SCG ปักธงสร้างสังคม Net Zero ชูแนวคิด Passion for Inclusive Green Growth - Forbes Thailand

SCG ปักธงสร้างสังคม Net Zero ชูแนวคิด Passion for Inclusive Green Growth

เอสซีจี (SCG) เผยภารกิจก้าวต่อไป ย้ำเดินหน้าสร้างสังคม Net Zero ให้เติบโตอย่างยั่งยืน มุ่งสู่ยอดขายนวัตกรรมกรีน ร้อยละ 67 ในปี 2573 พร้อมตอบโจทย์ลูกค้า ด้วยแนวคิด ‘Passion for Inclusive Green Growth’ ผ่าน 4 เครื่องยนต์หลัก


    ธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กล่าวว่า "ปัจจุบันอุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างมากส่งผลกระทบรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อม การดำรงชีวิตของผู้คน และเศรษฐกิจโลก การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) จึงเป็นภารกิจที่ทุกคนต้องเร่งมือ"

    สอดคล้องกับเมกะเทรนด์โลกที่ผู้บริโภคต้องการสินค้า บริการ โซลูชันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จึงนำมาสู่โจทย์หลักของเอสซีจีที่จะมุ่งสร้างสังคม Net Zero ให้เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยนวัตกรรมกรีน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง หรือแนวคิด ‘Passion for Inclusive Green Growth’ ผ่าน 4 เครื่องยนต์หลัก ประกอบด้วย



    1. องค์กรคล่องตัว ยืดหยุ่น (Agile Organization) ทรานส์ฟอร์มโครงสร้าง สร้างความคล่องตัว ดันธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพเติบโตสูง เพื่อขยายขีดความสามารถของแต่ละธุรกิจให้พร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้า ประกอบด้วยธุรกิจ ‘เอสซีจี ซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชัน’ ธุรกิจวัสดุและโซลูชันก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ‘เอสซีจี สมาร์ทลีฟวิง’ ธุรกิจนวัตกรรมวัสดุก่อสร้าง และโซลูชันเพื่อการอยู่อาศัยที่ดีกว่า ‘เอสซีจี ดิสทริบิวชั่น แอนด์ รีเทล’ ธุรกิจจัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้างและโซลูชันเพื่อการอยู่อาศัยระดับอาเซียน ‘เอสซีจี เคมิคอลส์’ ผู้นำตลาดเคมีภัณฑ์ครบวงจรระดับภูมิภาค ซึ่งมุ่งเติบโตทางธุรกิจควบคู่กับความยั่งยืน ‘เอสซีจี คลีนเนอร์ยี่’ ธุรกิจพลังงานสะอาดครบวงจรที่กำลังขยายไปในอาเซียน

    โดยก่อนหน้านี้ได้ผลักดันธุรกิจในเอสซีจีที่มีศักยภาพสูง เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไปแล้วประกอบด้วย ‘บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP’ ผู้นำบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน ‘บริษัทเอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดีโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGJWD’ ผู้ให้บริการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนครบวงจรรายใหญ่สุดในอาเซียน และ ‘บริษัทเอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGD’ ผู้นำธุรกิจตกแต่งพื้นผิวและสุขภัณฑ์ครบวงจรระดับอาเซียน



    2. นวัตกรรมกรีน (Green Innovations) เร่งพัฒนานวัตกรรม โซลูชันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น นวัตกรรมปูนคาร์บอนต่ำ สมาร์ทโซลูชันเพื่อการอยู่อาศัย พลาสติกรักษ์โลก บรรจุภัณฑ์ยั่งยืนที่ใช้ซ้ำ รีไซเคิลได้ พลังงานสะอาดครบวงจร พร้อมขยายเข้าสู่อุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ตลอดจนสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการวิจัยระดับโลกเพื่อพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน

    อาทิ ‘Norner AS’ ศูนย์วิจัยและพัฒนาพลาสติก ประเทศนอร์เวย์ และ ‘มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด’ ประเทศอังกฤษ โดยตั้งเป้ารายได้จากนวัตกรรมรักษ์โลก SCG Green Choice ร้อยละ 67 จากยอดขายทั้งหมดภายในปี 2573 พร้อมทั้งพัฒนากระบวนการผลิตคาร์บอนต่ำ ตามเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ในปี 2593 ซึ่งปัจจุบันมีความคืบหน้าตามแผน

    3. องค์กรแห่งโอกาส สร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ เปิดโอกาสให้พนักงานสร้างสรรค์นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ๆ ผ่านโครงการสตาร์ทอัพในบริษัท อาทิ พัฒนาแพลตฟอร์มสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ ‘Prompt Plus’ ยกระดับการบริหารจัดการต้นทุนและสต็อกสินค้าให้แก่ร้านค้ารายย่อยกว่า 10,000 รายในเครือข่ายบริษัท การบ่มเพาะสตาร์ทอัพในโครงการ ZERO TO ONE by SCG สร้างโอกาสให้พนักงานก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการ ปั้นธุรกิจศักยภาพสูงมากมาย

    ยกตัวอย่างธุรกิจเหล่านั้น เช่น ‘Dezpax.com’ แพลตฟอร์มออนไลน์แพคเกจจิ้งครบวงจรรายแรกในไทย สำหรับธุรกิจร้านอาหาร ฟู้ดเดลิเวอรี่ และคาเฟ่, Urbanice แพลตฟอร์มสื่อสาร บริหารจัดการ สำหรับชุมชนที่อยู่อาศัยอย่างคอนโดมิเนียมและหมู่บ้าน เพื่อการอยู่อาศัยแบบสมาร์ท สะดวก และมีความสุข มีผู้ใช้งานกว่า 250,000 คน ใน 850 โครงการทั่วประเทศ ตลอดจนสนับสนุนให้พนักงานพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ ตอบเทรนด์อนาคต ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนภายนอกเอสซีจี เช่น ‘NocNoc’ ศูนย์รวมสินค้าและบริการเรื่องบ้านออนไลน์ ที่กำลังขยายธุรกิจทั้งในไทยและอาเซียน



    4. ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง (Inclusive Society) เชิญชวนคนในซัพพลายเชน เปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำไปพร้อมกัน ด้วยการผลักดัน ‘สระบุรีแซนด์บ็อกซ์ เมืองต้นแบบคาร์บอนต่ำแห่งแรกของไทย’ และส่งเสริมการเกษตรคาร์บอนต่ำ เช่น การทำนาเปียกสลับแห้งและการปลูกพืชพลังงานอย่างหญ้าเนเปียร์ เพื่อใช้เป็นพลังงานทดแทน สร้างเครือข่าย ‘Big Brothers for SMEs’ ใน จ.สระบุรี เพื่อส่งต่อความรู้ให้ผู้ประกอบการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เป็นต้น

    "เอสซีจี พร้อมนำความรู้ ความเชี่ยวชาญ เทคโนโลยี มาเร่งพัฒนานวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และช่วยให้การใช้ชีวิตสะดวกสบาย ปลอดภัย ตอบรับกับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ เพื่อให้ทุกคนทั้งอาเซียนและระดับโลกมีคุณภาพชีวิตที่ดีบนสังคม Net Zero" กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี ย้ำทิ้งท้าย


​​เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ยูโอบี ประเมินจีดีพีไทยปี 67 ขยายตัวได้ 3.6% จากภาคส่งออก และท่องเที่ยวฟื้นตัว

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine