มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ครบ 1,000 สาขาทั่วไทยใน 9 ปี เตรียมเปิดเพิ่มอีก 500 สาขาภายในปี 2570 - Forbes Thailand

มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ครบ 1,000 สาขาทั่วไทยใน 9 ปี เตรียมเปิดเพิ่มอีก 500 สาขาภายในปี 2570

มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. เปิดครบ 1,000 สาขาในไทยแล้ว เป็นรองแค่มาเลเซียและอินโดฯ ชี้เศรษฐกิจไม่กระทบ ลูกค้ามองหาความคุ้มค่ามากขึ้น ลุยต่อเปิดเพิ่มอีก 500 สาขาใน 3 ปี งบลงทุนปีละ 2,000 ล้านบาท


    อานุภาพ คงมาลัย รองประธานบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเงินลงทุนปีละ 2,000 ล้านบาท เป็นเวลาต่อเนื่องอีก 3 ปี ตั้งแต่ปี 2025-2027 รวม 6,000 ล้านบาท เพื่อเปิดสาขามิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. เพิ่มอีกเป็นจำนวนทั้งสิ้น 500 แห่ง รวมกับที่มีสาขาอยู่แล้วในปัจจุบัน 1,000 แห่ง เป็น 1,500 แห่งในปี 2027

    ซึ่ง 40% และ 20% ของมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. อยู่ในภาคกลางและกรุงเทพฯ ตามลำดับ และจากจำนวนร้านทั้งหมด แบ่งเป็นร้านสแตนด์อะโลน 70% ที่เหลืออีก 30% เป็นร้านที่เปิดในห้าง คอมมูนิตี้มอลล์ และร้านแบบเอ็กซ์เพรส

    ในปี 2025 บริษัทจะใช้เงินลงทุน 2,000 ล้านบาท เพื่อเปิดสาขาทั่วประเทศอีก 200 สาขาในทุกรูปแบบ รวมทั้งร้าน MR. D.I.Y. 2.0 ที่จะเปิดในมอลล์ระดับ A ซึ่งมีทราฟฟิกหนาแน่น เป็นกลุ่มลูกค้าไลฟ์สไตล์ และมีกำลังซื้อดี จากต้นปีนี้จนถึงปัจจุบันร้านมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. เปิดสาขาใหม่ไปแล้วกว่า 60 สาขา ทำให้มีสาขาทั้งสิ้น 1,000 แห่ง ณ วันนี้


    แอนดี้ ชิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากจุดเริ่มต้นเพียงหนึ่งสาขาในปี 2559 วันนี้ มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ผู้นำธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์ในประเทศไทย ได้เปิดร้านครบ 1,000 สาขาใน 77 จังหวัดทั่วไทย โดยสาขาแห่งที่ 1,000 ได้เปิดที่ชั้น 6 เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน โดยร้านมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. แห่งนี้ จะมาในคอนเซ็ปต์ใหม่คือ MR. D.I.Y. 2.0 ซึ่งถูกพัฒนามาจากมาเลเซีย ชั้นวางของไม่สูงเท่าสาขาทั่วไป การจัดเรียงของช่วยยกระดับประสบการณ์การช็อปปิ้งให้ลูกค้าเดินจับจ่ายสินค้าได้อย่างสะดวกมากขึ้น

    ร้านมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ เป็นร้านค้า MR. D.I.Y. 2.0 สาขาที่ 2 หลังจากสาขาแรกได้เปิดตัวไปที่ซีคอนสแควร์ศรีนครินทร์ก่อนหน้านี้ นอกจากดีไซน์โฉมใหม่แล้ว พื้นที่ของ MR. D.I.Y. 2.0 ยังมีขนาด 1,000 ตารางเมตร ใหญ่กว่าร้านมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. Express และร้านมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. สาขาปกติ ซึ่งมีพื้นที่อยู่ระหว่าง 300-700 ตารางเมตร


    มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ประเทศไทย นำเสนอสินค้ามากกว่า 15,000 รายการใน 6 หมวดหมู่หลัก ตั้งแต่อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ ไปจนถึงของใช้ในบ้านที่จำเป็น ราคา “Always Low Prices” หรือ “ราคาถูกคุ้มเสมอ” สินค้าที่วางขายในร้านนำเข้าจาก 13 ประเทศทั่วโลกและซัพพลายเออร์ในเมืองไทยอีก 350 ราย ประมาณ 40% ของสินค้าเป็นสินค้าเฮาส์แบรนด์ของ มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย.

    อานุภาพ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันการซื้อเฉลี่ยต่อบิลอยู่ที่ 172-175 บาท ภาวะเศรษฐกิจไม่มีผลกระทบจากเศรษฐกิจ เพราะราคาเข้าถึงง่าย มีราคาเฉลี่ยต่อชิ้น 40 บาท เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ลูกค้าคนไทยซื้อสินค้าที่มีความคุ้มค่ากับราคามากขึ้นจากที่ก่อนหน้านี้จะให้ความสนใจจับจ่ายสินค้า luxury

    “การเปิดมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ครบ 1,000 สาขา เป็น significant chapter ของเราในไทยที่ซึ่งมีจำนวนสาขามากเป็นอันดับ 3 รองจากมาเลเซียบริษัทแม่และอินโดนีเซีย การมีสาขาถึง 1,000 สาขา นี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น แต่เราจะไปต่อ เพราะโอกาสยังมีมหาศาล ประชากรต่อสโตร์ในมาเลเชียมีราว 350 คน ขณะที่ประเทศไทยสูงถึง 660 คน” แอนดี้ กล่าว


    แอนดี้ บอกอีกว่า มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ไม่ได้เป็นเพียงแค่เป็นร้านค้าปลีกอีกต่อไป แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความไว้วางใจสำหรับการเลือกซื้อสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ที่มีสาขาครอบคลุมทั้งในเมืองใหญ่และชุมชนในชนบท โดยยึดถือในเรื่องการมอบความคุ้มค่า ความสะดวกสบาย และการเข้าถึงได้ง่าย สินค้าที่ขายดี 4 อันดับแรก ได้แก่ สินค้าในครัวเรือน สินค้าฮาร์ดแวร์ เครื่องเขียน และของเล่นเด็ก

    “การเปิดร้านครบ 1,000 สาขา ในเวลาเพียง 9 ปีถือเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่ง ความสำเร็จนี้ไม่ได้มาจากแค่ตัวเราเองเพียงลำพัง แต่การเติบโตนี้เกิดขึ้นได้เพราะการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากลูกค้าของเรา และการทำงานอย่างทุ่มเทของพนักงานกว่า 10,000 คน ซึ่งความไว้วางใจ ความทุ่มเท และความมุ่งมั่นของพนักงานเป็นรากฐานของการเติบโตและความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย.” แอนดี้กล่าว



ภาพ: มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย.



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : “อีฟแอนด์บอย” ไม่สนวิกฤต ลุยเพิ่มร้านใหม่อีกเกือบ 100 แห่ง ดันสาขาทะลุ 140 แห่งภายใน 4 ปี

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine