หลังจากปล่อยให้ร้านอาหารญี่ปุ่นรุกคืบขยายธุรกิจอาหารในเมืองไทยมานาน และล่าสุดจากการสำรวจขององค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) กรุงเทพฯ พบว่า ในปีที่ผ่านมา มีร้านอาหารญี่ปุ่นทั้งสิ้นถึง 5,751 สาขา เพิ่มขึ้นถึง 426 ร้าน หรือ 8% เมื่อเทียบกับปี 2565 ผู้ประกอบการไทยจากหลายวงการ อาทิ โรงแรม แฟชั่น ได้เริ่มกลับไปลงทุนในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น หลังการฟื้นตัวจากโควิด
ความเคลื่อนไหวล่าสุด กลุ่มบริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เจ้าของแบรนด์อาหาร Zen, AKA, Tummour (ตำมั่ว) กำลังเตรียมจะเปิดบริการร้าน “เขียง บาย ตำมั่ว” แบรนด์สตรีทฟู้ดไทย ในย่านช็อปปิ้งดังอย่างชินไซบาชิ โอซาก้า ประเทศซี่ปุ่น ในต้นเดือนมีนาคมนี้
ทั้งนี้ ชินไซบาชิ เป็นถนนคนเดินยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบช็อปปิ้ง อยู่กลางเมืองโอซาก้า มีความยาวประมาณ 600 เมตร ทั้งสองฝั่งของชินไซบาชิมีสินค้าหลากหลายชนิด ตั้งแต่ร้านเครื่องสำอาง ร้านขายของมือสอง ร้านขายยา อาหารเสริม แฟชั่น และร้านอาหารชื่อดังอีกนับไม่ถ้วน โดยสิ่งที่เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่ทั้งคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวทุกคนต้องแวะมาถ่ายรูปทุกครั้งที่มาโอซาก้าก็คือ “ป้ายไฟกูลิโกะ” นั่นเอง
เศรษฐพงศ์ ผดุงพิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีโนซิส จำกัด กล่าวว่า การเดินทางไปร้าน “เขียง บาย ตำมั่ว” ไม่ยาก เพราะอยู่ใกล้กับโรงแรม Lub D Osaka Honmachi โดยสามารถเดินทางเพียง 4 นาที จากศาลเจ้านัมบะยาซากะ (Namba Yasaka Shrine) หรือ 600 เมตร ห่างจากศูนย์การประชุมทีเคพี ซินไชบาชิเอกิมาเอะ
“เขียง บาย ตำมั่ว” ที่โอซาก้ามีที่นั่งประมาณ 25-30 ที่นั่ง เสิร์ฟอาหารไทยเมนูง่ายๆ ปรุงเร็ว และรสแซ่บ คุณภาพดีคล้ายๆ กับเมนูที่ขายในประเทศไทย เช่น ผัดกะเพรา แต่เพิ่มเมนูพิเศษที่เกี่ยวกับซุปต้มยำ เช่น มาม่าหม้อไฟ และมาม่าต้มยำไก่ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่นๆ เช่น ผัดไทยกุ้ง เป็นต้น ราคาอาหารเริ่มตั้งแต่ระดับหลักร้อยเยนต้นๆ จนถึงระดับพันเยนปลายๆ
สำหรับร้าน “เขียง บาย ตำมั่ว” แห่งนี้ เปิดดำเนินการภายใต้บริษัทร่วมทุนระหว่างนักธุรกิจไทยกับญี่ปุ่น ซึ่งซื้อสิทธิ์แฟรนไชส์จากบริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
“ถ้าร้านอาหารญี่ปุ่นมาเปิดเมืองไทยได้ อาหารไทยก็มาเปิดที่ญี่ปุ่นได้ ร้านอาหารไทยได้รับความนิยมไม่แพ้อาหารท้องถิ่นอย่างราเมนหรือซูชิ ตอนนี้ประมาณการได้ว่ามีร้านอาหารไทยกว่า 50 แห่ง เปิดบริการที่โอซาก้า” แหล่งข่าวจากวงการท่องเที่ยวญี่ปุ่นให้ความเห็น และบอกว่า นอกจากร้านเล็กร้านน้อย ก็ยังมีเชนดังๆ เปิดขายอาหารไทยที่โอซาก้าหลายปีแล้ว เช่น ร้านแมงโก ทรี ของกลุ่มบริษัท โคคา โฮลดิ้ง เป็นต้น
ทั้งนี้ เมื่อดูจากสถิติในอดีต พบว่าประเทศไทยเป็นประเทศอันดับต้นๆ ที่มีคนญี่ปุ่นอาศัยอยู่มากที่สุด รองจากสหรัฐอเมริกา จีน และออสเตรเลีย โดยในปี 2543 มีคนญี่ปุ่นอาศัยอยู่ในเมืองไทยมากกว่า 20,000 คน และเพิ่มมาเป็นกว่า 82,000 คนในเวลา 21 ปีต่อมา
ดังนั้นการซึมซับวัฒนธรรมการกินอาหารไทยของคนญี่ปุ่นจึงมีมานาน และนอกจากเมนูผัดกะเพราจะเป็นที่นิยมของคนไทยแล้ว ญี่ปุ่นก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่นิยมเมนู “กะเพรา” ทั้งหลายของประเทศไทย
เขียง บาย ตำมั่ว เป็นแบรนด์อาหารแนวสตรีทฟู้ดที่เกิดขึ้นมาในปี 2562 เป็นแบรนด์อาหารอันดับที่ 12 ภายใต้กลุ่มเซ็นคอร์ปฯ โดยเขียงจับกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงล่าง เพื่อเติมเต็มพอร์ตของเซ็นคอร์ปฯ ซึ่งส่วนใหญ่จะจับตลาดกลางถึงบน นอกจากนี้ในเซ็กเมนต์นี้ การแข่งขันยังไม่สูงเท่าอาหารเซ็กเมนต์อื่นๆ และเขียงเป็นแบรนด์เดียวในกลุ่มเซ็นฯ ที่สามารถเปิดบริการได้เดือนละ 5-10 สาขาต่อเดือนในช่วงโควิดระบาด
ในปีแรกของการก่อตั้ง มีเขียงเปิดบริการทั้งหมด 53 แห่งตามปั๊มน้ำมัน อาคารพาณิชย์ ฟู้ดคอร์ท คอมมูนิตี้มอลล์ และศูนย์การค้า
ส่วนปัจจุบัน เขียงเปิดบริการทั่วประเทศประมาณ 100 แห่ง โดย 20% ของสาขาทั้งหมดเป็นร้านที่บริษัทลงทุนเอง และที่เหลืออีก 80% เป็นการขยายผ่านระบบแฟรนไชส์ ก่อนโควิดผู้บริหารเคยตั้งเป้าหมายว่าอยากจะเห็นสาขาของเขียง 1,000 แห่งในอนาคต
สาขาของเขียงเกือบจะทั้งหมดเปิดบริการในประเทศไทย และเพิ่งเริ่มขยายสาขาไปต่างประเทศเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยเปิดที่มาเลเซียเป็นสาขาแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และกำลังจะเปิดสาขานอกประเทศเป็นแห่งที่ 2 ที่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 4 มีนาคมนี้
นอกจากนี้ยังมีแผนจะเปิดสาขาในประเทศอื่นๆ อีก เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ และจีน เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้บริหารของเซ็นฯ เคยคาดว่ารายได้ของเขียงในอนาคตอาจจะเป็นสัดส่วนถึง 50% จากเป้าหมายที่จะบรรลุ 10,000 ล้านในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : พิซซ่าเกาหลี-อเมริกันบุกไทย ตบเท้าชิงแชร์ตลาดหมื่นล้าน ฝั่งเดอะ พิซซ่า ดึง ‘บิวกิ้น-พีพี’ เป็นพรีเซ็นเตอร์
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine
