‘มัทฉะ’ กลายเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางบนโซเชียลมีเดียด้วยยอดเอ็นเกจเมนต์ (Engagement) สูงถึง 5,219,570 ครั้ง ในเวลาไม่ถึง 2 เดือนตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ร้านค้าหลายแห่งประสบปัญหาสินค้าขาดตลาด จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด เทรนด์คนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพผลักดันให้มัทฉะกลายเป็นทั้งเครื่องดื่มทางเลือกและสัญลักษณ์ของไลฟ์สไตล์คนทันสมัย
บริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด ได้ทำการรวบรวมข้อมูลผ่านเครื่องมือ DXT360 เพื่อฟังเสียงผู้บริโภคในสังคมออนไลน์ (Social Listening) ในช่วงวันที่ 1 มกราคม - 15 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อนำมาวิเคราะห์หา Insight ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มยอดนิยมที่ต้นกำเนิดจากญี่ปุ่นชนิดนี้
‘มัทฉะลาเต้’ อันดับ 1 ในใจชาวโซเชียล
ผงมัทฉะสามารถนำมารังสรรค์ได้หลายเมนู ตามความชื่นชอบรสสัมผัสของแต่ละคน ด้วยเอกลักษณ์ที่หาได้ยากจากเครื่องดื่มทั่วไป ซึ่งนักดื่มมือใหม่และมือเก่าต่างก็มีเมนูโปรด ดังนี้
• Matcha Latte ครองอันดับ 1 ได้รับ Engagement สูงที่สุดบนโลกโซเชียลมีเดียอยู่ที่ 41% ถือเป็นเมนูที่เปิดโลกการดื่มมัทฉะของหน้าใหม่และครองใจใครหลายๆ คนเนื่องจากได้ทั้งประโยชน์และความอร่อยทานง่าย
• รองลงมาคือ Pure Matcha ที่อันดับ 2 ซึ่งมี Engagement อยู่ที่ 35% ถือว่าเป็นเมนูสายสุขภาพที่ทำให้ได้รับสารประโยชน์จากมัทฉะเต็มที่อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ดื่มได้สัมผัสถึงเอกลักษณ์และคุณภาพของมัทฉะแต่ละร้านได้ดีที่สุด
นอกจากนี้ ยังมีเมนูสร้างสรรค์อื่นๆ ที่ได้รับความนิยม โดย Matcha Coconut ครองอันดับ 3 ด้วยยอด Engagement 10% ตามมาด้วย Matcha Honey และ Matcha Lemon ที่ได้รับความนิยมเท่ากันที่ 4% ถัดมาคือ Matcha Yuzu 2% และเมนูอื่นๆ รวม 4%

Taste Note ไหน ถูกใจมัทฉะเลิฟเวอร์
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้มัทฉะเป็นที่นิยมและไม่เอ่ยถึงไม่ได้ นั่นคือ ‘Taste Note ของมัทฉะ’ หรือ เอกลักษณ์ของรสชาติและกลิ่นที่หลากหลาย ซึ่งมาจากความแตกต่างของสายพันธุ์ใบชา แหล่งเพาะปลูก และกระบวนการผลิต ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกมัทฉะที่ตรงกับรสนิยมของตนเองได้
เมื่อพิจารณาจากข้อมูลใน Social Media พบว่าผู้ใช้โซเชียลมีเดียให้ความสนใจและมี Engagement ต่อ Taste Note ต่างๆ ของมัทฉะ ดังนี้
• Creamy 38% : จุดเด่นคือช่วยลดความเข้มของรสขมจากใบชา มีความหอมเนย กลมกล่อม นุ่มละมุน
• Nutty 35% : มีความมัน นัว คล้ายถั่วอัลมอนด์อบ บางครั้งอาจได้รสถั่วคั่ว
• Seaweed 10% : ให้ความรู้สึกที่สดชื่นแบบน้ำทะเล มีความเค็มเล็กน้อย โดยแสดงถึงรสและกลิ่นของสาหร่ายอย่างชัดเจน
• Chocolate 9% : สัมผัสได้ถึงดาร์คช็อคโกแลตมีการผสมกับความขมเล็กน้อย
• Floral 5% : กลิ่นหอมดอกไม้อ่อนๆ ให้ความรู้สึกสดชื่น และบางเบา
• อื่นๆ รวม 3%
มัทฉะแบรนด์ไหน ครองใจชาวโซเชียล
จากกระแสมัทฉะที่กำลังมาแรงบนโซเชียล ตลาดเครื่องดื่มมัทฉะแบ่งออกกว้างๆ เป็น 2 กลุ่ม คือ ร้านเครื่องดื่มแบรนด์ดัง (Popular Coffee Chains) ที่เพิ่มเมนูมัทฉะเป็นทางเลือกใหม่ให้ลูกค้า และร้านมัทฉะพรีเมียม (Specialty Matcha Cafes) ที่เน้นเสิร์ฟเครื่องดื่มมัทฉะและชาเขียวโดยเฉพาะ
ในแต่ละตลาดมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน สำหรับร้านเครื่องดื่มแบรนด์ดัง มักหาร้านดื่มได้ง่าย ติดตลาด และมีชื่อเสียง เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นดื่มมัทฉะ โดยพบว่า แบรนด์ที่ผู้ใช้โซเชียลมีเดียให้ความสนใจมากที่สุด คือ คาเฟ่ อเมซอน (Cafe Amazon) ด้วยยอด Engagement 29% รองลงมา ฟุกุ มัทชะ (Fuku Matcha) 21%, อินทนิล (Inthanin) 17%, พันธุ์ไทย (Punthai) 15%, สตาร์บัคส์ (Starbucks) 13% และอื่นๆ 5% ตามลำดับ

ส่วนร้าน Specialty Matcha เหมาะสำหรับชาวมัทฉะเลิฟเวอร์ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพใบชาและประสบการณ์การดื่มที่ลึกซึ้ง โดยพบว่า แบรนด์ MTCH ได้รับความสนใจจากผู้ใช้โซเชียลมีเดียมากที่สุดโดยมี Engagement อยู่ที่ 30% รองลงมาคือ Peace Oriental 23%, Ksana 18%, mini oriental 15%, Homu 10% และอื่นๆ 4% ตามลำดับ
มัทฉะกับโอกาสทางการตลาด
มัทฉะมีศักยภาพทางการตลาดสูงด้วยความนิยมที่ยืนยันจากยอด Engagement กว่า 5 ล้านครั้งในโซเชียลมีเดียตามที่กล่าวไปข้างต้น ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ผู้บริโภคหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มรักสุขภาพและกลุ่มชอบทดลองสิ่งใหม่ โดยแบรนด์สามารถสร้างการเติบโตได้ด้วยการพัฒนาเมนูหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ Matcha Latte สำหรับมือใหม่ไปจนถึง Pure Matcha สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรสชาติดั้งเดิม โดยใช้คุณค่าทางวัฒนธรรมและประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นจุดขายหลัก
ภาพ: ดาต้าเซ็ต
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : LINE MAN จับตาเทรนด์ “ชาไทย Specialty” ร้านเปิดใหม่โต 205% ใน 3 ปี
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine