C.P.S. COFFEE (ซีพีเอส คอฟฟี่) คาเฟ่สไตล์ Specialty Coffee & Lifestyle Bar ที่ต่อยอดมาจากความสำเร็จของแบรนด์แฟชั่น CPS CHAPS (ซีพีเอส แช็ปส์) ภายใต้ยัสปาล กรุ๊ป เผยแผนธุรกิจครึ่งปีหลัง 2566 โดยวางแผนเปิดสาขา C.P.S. COFFEE ถึง 3 โมเดล เพื่อตอบโจทย์และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในหลายรูปแบบ ได้แก่ 1) ป๊อปอัพสโตร์ แห่งแรกที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน เน้นการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก เข้าถึงกลุ่ม Trend Setter 2) คอฟฟี่บาร์ ขยายตัวไปเปิดในอาคารสำนักงาน และโครงการ Mixed Used รวมทั้งการเปิดสาขาในต่างจังหวัดเป็นครั้งแรก และ 3) คอฟฟี่ ทรัค พร้อมสัญจรเสิร์ฟเมนูกาแฟในงานอีเวนท์ต่างๆ อาทิ คอนเสิร์ต งานเทศกาล เพื่อเข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย

อภิสิทธิ์ สิงห์สัจจเทศ ผู้จัดการทั่วไป แบรนด์ CPS CHAPS และ C.P.S. COFFEE ยัสปาล กรุ๊ป (บริษัท ยัสปาล จำกัด (มหาชน)) กล่าวว่า “ด้วยวิสัยทัศน์ของยัสปาล กรุ๊ป ในการเป็นผู้นำในธุรกิจแฟชั่นไลฟ์สไตล์ เพื่อนำความสุขที่ยิ่งใหญ่มาสู่ผู้คนทั่วโลก ทำให้เราขยายธุรกิจจากรากฐานความแข็งแกร่งในด้านแฟชั่นรีเทล มาสู่ธุรกิจไลฟ์สไตล์ต่างๆ ให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น จึงเป็นที่มาของ C.P.S. COFFEE คาเฟ่สไตล์ Specialty Coffee & Lifestyle Bar ที่ต่อยอดมาจากความสำเร็จของแบรนด์แฟชั่น CPS CHAPS โดยเราได้เปิดตัวแบรนด์ C.P.S. COFFEE ตั้งแต่ปี 2562 ภายใต้แนวคิดหลัก คือ COFFEE, PASSION และ SPECIALTY ที่สะท้อนถึงคาแรกเตอร์ของแบรนด์ ซึ่งเป็นกาแฟที่สร้างสรรค์ขึ้นจากความหลงใหล และความใส่ใจในการรังสรรค์เมนู การคัดเลือกเมล็ดกาแฟ วัตถุดิบ และอุปกรณ์ ไปจนถึงความเชี่ยวชาญของบาริสต้า”
“ธุรกิจคาเฟ่เป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตสูงต่อเนื่อง และวัฒนธรรมคาเฟ่ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตลูกค้า จนมีการนิยามกิจกรรมของคนรุ่นใหม่ว่า Cafe Hopping ซึ่งเป็นงานอดิเรกของคนที่ชอบไปร้านกาแฟเป็นประจำ

ดังนั้น แนวคิดที่โดดเด่นของ C.P.S. COFFEE ทั้งเมนูกาแฟจากผู้เชี่ยวชาญ ทำเลที่ตั้งของร้าน รวมไปถึงบรรยากาศการตกแต่งร้าน จึงทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จสามารถเติบโตสอดคล้องกับการเติบโตของตลาดมาได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ในครึ่งปีหลังของปี 2566 เราได้วางแผนขยายสาขาในครึ่งปีหลังถึง 3 โมเดล เพื่อให้ C.P.S. COFFEE ได้เป็นที่รู้จักในกลุ่มเป้าหมายมากยิ่ง รวมถึงเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

มัลลิกา จาวลา ผู้อำนวยการอาวุโส แบรนด์ C.P.S. COFFEE ยัสปาล กรุ๊ป กล่าวว่า ปัจจุบัน C.P.S. COFFEE มี 2 โมเดล คือ “คอฟฟี่ บาร์” ดีไซน์เท่ จำนวน 3 สาขา คือ ไอคอนสยาม เทอร์มินอล 21 อโศก และสาขาเซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์ และโมเดล “แฟล็กชิปสโตร์” ที่ซอยสุขุมวิท 53 มี 2 ชั้น ซึ่งแผนการขยายสาขาในครึ่งหลังของปี 2566 เราจะเดินหน้าไปด้วย 3 โมเดล ได้แก่
1) ป๊อปอัพสโตร์ เป็นโมเดลที่พัฒนาขึ้นใหม่และได้เปิดให้บริการแห่งแรกที่ ชั้น G ศูนย์การค้าสยามพารากอน เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักได้อย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น ด้วยทำเลศักยภาพของสยามพารากอนที่มี Traffic หมุนเวียนเป็นจำนวนมาก เน้นการออกแบบตกแต่งด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลัษณ์ของ C.P.S. COFFEE พร้อมด้วยจุดแลนด์มาร์คถ่ายภาพสุดเท่ ตอบโจทย์เหล่า Café Hopper และเชิญชวนให้ลูกค้าเข้ามาเช็คอินผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ เพื่อแชร์โมเมนท์และประสบการณ์ความเท่กับ C.P.S. COFFEE ต่อไป
2) คอฟฟี่ บาร์ เป็น C.P.S. COFFEE โมเดลที่ประสบความสำเร็จมาตลอดจากการเปิดให้บริการภายในศูนย์การค้า ซึ่งในครึ่งปีหลังนี้ เราวางแผนจะขยายโมเดลนี้ไปยังต่างจังหวัดเป็นครั้งแรก โดยจะเปิดให้บริการ 2 สาขาในจังหวัดภูเก็ต คือ ศูนย์การค้าจางซีลอน และศูนย์การค้าเซ็นทรัลภูเก็ต ซึ่งเราพิจารณาว่าภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีศักยภาพเติบโตสูง ทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทย นอกจากนี้ เราจะขยายโมเดลแบบคอฟฟี่ บาร์ เข้าไปยังอาคารสำนักงานต่างๆ และโครงการ Mixed-Use ทำเลดี อาทิ โครงการ Vivre Langsuan เป็นต้น
3) คอฟฟี่ ทรัค เป็น C.P.S. COFFEE ที่จะเดินสายเสิร์ฟความเมนูกาแฟให้กับกลุ่มเป้าหมายแบบเข้าถึงกิจกรรมซึ่งเป็นที่สนใจของกลุ่มลูกค้าในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ อาทิ งานคอนเสิร์ต งานเทศกาลอาหารและเครื่องดื่ม เทศกาลดนตรีและศิลปะ เป็นต้น เพื่อสร้างให้แบรนด์ C.P.S. COFFEE เข้าไปอยู่ในทุกๆ ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าได้อย่างแท้จริง และสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

“ด้วยทั้ง 3 โมเดลของ C.P.S. COFFEE ที่จะเปิดบริการภายในครึ่งปี 2566 นี้ ทำให้เราเชื่อมั่นว่าจะสามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้อย่างครอบคลุม และสร้างการรับรู้ของแบรนด์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์และสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้า ตอกย้ำวิสัยทัศน์ของ ยัสปาล กรุ๊ป ในการเป็นผู้นำในธุรกิจและไลฟ์สไตล์ เพื่อนำความสุขที่ยิ่งใหญ่มาสู่ผู้คนได้อย่างแท้จริง” นายอภิสิทธิ์ กล่าวสรุป
อ่านเพิ่มเติม : ผลประกอบการครึ่งปีแรก กลุ่มทิสโก้ทำกำไร 3,646 ล้านบาท