บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT ผู้นำธุรกิจค้าส่งค้าปลีก “แม็คโคร-โลตัส” รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ของปี 2568 มีรายได้รวม 129,950 ล้านบาท เติบโต 2.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (YoY)
ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 2,643 ล้านบาท เติบโตขึ้น 6.5%YoY (หากไม่รวมรายการปรับปรุง กำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้น 10.3%YoY) เป็นผลมาจากยอดขายที่เติบโตขึ้นทั้งในธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก จากการเปิดสาขาใหม่ การขายนอกร้าน และการขายออนไลน์ ที่เติบโตแข็งแกร่ง โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอาหารสด กลุ่มสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ (Private label) และสินค้าแบรนด์ที่มีจำหน่ายเฉพาะที่แม็คโคร-โลตัส เท่านั้น (Exclusive brand) อีกทั้ง การผนึกกำลังเพื่อเพิ่มมูลค่าและประสิทธิภาพในการดำเนินงาน หลังการปรับโครงสร้างภายในกลุ่มธุรกิจ (Synergistic value) ยังช่วยสนับสนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯ ปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงบริหารจัดการด้านการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านการลดภาระหนี้และการปรับปรุงกระแสเงินสดให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯ มีสภาพคล่องที่แข็งแรงและฐานะทางการเงินที่มั่นคง
ทั้งนี้ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ยังตอกย้ำความสำเร็จในการเป็นผู้นำเทคโนโลยีค้าปลีก (Retail Tech) ที่แข็งแกร่งในระดับภูมิภาค โดยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Euromonitor International ได้จัดอันดับ Makro PRO เป็นแพลตฟอร์ม Grocery E-Commerce อันดับ 1 ของประเทศไทย ด้วยส่วนแบ่งตลาดยอดขายในปี 2567 ที่ 39.5% ในขณะที่ Lotus’s SMART App มีส่วนแบ่งตลาดยอดขายตามมาเป็นอันดับสอง ที่ 19.5% จากตลาด Grocery E-Commerce ของประเทศไทยซึ่งมีมูลค่า 64,000 ล้านบาท

นายธานินทร์ บูรณมานิต ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) เผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ของปี 2568 ยังคงเติบโตแข็งแกร่ง สอดคล้องกับแผนธุรกิจและเป้าหมายที่วางไว้ เราเดินหน้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากกลุ่มสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ (Private label) ที่เน้นคุณภาพดี ในราคาที่คุ้มค่า ครอบคลุมทุกหมวดหมู่สินค้า พร้อมต่อยอดกลุ่มสินค้าอาหารพร้อมปรุง - พร้อมทาน (RTC - RTE) ด้วยการผนึกกำลังกับเชฟดังและแบรนด์ชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อนำเสนอประสบการณ์ที่แตกต่าง พร้อมตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและผู้ประกอบการอย่างรอบด้าน
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2568 ซีพี แอ็กซ์ตร้า เดินหน้าผลักดันกลยุทธ์หลัก มุ่งสร้างการเติบโตทุกช่องทางจำหน่าย โดยเฉพาะการขายผ่านออนไลน์และการขายนอกร้าน โดยพัฒนาเทคโนโลยีและแพลตฟอร์ม รวมถึงการนำ AI วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าแบบ Hyper-Personalization เพื่อนำเสนอสินค้าให้ตรงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มอัตราการตัดสินใจซื้อ

นอกจากนี้ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ยังเดินหน้าขยายสาขา ปรับโฉมสาขา และพัฒนาพื้นที่เช่าอย่างต่อเนื่อง ผ่านแนวคิดการเป็น ‘พื้นที่ความสุขของชุมชน’ ที่ออกแบบตามความต้องการเฉพาะของแต่ละชุมชน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ตามวิถีความยั่งยืน ผ่านการเป็นแหล่งอาหารและสุขภาพ การสร้างงานสร้างอาชีพให้คนในพื้นที่ เช่น โครงการมิตรแท้โชห่วย โครงการ 60 ยังแจ๋ว การรับซื้อสินค้าจากเกษตรกรและ SMEs ท้องถิ่นโดยตรง พร้อมจัดกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกับชุมชนและสังคมอย่างต่อเนื่อง
ภาพ: SET, CPAXT
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ธนิศร์ เจียรวนนท์ คลื่นลูกที่ 4 “CP Axtra” เปิดเกมรุกเร็วอี-คอมเมิร์ซผงาดเอเชีย
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine