SHIMA Park แบรนด์ไลฟ์สไตล์น้องใหม่จากญี่ปุ่น ภายใต้เครือ Shimamura ผู้ค้าปลีกแฟชั่นรายใหญ่กว่า 70 ปีและมีสาขาในญี่ปุ่นกว่า 2,200 แห่ง เปิดตัวสู่ตลาดโลกอย่างเป็นทางการด้วย Flagship Store แห่งแรกบนชั้น 5 สยามพารากอน พร้อมเดินหน้าช่องทางออนไลน์ครบวงจรทั้งเว็บไซต์และมาร์เก็ตเพลสชั้นนำในไทย
การเลือกประเทศไทยเป็นประเทศแรกสะท้อนตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญของตลาดไทย ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่หลงใหลดีไซน์ญี่ปุ่น คุณภาพ และความ “Kawaii” อย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ไทยเป็นตลาดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเปิดตัวคอนเซ็ปต์ใหม่ “Everyday Wonder Store” และ “SHIMA POP” เป็นแห่งแรกในโลก ที่ผสานความสดใสแบบ City Pop เข้ากับแฟชั่นในสไตล์ญี่ปุ่นที่เข้าถึงง่าย
การเข้ามาของ SHIMA Park ในประเทศไทยนับเป็นก้าวสำคัญของแบรนด์ในการขยายตลาดสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากประเทศไทยเป็นตลาดที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพ ความละเอียดอ่อน และดีไซน์ “Kawaii” แบบญี่ปุ่นมาโดยตลอด โดย Shimamura ตั้งใจให้ SHIMA Park เป็นมากกว่าร้านค้า แต่เป็น “Park” หรือ “สถานที่โปรดของทุกคน” ที่สามารถแวะมาเติมแรงบันดาลใจได้เสมอ
หัวใจของแบรนด์คือคาแร็กเตอร์ “Shimausa” เด็กหญิงกระต่ายตัวน้อยผู้เต็มไปด้วยความร่าเริงสดใส และมีความสามารถพิเศษในการค้นหา “ความน่ารัก” จากทั่วทุกมุมโลก คาแร็กเตอร์นี้ได้รับแรงบันดาลใจจากความเชื่อดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ว่า “กระต่ายอาศัยอยู่บนดวงจันทร์” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความอ่อนโยน ความสมหวัง และความโชคดี
ความน่ารักของ Shimausa ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างสมบูรณ์ผ่านคอลเลกชัน “Shimausa & Family” ครอบครัวกระต่ายลวดลายสลับขาว 6 ตัว ที่ถูกพัฒนาเป็นคอลเลกชันพิเศษเฉพาะประเทศไทย ครอบคลุมแฟชั่นเด็ก–ผู้ใหญ่ ของใช้บ้าน และสินค้าไลฟ์สไตล์ เพื่อสร้างจุดต่างด้านอารมณ์ความรู้สึก (Emotional Differentiation) ผ่านคอนเซ็ปต์ “Everyday Wonder” เสนอความสุขเล็กๆ ในทุกวัน ซึ่งเป็นทิศทางที่ตลาดไทยให้การตอบรับสูงในหมวดสินค้าน่ารัก–ใช้ได้จริง
แบรนด์ยังเสริมพลังการตลาดด้วย Influencer Strategy โดยได้ “ชมพู่–อารยา เอ ฮาร์เก็ต” และ “แอบิเกล รังษีสิงห์พิพัฒน์” มาร่วมเป็น Friends of SHIMA Park ตลอดการเปิดตัวและแคมเปญหลักปี 2569 เพื่อย้ำภาพแบรนด์ที่เป็นมิตร อบอุ่น เหมาะกับทุกครอบครัว และสามารถเชื่อมต่อกับผู้บริโภคได้อย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ SHIMA Park ยังดึงดูดกลุ่มแฟนคาแรคเตอร์ผ่านคอลเลกชัน Collaboration ลิขสิทธิ์แท้อย่าง Disney, Super Mario, Kirby, Chiikawa, Mofusand, Shimaenaga และ Animal Crossing เพื่อต่อยอดฐานลูกค้ากว้างขึ้นในหลายเจเนอเรชัน พร้อมบางไอเทมที่ผลิตเฉพาะตลาดไทยเพื่อเพิ่มความพิเศษและความรู้สึก “ต้องไปที่นี่เท่านั้น”
การเปิดตัวครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญของ Shimamura ในการสร้างแบรนด์ไลฟ์สไตล์น่ารักสไตล์ญี่ปุ่นสำหรับตลาดโลก โดยใช้ประเทศไทยเป็น “จุดเริ่มต้น” ในการส่งต่อความสนุกและแรงบันดาลใจแบบญี่ปุ่นให้เข้าถึงผู้บริโภคในทุกวันอย่างแท้จริง
ภาพ: Shimamura
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ‘Meland Club’ สวนสนุกในร่มจากจีน เตรียมเปิดที่ ‘สยามพารากอน’ ไตรมาส 4 ปีนี้
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine