“อินทนิล” วางเป้าหมาย ขยาย 2,500 สาขาใน 5 ปี ออกโปรดักต์ ทำแคมเปญเจาะคนรุ่นใหม่ - Forbes Thailand

“อินทนิล” วางเป้าหมาย ขยาย 2,500 สาขาใน 5 ปี ออกโปรดักต์ ทำแคมเปญเจาะคนรุ่นใหม่

ตลาดกาแฟนอกบ้าน (Coffee Chain Store) ในไทยเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีความคึกคักไม่น้อยเลยทีเดียว จากการแข่งขันกันของฝั่งกลุ่มธุรกิจนอนออยล์ของบรรดาปั๊มน้ำมัน จนทุกวันนี้เราเห็น “ร้านกาแฟ” แบรนด์ดังจากปั๊มน้ำมันขยายสาขากันอย่างคึกคัก และออกไปอยู่นอกปั๊มมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือร้าน “อินทนิล” จากกลุ่มบางจากฯ ที่ปัจจุบันเป็นเบอร์ 2 ของตลาด และกำลังวางเป้าหมายขยาย 2,500 สาขาใน 5 ปีข้างหน้า


    อินทนิล เปิดเผยข้อมูลว่าในปี 2566 อินทนิลมีการขยายสาขาจนครบ 1,000 สาขาแล้ว โดยสัดส่วนการบริหารสาขาที่ดำเนินการโดยผู้ประกอบการ 75% ส่วนที่เหลือเป็นของบริษัท บางจากรีเทล จำกัด อยู่เพียง 25%

    ซึ่งการขยายสาขาตลอดทั้งปีนั้นมุ่งเน้นครอบคลุมอำเภอ หรือเมืองใหญ่ในแต่ละจังหวัด ทั่วประเทศ ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 1,000 สาขา แบรนด์อินทนิลเป็นเครือข่ายร้านกาแฟอันดับ 2 ของประเทศ ในตลาดกาแฟนอกบ้าน (Coffee Chain Store)


กลยุทธ์เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่

    อินทนิลบอกว่าการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องทั้งในปั๊มบางจากและนอกปั๊มบางจาก ทำให้ปัจจุบันสัดส่วนนอกปั๊มในตอนนี้มีมากกว่า 40% แล้ว โดยมุ่งเน้นขยายไปใน Strategic Location ได้แก่ สนามบิน ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล ออฟฟิศสำนักงาน สถานศึกษา และมหาวิทยาลัยชื่อดังทั่วประเทศ

    ซึ่งจากการขยายสาขาออกนอกสถานีบริการ อินทนิลได้เข้าถึงฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ “คนรุ่นใหม่ และวัยทำงาน” (New Gen & Young Working Age) เพิ่มขึ้น ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้เป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนแบรนด์ในอนาคต

    การมีฐานลูกค้ากลุ่มใหม่นี้เองที่เป็นที่มาให้อินทนิลสร้างกลยุทธ์การตลาดแบบใหม่เพื่อให้ใกล้ชิดกับวิถีชีวิตของคนกลุ่มนี้มากขึ้น โดยออกแคมเปญที่นำเอาคาแร็กเตอร์การ์ตูนดังฝีมือคนไทยมาเป็นตัวแทนเครื่องดื่ม Top 5 ของอินทนิล นำทีมด้วย อเมริกาโน่ โกโก้ เอสเพรสโซ่ ชาไทยลาเต้ และชาเขียวลาเต้ โดยมาอยู่บนแก้ว Reusable Cup 5 สี 5 ลายซึ่งแจกฟรี โดยอินทนิลหวังว่านี่จะเป็นการกระตุ้นยอดขายให้กับช่วงโค้งท้ายของปีนี้ได้

    ไม่เพียงเท่านั้น ความพยายามจับกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้นของอินทนิลยังรวมไปถึงการออกโปรดักต์ใหม่อย่าง “สลัชชี่” และ “ซอฟต์เสิร์ฟ” ที่นำเครื่องดื่มยอดนิยม เช่น โกโก้เย็น ชาไทยลาเต้เย็น โยเกิร์ต ชาเขียว มาพัฒนาต่อยอดเป็นเครื่องดื่มเกล็ดน้ำแข็ง และไอศกรีม


    โดยอินทนิลจึงมีแผนพัฒนาสลัชชี่และซอฟต์เสิร์ฟรสชาติอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อต่อยอดความนิยมเครื่องดื่มอินทนิลที่ได้ออกสู่ตลาดไปก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ ปัจจุบันสลัชชี่และซอฟต์เสิร์ฟทดลองในบางสาขา และมีแผนจะขยายสาขาเป็น 30 สาขา ภายในสิ้นปี 2566


ปี 2566 ยอดขาย ทะยานสู่ 2,000 ล้านบาท

    จากกลยุทธ์การตลาดสร้างความสุขผ่านการสร้างประสบการที่ดีกับลูกค้าและการขยายสาขาในจุดยุทธศาสตร์เจาะกลุ่มเป้าหมาย ทำให้ยอดขายจาก 1,000+ สาขา ในปี 2566 นี้ ทะลุไปถึง 2,000 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมา 14% ซึ่งมากกว่าประมาณการเติบโตตลาดกาแฟ ที่ประมาณการไว้เพียง 10%

    สิ่งที่น่าสนใจคือยอดขายทั้งหมดของอินทนิลมากจากกลุ่มลูกค้าสมาชิกบางจากกรีนสไมล์ที่เติบโตจากปีที่ผ่านมาถึง 2 เท่า จากกิจกรรมส่งเสริมการขายในช่วงเวลาพิเศษ สิทธิประโยชน์ต่างๆ เฉพาะสมาชิก ที่มาใช้ในร้านอินทนิลและยังสามารถใช้บริการในธุรกิจอื่นๆ กลุ่มบางจาก ตลอดจนส่วนลดร้านค้าพันธมิตรของบางจากอีกด้วย

ปริญญา กิตติการุญจิต กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บางจากรีเทล จำกัด


ตั้งเป้า 2,500 สาขาในอีก 5 ปีนี้

    แต่ที่น่าสนใจกว่าคือเป้าหมายที่วางไว้ โดยอินทนิลตั้งเป้าขยายสาขา 2,500 สาขา ภายในอีก 5 ปีนับจากนี้ โดยยังเน้นไปที่การควบคุมคุณภาพ และดำเนินงานบนจุดยืนของอินทนิล ที่เชื่อมั่นในแนวคิดว่าจะทำให้อินทนิลเป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า

    โดยเน้นการพัฒนาบาริสต้าสาขาให้รักษามาตรฐาน ส่งมอบประสบการณ์ที่ดีในทุกเวลาที่ลูกค้ามาใช้บริการ ด้วยคอนเซปต์ โฮมมี่ (Homey) ที่ตั้งใจให้ร้านอินทนิลเป็นพื้นที่แห่งความอบอุ่นเสมือนบ้านอีกหลัง พร้อมต้อนรับให้ลูกค้าทุกคนได้เข้ามาพักพิงใจ ผ่อนคลาย เติมพลังให้กัน เคียงข้างไปกับความประทับใจทุกคนที่ก้าวเข้ามาใช้บริการ ตลอดจนดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการคำนึงถึงผลตอบแทนทางธุรกิจของผู้ประกอบการซึ่งเป็น Partner คนสำคัญที่ร่วมสร้างความเติบโตของอินทนิลมาถึงวันนี้



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : “ชาตรามือ” ขึ้นแท่นชาไทยที่คนพูดถึงมากที่สุดบนโซเชียลในเดือน พ.ย.นี้

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine