POP MART ชี้เมืองไทยในตอนนี้น่าจะเป็นตลาดที่ตื่นตัวเรื่องอาร์ตทอยส์ที่สุดใน Southeast Asia ฉลองใหญ่เปิดในไทยครบ 1 ปี เปิดสาขาป๊อปอัพสโตร์ที่สยามสแควร์ รับเทรนด์อาร์ตทอยในไทยที่ยังโตแรง พร้อมเอาใจแฟนๆ เปิดตัว CRYBABY คอลเล็กชั่นซีรีส์ประเทศไทย ห่มสไบขี่ช้าง
ศิริพร แผลงจันทึก Country General Manager บริษัท ป๊อป มาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้การบริหารจัดการโดย POP MART INTERNATIONAL ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอาร์ตทอยส์รายใหญ่ระดับโลก กล่าวว่า เทรนด์การขยายตัวของตลาดอาร์ตทอยส์ในประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ดูได้จากการที่มีคู่แข่งเข้ามาในไทยมากขึ้น ทั้งจากในประเทศและจากต่างประเทศ
“เมืองไทยในตอนนี้น่าจะเป็นตลาดที่ตื่นตัวที่สุดใน Southeast Asia เพราะช่วงที่ผ่านมาเราจะเห็นว่ามีอีเวนต์เกี่ยวกับอาร์ตทอยส์แทบทุกเดือน รวมทั้งมีกิจกรรมส่งเสริมการขายที่มีอาร์ตทอยส์ไปร่วมกิจกรรมด้วย ไม่ว่าจะซื้อรถ ซื้อบ้าน ซื้อคอนโด ก็แถมอาร์ตทอยส์
“และตอนนี้ยังมีการขยายไปสู่ธุรกิจอื่นๆ อย่างล่าสุด Samsung ก็จับมือกับ CRYBABY ออก Accessories สำหรับมือถือ Samsung รุ่น Galaxy Z Flip6 หรือ Vans Hirono และ Uniqlo x DIMOO โดยจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ อย่างแน่นอน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเหตุผลที่คอนเฟิร์มได้ว่าเทรนด์การขยายตัวของตลาดอาร์ตทอยส์ในประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง และรวดเร็ว”
ศิริพร กล่าวอีกว่า อีกหนึ่งจุดแข็งของ POP MART คือ การที่ไม่ได้เป็นบริษัทที่ผลิตเพียงกล่องสุ่มหรืออาร์ตทอยส์เท่านั้น แต่ยังเป็น Entertainment Company เพราะนอกจากรีเทลสโตร์แล้ว ก็ยังทำงานร่วมกับศิลปินมากมาย รวมถึงการมี POP MART DESIGN CENTER (PDC) ที่สามารถดีไซน์คาแรคเตอร์ต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง เพื่อความพร้อมในการสนับสนุนศิลปินหน้าใหม่อย่างต่อเนื่อง
สำหรับในประเทศไทยที่ POP MART เข้ามา 1 ปีแล้ว ล่าสุดได้จัดงาน “1st ANNIVERSARY EVENT AND NEW POP-UP STORE OPENING” เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 1 ปี POP MART THAILAND โดยเปิดตัว POP MART POP UP STORE @ SIAM SQUARE บนพื้นที่รวมทั้งตึกและบริเวณลานอีเวนต์กว่า 1,300 ตารางเมตร ณ สยามสแควร์ ซอย 7 ซึ่งใหญ่ที่สุดในเวลานี้ เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่กับอาร์ตทอยส์อย่างเต็มอิ่มและดื่มด่ำไปกับการเลือกดูสินค้า โดยทุกโซนจะมีการจัดเรียงสินค้าที่บอกเล่าเรื่องราวของ IP (Intellectual Property) อย่างลึกซึ้ง พร้อมร่วมสนุกกับกิจกรรมหลากหลาย ตั้งแต่วันที่ 4-9 ตุลาคม 2567
“การเปิดสาขาหรือร้านป๊อปอัพทุกที่มีความท้าทายที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับขนาดและโลเคชั่น โดยต้องทำการบ้านอย่างหนัก เพื่อให้เราเป็นที่รักของแฟนๆ ในละแวกนั้นๆ ซึ่งทำอย่างไรให้มีสินค้าที่ไม่เหมือนที่อื่นมาให้แฟนๆ ได้
“อย่างที่สยามสแควร์นี้เราก็มีความภูมิใจเป็นอย่างมาก ที่ Head Quarter ให้โอกาสประเทศไทย โดยเลือกสยามสแควร์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์กลุ่มวัยรุ่นและคนหนุ่มสาวที่ชื่นชอบความทันสมัยและสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมที่นักเรียน นักศึกษา และวัยทำงานมาใช้เวลาว่างร่วมกัน ในแง่ของทำเลก็ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า สะดวกต่อการเดินทาง และเข้าถึงได้ง่ายทั้งจากคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว”
โดยในการเฉลิมฉลองนี้ POP MART ได้ศิลปินมาช่วยออกแบบคอลเล็คชั่น Thailand Limited ถึง 3 คอลเล็คชั่น คือ CRYBABY HELLO THAILAND SERIES ซึ่งเรารอคอยมาเป็นเวลาถึง 1 ปีเต็มที่จะได้มีคอลเล็คชั่นนี้มอบให้กับแฟนๆ ชาวไทย เป็นของขวัญที่เราตั้งใจและมีความภูมิใจเป็นอย่างมาก
โดยเป็นคาแร็คเตอร์ CRYBABY ในชุดไทย ขี่ช้างห่มสไบ ที่มีความเป็นไทยในแบบน่ารักและทันสมัย ซึ่งสินค้าในคอลเล็คชันนี้จะมีขายที่ไทยเป็นที่แรก โดยได้วางจำหน่ายแล้วเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเร็วๆ นี้จะสินค้าใหม่ในซีรีย์นี้ตามมาอีก
รวมถึงคอลเล็คชั่น Thailand Limited อีก 2 คอลเล็คชั่นที่เชื่อว่าทุกคนจะต้องอยากเป็นเจ้าของมาก คือ CRYBABY I call the short ซึ่งผิวของ CRYBABY จะเป็นสีเข้มเหมือนโดนแดดประเทศไทย และ MEGA CRYBABY 400% The Missing Tail ซึ่งก็จะมีขายที่ประเทศไทยที่แรกและที่เดียวอีกด้วย
นอกจากนี้ ภายในงานทุกท่านจะได้พบกับคาแรคเตอร์ ซึ่งเราเรียกว่า IP (Intellectual Property) ที่เป็น Top คาแร็คเตอร์ รวมถึง New Comer ทั้งหมด อาทิ LABUBU (ลาบูบู้), CRYBABY (ครายเบบี้), MOLLY (มอลลี่), Hirono (ฮิโรโนะ), DIMOO (ดีโม่), SKULLPANDA (สคัลแพนด้า), PUCKY (ปั๊กกี้), SWEET BEAN (สวีท บีน), PINO JELLY (พิโน เจลลี่) และ ZSIGA (ซิกก้า) นับเป็นการรวมคอลเล็คชั่นที่สุดของกระแสอาร์ตทอย
สำหรับ POP MART เปิดตัวมาแล้ว 14 ปีทั่วโลก โดยตอนนั้น “หวังนิน” (Wang Ning) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ POP MART International Group ได้แรงบันดาลใจจากตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติของญี่ปุ่นที่สุ่มสินค้าออกมา ทำให้เกิดไอเดียพัฒนา ‘กล่องจุ่ม’ หรือ ‘กล่องสุ่ม’ ขึ้นมาขายในเวลาต่อมา
โดยของเล่นในรูปแบบกล่องจุ่ม สิ่งสำคัญที่ต้องมีคือ ‘ตัวละคร’ ที่จะช่วยดึงกลุ่มลูกค้าที่ไม่ใช่แค่เด็กอย่างเดียว แต่กลับเป็นทุกเพศทุกวัยได้ เขาจึงได้เริ่มหาพาร์ทเนอร์สำคัญในธุรกิจของเล่นนั่นก็คือ ‘นักออกแบบ-ศิลปิน’ ที่จะมาช่วยสร้างสรรค์ของเล่นให้ออกมาน่าสนใจ
ส่วนปัจจุบัน POP MART ได้ขยายร้านไปยังประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ฮ่องกง สิงคโปร์ หรืออื่นๆ มากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ‘แอนิเทค’ เผยธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าท้าทายหนักสุดในรอบ 20 ปี แข่งราคาต่างชาติไม่ไหว! ลุยคอลแล็บ Sanrio เกาะกระแสอาร์ตทอย
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine