปั้น ‘กูร์เมต์ มาร์เก็ต’ คอนเซ็ปต์ใหม่ เน้นประสบการณ์ครบวงจร

เดอะมอลล์ กรุ๊ป งัด 5 กลยุทธ์ สู้ศึกซูเปอร์มาร์เก็ต ปั้น ‘กูร์เมต์ มาร์เก็ต’ คอนเซ็ปต์ใหม่ เน้นประสบการณ์ครบวงจร

เดอะมอลล์ กรุ๊ป วาง 5 กลยุทธ์สู้ศึกซูเปอร์มาร์เก็ตปีหน้า ลุยขยาย Multi Format เปิดคอนเซ็ปต์ใหม่ “กูร์เมต์ มาร์เก็ต” ไม่ทำแล้วซูเปอร์ฯ แบบย่อส่วน แต่หันเน้นซูเปอร์ฯ ที่รวมประสบการณ์ “กิน-ดื่ม-ช้อป” ครบจบตอบไลฟ์สไตล์ลูกค้าแต่ละทำเล บนพื้นที่ 800-2,500 ตารางเมตร ตั้งเป้าเปิดแน่ 1-2 แห่ง สาขาแรกเผยโฉมครึ่งปีหลังกลางปีหน้า


    2025 เป็นปีที่เหนื่อยของธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตอีกปีหนึ่ง เพราะการแข่งขันที่ดุเดือดมาก และเป็นค้าปลีกเพียงเซ็กเมนต์เดียวที่ยังมีการเติบโตเทียบกับไฮเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้าแบบดั้งเดิม (mom-and-pop shop) ซึ่งเติบโตติดลบ

    ธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตโดยรวมเติบโตทั้งยอดขายและจำนวนการขยายสาขา ทำให้แลนด์สเคปของซูเปอร์มาร์เก็ตวิวัฒนการจากปีก่อนๆ ไม่ว่าจะเป็น ร้านสะดวกซื้อมีขนาดใหญ่ขึ้นจนใกล้เคียงกับคอมแพคซูเปอร์มาร์เก็ต หลายทำเลมีที่จอดรถสะดวกสบาย สินค้าที่วางขายก็ผสมผสาน ถูกปรับให้ครบเครื่องมากขึ้น ทั้งของแห้ง ของสด และแม้กระทั่งสินค้านำเข้าก็เริ่มนำเข้ามาให้บริการ

    ประกอบกับต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น ค่าพาหนะ ทำให้ผู้บริโภคส่วนหนึ่งหันมาซื้อของจากร้านสะดวกซื้อใกล้บ้านมากขึ้น ส่งผลกระทบทางอ้อมกับซูเปอร์มาร์เก็ต ขณะที่ไฮเปอร์มาร์เก็ตมีการพัฒนารูปแบบใหม่ๆ นอกจากนี้ สถานการณ์ที่ไม่แน่นอนของการเมือง ปัญหาชายแดน และกำลังซื้อที่ลดลงตั้งแต่ต้นปี แม้ภาพของธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตโดยรวมยังเติบโตได้ แต่เป็นเพียงตัวเลขหลักเดียว

    ศุภวุฒิ ไชยประสิทธิ์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริหารสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ตและฟู้ด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด มองว่า ในปีหน้ากำลังซื้อผู้บริโภค การเมือง และปัญหาชายแดน ยังคงเป็นความท้าทายของกูร์เมต์ มาร์เก็ตต่อไป เพราะปัจจัยดังกล่าวควบคุมไม่ได้ ดังนั้นกูร์เมต์ มาร์เก็ต จะหันมาโฟกัสปัจจัยที่ควบคุมได้ ด้วย 5 กลยุทธ์ เพื่อให้ยอดขายกลับมาโตได้ 2 หลักอีกครั้งหนึ่ง

    กลยุทธ์ 5 ข้อ ได้แก่

    1. การเน้นย้ำการเข้าใจผู้บริโภคลูกค้ามากขึ้นด้วย data

    2. กูร์เมต์จะไม่ใช่ร้านประเภทซื้อมาขายไป หรือซื้อสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ผู้บริโภค

    3. กูร์เมต์จะสร้างและเติมเต็ม Ecosystem กับพาร์ทเนอร์ คู่ค้า องค์กรที่เกี่ยวข้อง ซัพพลายเออร์ เพื่อรับมือผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่สามารถทำได้เพียงลำพังคนเดียว

    4. กูร์เมต์จะพัฒนาซูเปอร์ฯ ในรูปแบบ Multi Format มากขึ้น

    5. ปรับบริการที่เหนือความคาดหวังของลูกค้า

    ศุภวุฒิกล่าวว่า กูร์เมต์ มาร์เก็ตจะมีร้านสาขาที่เป็นคอนเซ็ปต์ใหม่ๆ ไม่ได้เป็นกูร์เมต์ฯ ที่แค่ย่อส่วนมาจากร้านขนาดใหญ่เท่านั้น แต่กูร์เมต์ มาร์เก็ต คอนเซ็ปต์ใหม่จะเป็นที่รวมประสบการณ์ของการกิน-ดื่ม-ช้อป ครบจบในที่เดียวกัน ในพื้นที่ตั้งแต่ 800 ตารางเมตร จนถึง 2,500 ตารางเมตร จากปัจจุบันที่ขนาดของร้านจะมีพื้นที่เพียง 2,000 ตารางเมตรเท่านั้น



    บริษัทจะเริ่มเปิดกูร์เมต์ มาร์เก็ตคอนเซ็ปต์ใหม่ 1-2 สาขาใจกลางกรุงเทพฯ และชานเมือง สาขาแรกจะเปิดในครึ่งหลังของปีหน้า นอกจากนี้จะปรับโฉมกูร์เมต์ มาร์เก็ต สาขาสแตนด์อะโลนในบางสาขาให้อยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ด้วย

    “กูร์เมต์จะไม่ใช่ซูเปอร์มาร์เก็ตธรรมดาๆ แบบที่เราเห็น ไม่ใช่ซูเปอร์ฯ ย่อส่วน แต่เป็นร้านที่มีพื้นที่ขนาดที่หลากหลายมากขึ้น บางทำเลพื้นที่ส่วนของอาหารจะใหญ่เป็นพิเศษ ขณะที่ในบางทำเลซูเปอร์มาร์เก็ตจะมีขนาดใหญ่กว่า จากที่ปกติสัดส่วนพื้นที่ของซูเปอร์มาร์เก็ตและส่วนอาหารจะเท่าๆ กัน 

    "วันนี้เราแบ่งผู้บริโภคจากไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมการกิน ดื่ม ช้อป ในแต่ละทำเล ไม่ได้แบ่งตามระดับรายได้ เพราะลูกค้ารายได้ระดับปานกลางและระดับรายได้สูง อาจมีพฤติกรรมการใช้จ่ายที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นกูร์เมต์ มาร์เก็ต จะเป็นพรีเมียมซูเปอร์ฯ ที่สร้างประสบการณ์ beyond customers expect” ศุภวุฒิกล่าว


    ศุภวุฒิกล่าวต่อว่า เดอะมอลล์ได้เปิดซูเปอร์มาร์เก็ตสาขาสุดท้ายที่ดีไซน์วิลเลจ ถนนบางนา-ตราด เมื่อ 2 ปีที่แล้ว และเพิ่งมีแผนจะขยายสาขาใหม่ในกลางปีหน้า ตามปรัชญาการทำธุรกิจของบริษัท ที่จะไม่ขยายสาขามากจนเกินไป เพราะต้องการเน้นคุณภาพและตอบสนองความต้องการของชุมชนในย่านนั้นๆ ให้ดีที่สุด เพื่อให้ทุกสาขาของกูร์เมต์ฯ ยืนได้ด้วยตัวเอง


ตลาดกระเช้าปีใหม่ จับมือดีไซน์เนอร์ Vassana พัฒนาสินค้าเจาะตลาดพรีเมียม–องค์กร

    สำหรับปีนี้กูร์เมต์ มาร์เก็ต เปิดตัวแคมเปญ “Gourmet Market Blissful Hampers 2026” ชูจุดแข็งเรื่องคุณภาพ ความหลากหลาย และงานดีไซน์ระดับพรีเมียม ด้วยการจับมือกับ Vassana เปิดตัวคอลเล็กชั่นกระเช้า “Wish Craft – Inspired by Thai Folk Wisdom” ตอบโจทย์ทั้งลูกค้าองค์กรและพรีเมียมเซกเมนต์ รวมถึงผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับของขวัญที่มีคุณค่าทางใจ ใส่ใจในเรื่องความยั่งยืน และสะท้อนถึงอัตลักษณ์ความเป็นไทย (Meaningful Gifts – Sustainability – Thai Identity)

    “ผู้บริโภควันนี้ต้องการของขวัญที่มีคุณค่าทางใจ ไม่ใช่แค่สวยงาม แต่ต้องเป็นของขวัญที่มีความหมาย ดีต่อชุมชน และดีต่อโลก เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รายได้จากสินค้าในกลุ่ม Gourmet Thai มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนพฤติกรรมการเลือกสินค้าที่สร้าง Social Impact ชัดเจนขึ้น” พลอยชมพู อัมพุช ผู้อำนวยการใหญ่บริหารสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ต บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าว


    ทั้งนี้ กูร์เมต์ มาร์เก็ต จึงร่วมกับแบรนด์ Vassana ซึ่งเคยทำงานร่วมกับหลายชุมชน รวมถึงแบรนด์แฟชั่นระดับโลก พัฒนากระเช้าของขวัญคอลเล็กชั่น “Wish Craft – Inspired by Thai Folk Wisdom” กระเช้าคราฟต์ไทย 5 ดีไซน์ที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ ใช้งานซ้ำได้จริง รวมถึงออกแบบลวดลายและงานจักสานที่ถ่ายทอดภูมิปัญญาไทย พร้อมสร้างรายได้ตรงสู่ชุมชน

    อาทิ กลุ่มช่างฝีมือในแถบภาคเหนือ ซึ่งเป็นกลุ่มทำงานเดิมของแบรนด์ กลุ่มกระจูดจากจังหวัดนครปฐม และจังหวัดชัยนาท รวมถึงกลุ่มเปราะบางในทัณฑสถานวัยหนุ่มพระนครศรีอยุธยา ทุกกระเช้าจึงไม่ใช่แค่ “สินค้า” แต่เป็น “สัญลักษณ์ของคุณค่า–ความหมาย–และงานฝีมือไทย” สอดคล้องกับเทรนด์ผู้บริโภคที่เลือกสินค้าจากมูลค่าทางวัฒนาธรรม และความยั่งยืน”

    ศุภวุฒิ กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันตลาดกระเช้าปีใหม่มีมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อปี ปีนี้การจับจ่ายอาจจะชะลอตัวลงบ้างเล็กน้อย กูร์เมต์จึงเพิ่มไลน์กระเช้าปีใหม่ที่มีราคาต่ำลง เพื่อเป็นทางเลือก ปกติราคากระเช้าปีใหม่ระดับราคา 2,000-3,000 บาทจะได้รับความนิยมสูงสุด แต่ปีนี้ระดับราคากระเช้าที่คาดว่าจะได้รับความนิยมมากที่สุดจะราคาประมาณ 1,000-1,500 บาท

    ภาพรวมของกระเช้ากูร์เมต์ฯ น่าจะยังมีแรงส่งดี โดยเฉพาะในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายก่อนปีใหม่ ซึ่งศุภวุฒิคาดว่าธุรกิจโดยรวมปีนี้จะเติบโตประมาณ 10% จากดีมานด์ของกลุ่มองค์กร–บริษัท–ห้างร้านกว่า 85% ที่ให้ความสำคัญกับสินค้าพรีเมียม ดีไซน์ และความคุ้มค่าของราคา ขณะที่อีก 15% เป็นกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่เลือกซื้อกระเช้าเป็นของฝากช่วงเทศกาล

    นอกจากนี้การเติบโตของกระเช้าปีใหม่ยังมาจากเทรนด์ผู้บริโภคที่ซื้อกระเช้าด้วยตนเอง เพื่อสะท้อนเอกลักษณ์ของผู้ให้ โดยเฉพาะกลุ่มผลไม้ สินค้าเพื่อสุขภาพ สินค้านำเข้า และขนมระดับพรีเมียม เช่น คุกกี้และช็อกโกแลต


จัดเต็มกว่า 140 แบบ ตอบโจทย์ทุกเซ็กเมนต์

    พลอยชมพูกล่าวว่า ปีนี้ กูร์เมต์ มาร์เก็ต จัดกระเช้าของขวัญให้เลือกกว่า 140 รูปแบบ มีราคาตั้งแต่ 390-13,000 บาท ครอบคลุมทุกกลุ่มราคาและสไตล์ ตั้งแต่ Premium Hampers, Prestige Hampers, Fresh Fruits Hampers, Gourmet Thai, Kud Thai ไปจนถึงสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟจากชุมชนและหัตถศิลป์ไทย พร้อมเมนูมื้อพิเศษ เช่น ไก่งวง บีฟเวลลิงตัน ชีสบอร์ด และคาเวียร์ รวมถึงช่องทางช้อปครบวงจรทั้งหน้าร้าน–ออนไลน์–เดลิเวอรี่–บริการส่งทั่วประเทศและกว่า 30 ประเทศทั่วโลก

    นอกจากแผนการตลาดดังกล่าวแล้ว ศุภวุฒิบอกว่า ในปีหน้าบริษัทจะทำ consumer insight มากขึ้น หลังจากที่ได้ทำในปีนี้แล้ว ทำให้สร้างประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ และสามารถขยายเวลาที่ใช้ในการช้อปปิ้งในบางแผนก อาทิ แผนกบิวตี้ เพิ่มขึ้นจาก 40 นาทีเป็น 60 นาที และมีการจับจ่ายเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลข 2 หลัก


    “จากการร่วมกับชุมชนพัฒนากระเช้าปีใหม่ในปีนี้ จะมีการต่อยอดทำงานร่วมกับชุมชนต่างๆ ทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ เพื่อพัฒนาสินค้า โดยเฉพาะสินค้า Private Label ที่น่าจะเป็นสินค้าธงนำของแต่ละห้าง ในอนาคตสินค้า Private Label จะไม่ใช่สินค้าราคาถูกเหมือนในอดีต แต่จะเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์เชิงมูลค่า ราคาเหมาะสม ในปีหน้ากูร์เมต์ฯ จะปรับสินค้ากลุ่มนี้ ทั้งคุณภาพ ราคา บรรจุภัณฑ์และแบรนด์ดิ้ง เพื่อให้ก้าวมาเป็น Branded product และมีสัดส่วนการขายที่มากขึ้น

    นอกจากนี้แล้ว กูร์เมต์ มาร์เก็ต จะมีการ collaborate กับพันธมิตรมากขึ้น เพื่อสร้างขนาดธุรกิจที่ครอบคลุมทั้งระดับ local ถึง global โดยในปีนี้เป็นปีที่บริษัทได้ทำธุรกิจนำเข้าสินค้าด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก เพื่อจะเพิ่มสัดส่วนสินค้านำเข้ามากขึ้น จากที่ปัจจุบันสินค้านำเข้ามีเพียง 15 เปอร์เซ็นต์ของสินค้าทั้งหมด

    ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กูร์เมต์ฯ ได้ร่วมมือกับเปรู นำเข้าสินค้าผลไม้และสินค้าสุขภาพมาจำหน่ายที่กูร์เมต์ฯ และในอนาคตจะมีความร่วมมือกับประเทศต่างๆ มากขึ้น

    ทั้งหมดนี้คือแผนการตลาดที่ทำให้ธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตของเดอะมอลล์กรุ๊ปเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักได้ในปีหน้า



ภาพ: เดอะมอลล์ กรุ๊ป



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : The 1 Insight เผยผู้บริโภคไทย ใช้จ่ายอย่างมีสติมากขึ้น! Gen Y – Gen Z เลือกสินค้าสะท้อนตัวตน Gen X – เบบี้บูม พร้อมเปย์เพื่อ Longevity

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine