ไม่ได้ขายแค่กาแฟแล้ว! ‘อินทนิล’ จะขายอาหารด้วย มีตั้งแต่หมูปิ้ง โจ๊ก จนถึงข้าวเหนียวมะม่วง - Forbes Thailand

ไม่ได้ขายแค่กาแฟแล้ว! ‘อินทนิล’ จะขายอาหารด้วย มีตั้งแต่หมูปิ้ง โจ๊ก จนถึงข้าวเหนียวมะม่วง

‘อินทนิล’ กำลังเปลี่ยนภาพจำจากร้านค้าขายกาแฟ-เบเกอรี่ในปั๊มบางจาก สู่หมุดหมายอาหาร ผลักดันสัดส่วนสินค้า non-oil ครึ่ง-ครึ่งกับเครื่องดื่ม โดยมีทั้งข้าวเหนียวมะม่วงระดับมิชลิน หมูปิ้ง โจ๊ก ข้าวต้มมัดโบราณ ผลไม้ตัดแต่งตามฤดูกาล และเมนูใหม่ๆ ที่นึกไม่ถึง กำลังจะเสิร์ฟที่นี่ เพราะน้ำมันอาจจะไม่ใช่เหตุผลที่ดึงคนเข้าปั๊มเหมือนในอดีต


    “จากการมอนิเตอร์ปริมาณคนเข้าปั๊มบางจาก คนจะใช้เวลากับปั๊มเราเพียง 15 นาทีแล้วก็ออกไป เรายังพบอีกว่าประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ของลูกค้าเข้ามาปั๊มเราเพราะธุรกิจ non-oil” ยศธร อรัญนาถ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด ซึ่งบริหารงานร้านอินทนิลกล่าว

    โจทย์ที่ต้องแก้ของร้านอินทนิลก็คือ จะทำอย่างไรให้คนที่เข้ามาแค่เติมน้ำมัน มาใช้บริการในร้านกาแฟมากขึ้น และคนที่มาร้านกาแฟบางวัน เพิ่มความถี่ในการมาใช้บริการทุกวัน


    เป้าหมายสัดส่วนของสินค้า non drink ซึ่งปัจจุบันมีอยู่เพียง 20% ในร้านกาแฟอินทนิล จะถูกผลักดันให้เพิ่มเป็น 50% ในอนาคต

    นอกจากเมนูยอดนิยมอย่าง อเมริกาโนเย็น ซึ่งใช้กาแฟพันธุ์อราบิก้า 100% โกโก้เย็น และชาไทยลาเต้เย็นแล้ว เมนูมหาชนอย่างข้าวเหนียวหมูปิ้ง ข้าวต้มมัดโบราณ หรือขนมใส่ไส้ จึงถูกเลือกมาบริการในปั๊มน้ำมัน 6-7 แห่ง อาทิ ในพื้นที่กรุงเทพกรีฑา ศาลายา ร่มเกล้า เพื่อดึงลูกค้าทั้งเด็กและผู้ใหญ่มาร้านกาแฟได้ตลอดวัน จากปกติที่ช่วงเวลา peak sales ของร้านจะอยู่ตอนเช้าและกลางวัน

    ก่อนสิ้นปีนี้ เมนูโจ๊ก ผลไม้สดตัดแต่งตามฤดูกาล และเครื่องดื่มเมนูผลไม้ปั่นสด อาทิ น้ำแตงโมปั่น มะพร้าวปั่น น้ำส้มปั่น มะยงชิดปั่น กำลังจะวางจำหน่ายในร้านกาแฟอินทนิลมากขึ้น

    “สำหรับผลไม้สดตัดแต่ง เรามีโครงการทำโรงเรียนสอนและฝึกผู้ประกอบการให้เรียนรู้การตัดผลไม้สดอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ได้มาตรฐานของร้านอินทนิล” ยศธรกล่าว และว่า นอกจากนี้ยังเตรียมเพิ่มความหลากหลายและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งร้านกาแฟด้วยเมนูเครื่องดื่มใหม่ๆ


    “เราให้สิทธิแก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์อินทนิล สามารถเพิ่มคอนเทนต์หรือสัดส่วนสินค้าอื่นๆ ซึ่งเหมาะกับพฤติกรรมผู้บริโภคในแต่ละทำเลนั้นๆ ได้ถึง 20% เป็นการนำเสนอบริการที่ customize มากขึ้น" ยศธรบอก


    นอกจากการเพิ่มสินค้า non-drink มากขึ้น อินทนิลได้ขยายร้านกาแฟอินทนิลสาขาใหม่ๆ ด้วยพื้นที่ที่ใหญ่ขึ้น มีดีไซน์ที่ unique ไม่เหมือนใคร เช่น สาขาเลียบคลองรังสิต (คลอง 2) ลูกค้าสามารถจะซื้อตุ๊กตากล่องสุ่มที่กำลังเป็นที่นิยมได้

    ล่าสุด อินทนิลได้เปิดโมเดลใหม่ คือ โมเดลช็อปอินช็อป ที่ร้านกาแฟอินทนิลสาขาสุขุมวิท 62 เมื่อสองเดือนที่ผ่านมา นอกจากกาแฟ เค้ก ครัวซองต์แล้ว ที่สาขานี้ยังมีข้าวเหนียวมะม่วงระดับมิชลินเป็นทางเลือกให้ลูกค้าด้วย อินทนิลช็อปอินช็อปสาขาที่สองได้เปิดแล้วที่เส้นบายพาสภาคตะวันออกในจังหวัดชลบุรี โดยมีเมนูขนมครกจากแม่ศรีเรือนให้บริการ

โมเดลช็อปอินช็อปที่สาขาสุขุมวิท 62


    ยศธรกล่าวว่า แม้เศรษฐกิจค่อนข้างมีความท้าทาย การแข่งขันในตลาดกาแฟมูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาทจะสูง บริษัทยังมีการขยายสาขาร้านอินทนิลเพิ่มต่อเนื่อง ในปีนี้มีแผนจะเปิด 200 สาขา และเป็นอัตราเร่งแบบนี้ไปอีกระยะหนึ่ง จากเดิมที่เฉลี่ยเปิดสาขาใหม่ประมาณ 150 แห่งต่อปี

    โดยในสิ้นปีนี้สาขาของร้านกาแฟอินทนิลจะมีทั้งหมด 1,060 สาขา เป็นสาขาในลาว 5 สาขา และกัมพูชา 1 สาขา บริษัทมีแผนจะเปิดสาขาใหม่ในลาวอีก 1-2 สาขา ส่วนกัมพูชาอยู่ระหว่างการเจรจา


    สำหรับร้านอินทนิลทั้งหมด แบ่งเป็น ร้านในระบบแฟรนไชส์ 75% และร้านที่เหลืออีก 25% เป็นร้านของบริษัทเอง ปัจจุบันร้านกาแฟอินทนิล 60% เปิดในปั๊มน้ำมัน ที่เหลืออีก 40% เปิดนอกปั๊มน้ำมัน อาทิ โรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล แหล่งชุมชน

    ปัจจุบันร้านอินทนิล มีฐานลูกค้ากว่า 8 ล้านคนผ่านฐานสมาชิกบางจากกรีนสไมล์ ในปีนี้บริษัทจะเน้นขยายธุรกิจไปสู่กลุ่มลูกค้าใหม่โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย อาทิ Instagram, TikTok และอื่นๆ พร้อมเมนูใหม่ Extra Shot ที่ให้ลูกค้าลองออกแบบเมนูที่เหมาะกับสไตล์ตัวเอง นอกจากนี้ยังมีการนำ AI มาพัฒนาการบริการ โดยเริ่มทดลองแล้วในบางสาขา



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : 'วี ฟาร์ม' เปิดตัวนมข้าวโพด 'ไร่สุวรรณ' มั่นใจคอลแลปแบรนด์หนุนส่วนแบ่งตลาดโตเพิ่ม 10%

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine