‘สเวนเซ่นส์’ เผยคนไทยขี้เบื่อ! ลุยออกสินค้า-เมนูใหม่ 150 รายการปีนี้ พร้อมชวนลูกค้าร่วมแคมเปญ Earth Day ซื้อไอศกรีมได้สกู๊ปละ 19 บาท วันนี้วันเดียว - Forbes Thailand

‘สเวนเซ่นส์’ เผยคนไทยขี้เบื่อ! ลุยออกสินค้า-เมนูใหม่ 150 รายการปีนี้ พร้อมชวนลูกค้าร่วมแคมเปญ Earth Day ซื้อไอศกรีมได้สกู๊ปละ 19 บาท วันนี้วันเดียว

เพราะคนไทยขี้เบื่อ! ‘สเวนเซ่นส์’ ลุยเพิ่มความถี่ Innovated Product ออกสินค้าใหม่-เมนูใหม่-อีกร่วม 150 รายการปีนี้ พร้อมมีแคมเปญใหม่ถึง 15 เทศกาล ดึงคนเก่ากลับมาใช้บริการใหม่ ล่าสุดชวนลูกค้าร่วมแคมเปญ Earth Day ให้เอาภาชนะอะไรมาใส่ก็ได้มาซื้อไอศกรีมได้ในราคาสกู๊ปละ 19 บาท (เริ่มต้น 10 สกู๊ป) เฉพาะวันที่ 22 เมษายน 2568 เพียงวันเดียว


    ดิจิทัลเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมใหม่ของคนไทยและธุรกิจเกือบทุกประเภท สำหรับธุรกิจอาหาร การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนมาจากความชอบตามกระแสออนไลน์ของคนไทย ที่มีผลทำให้สินค้ามี Life Cycle ที่สั้นลง เพราะความต้องการอยากลองของใหม่ อยากเห็นสินค้าใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา

    “Product Innovation” เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ผู้นำตลาดไอศกรีมอย่างแบรนด์ สเวนเซ่นส์ ใช้สร้างการเติบโตมาโดยตลอดในอดีตหลายปี แต่ในปี 2568 ปีแห่งการรุมเร้าด้วยความท้าทายจากปัจจัยเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศ จำนวนนักเดินทางที่เข้ามาเมืองไทยที่ยังกลับไปไม่ถึงช่วงก่อนโควิดระบาด และในหน้าร้อนปีนี้อากาศไม่ได้ร้อนเท่าปีก่อน ทั้งยังมีฝนตกในฤดูกาลขายช่วงสงกรานต์อีกด้วย จากสภาพแวดล้อมตลาดดังกล่าว ทำให้เห็นเค้าลางว่าการแข่งขันในตลาดไอศกรีมที่มีมูลค่าราว 20,000 ล้านบาทต่อปี คงจะไม่ได้ง่ายนักในปีนี้

    “เราเป็นประเทศที่ชอบอะไรใหม่ๆ ดังนั้น ในปีนี้สเวนเซ่นส์จะเน้นมากๆ ในการเพิ่ม frequency of innovation การ innovate สินค้าใหม่ๆ ออกสู่ตลาด เพราะตอบโจทย์คนที่ชอบตามกระแส และลูกค้าที่เบื่อง่ายได้ สินค้าใหม่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ลูกค้ากลับมาแวะร้านเราได้บ่อยขึ้น จากที่เฉลี่ยจะเข้าร้านเพียง 5 ครั้งต่อปี และมีโอกาสเปิดใจลูกค้าใหม่ๆ โดยเฉพาะ generation ใหม่” ณพล ศิริมงคล Head of Brand Swensen’s ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าว

ณพล ศิริมงคล


    ตามปกติแต่ละปีสเวนเซ่นส์จะออกสินค้าใหม่กว่า 100 รายการในฟอร์มเดิมและฟอร์มใหม่ๆ รสชาติใหม่ เมนูพรีเมียม และ category ใหม่ๆ เพื่อให้ลูกค้ากลับมาสเวนเซ่นส์บ่อยขึ้น

    แต่ในปีนี้ คาดว่าสเวนเซ่นส์จะมีสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดร่วม 150 รายการ เป็นทั้งสินค้าที่ออกมาเพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และขยายฐานกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ โดยใน 3-4 เดือนที่ผ่านมา บริษัทได้แนะนำสินค้าใหม่ออกวางตลาดหลายรายการ อาทิ สเวนเซ่นส์กล่องสุ่ม ตอบรับกระแสอาร์ททอ, สตรอเบอร์รี่ นูเทลล่า, ไอศกรีมหัวหมูพะโล้ไหว้เจ้า เป็นต้น

    ชนินทร์ นาคะรัตนากร Head of Marketing Swensen’s กล่าวว่า กลยุทธ์การตลาดของสเวนเซ่นส์ในปี 2568 ยังคงจับกระแสเทรนด์ตลาดไปพร้อมกับการเรียนรู้พฤติกรรมและความชอบของผู้บริโภคว่าต้องการประสบการณ์ในรูปแบบไหน

    ซึ่งที่ผ่านมาสเวนเซ่นส์มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดกับผู้บริโภคมาอย่างต่อเนื่องทุกเดือน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลหรือวันสำคัญต่างๆ เพื่อสร้าง Brand Love ให้กับฐานลูกค้าเดิม ไปพร้อมกับการขยายฐานผู้บริโภคเป้าหมายให้กว้างยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z ที่ให้ความสำคัญทั้งในด้านความอร่อย คุณภาพ การมีส่วนร่วมทางสังคม รวมถึงความบันเทิงที่สามารถแบ่งปันได้บนโลกออนไลน์

ชนินทร์ นาคะรัตนากร


    บริษัทมีแผนขยายโอกาสการขาย ผ่านแคมเปญและสินค้าใหม่ทั้งหมด 15 โอกาสพิเศษในปีนี้ อาทิ April Fool Day เป็นต้น และล่าสุดบริษัทได้จัดแคมเปญ Swensen’s Earth Day 2025 ขึ้นในวันที่ 22 เมษายน 2568 เพียงวันเดียว ต่อยอดมาจากกิจกรรมปีที่แล้ว เพื่อสร้างกระแสให้คนรักไอศกรีมได้มีส่วนร่วมกับแบรนด์อีกครั้ง โดยในปีนี้มาพร้อมกับแนวคิด Love the Earth – World Record ตอบโจทย์สายคอนเทนต์ที่ชอบความสนุก

    โดยลูกค้าสเวนเซ่นส์สามารถนำภาชนะสุดครีเอทแบบใดก็ได้ที่สะอาดและเหมาะสมมาใส่ไอศกรีมแทนถ้วยหรือแก้วทั่วไป ในราคาสกู๊ปละ 19 บาท (ต้องซื้อไอศกรีมเริ่มต้นที่ 10 สกู๊ป ราคา 199 บาท) แต่หากซื้อ 20 สกู๊ป ราคาจะอยู่ที่ 398 บาท และไอศกรีม 30 สกู๊ป ไอศกรีม 40 สกู๊ป ไอศกรีม 50 สกู๊ป และไอศกรีม 100 สกู๊ป ราคาจะอยู่ที่ 597 บาท ราคา 796 บาท ราคา 995 บาท และ 1,990 บาทตามลำดับ


    ลูกค้าที่ทำลายสถิติ นำ “ภาชนะใหญ่ที่สุด” มาใส่ไอศกรีมจะได้รางวัลทานไอศกรีมตลอดปีมูลค่า 30,000 บาท ส่วนผู้ชนะรางวัลที่ 2 และ 3 จะได้เงิน 20,000 บาทและ 10,000 บาทตามลำดับ โดยลูกค้าสามารถร่วมกิจกรรมได้ที่สเวนเซ่นส์ 350 สาขาทั่วประเทศ ยกเว้นบางสาขาที่สมุยและภูเก็ตซึ่งเน้นลูกค้านักท่องเที่ยวเป็นหลัก

    “แคมเปญนี้ไม่เพียงสร้างกระแสทำให้แบรนด์สเวนเซ่นส์อยู่ใน Top of Mind ซึ่งมีผลต่อความเคลื่อนไหวของยอดขายในเชิงบวกและสร้างการรับรู้แบรนด์ในวงกว้างเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการสะท้อนแนวคิดการสร้างประสบการณ์การมีส่วนร่วม ควบคู่ไปกับการใส่ใจสังคมผสานแนวคิดความยั่งยืน เราเชื่อมั่นว่าแคมเปญดังกล่าวจะสร้างพลังบวกที่ต่อยอดไปสู่การเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง” ชนินทร์ กล่าว

    ด้าน ณพล กล่าวต่อว่า ตลาดไอศกรีมในประเทศไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยใน 2567 ปีที่ผ่านมาสเวนเซ่นส์เติบโตประมาณ 6-8% และยังคงครองมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับ 1 ด้วยส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 70% ในตลาดร้านไอศกรีมนั่งรับประทาน โดย 70-80% ของลูกค้าเป็นกลุ่มครอบครัวและเด็ก มีอายุโดยเฉลี่ยประมาณ 30-40 ปี รวมถึงกลุ่ม Gen X และ Gen Y ที่เติบโตมากับแบรนด์และมีความภักดีต่อแบรนด์ค่อนข้างสูง



ภาพ: สเวนเซ่นส์



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : “แม็คโคร” ขายไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟไป 1 ล้านโคนแล้ว หลังเปิดตัวตั้งแต่ปลายปี 2567 ลุยขยายจุดขายในแม็คโคร-โลตัสทั่วไทย

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine