‘บาร์บีกอน’ เติบโตไปอีกขั้น! เปิดตัวหนังสือนิทานธุรกิจเล่มแรกในไทย ตั้งเป้าเป็นแบรนด์ ‘เพื่อนที่ดีที่สุด’ ของทุกคน - Forbes Thailand

‘บาร์บีกอน’ เติบโตไปอีกขั้น! เปิดตัวหนังสือนิทานธุรกิจเล่มแรกในไทย ตั้งเป้าเป็นแบรนด์ ‘เพื่อนที่ดีที่สุด’ ของทุกคน

หากมีธุรกิจที่ดำเนินผ่านกาลเวลามายาวนานเกือบ 40 ปีในครอบครองคุณจะทำอย่างไร? ในกรณีของบาร์บีคิวพลาซ่า (Bar B Q Plaza) พวกเขาเลือกจะนำเรื่องราวของตนมาถ่ายทอดผ่านหนังสือนิทานธุรกิจ (Business Fable) เล่มแรกในไทยเพื่อส่งต่อแพสชั่นและแรงบันดาลใจ ย้ำจุดยืนของแบรนด์ที่ต้องการเป็น ‘เพื่อนที่ดีที่สุด’ ของทุกคน


    เชื่อว่าทุกคนคงเคยเห็น ‘บาร์บีกอน’ ที่ยืนอยู่หน้าร้านบาร์บีคิวพลาซ่ามาอย่างยาวนาน แม้หลายคนจะแซวว่ามันเหมือนจระเข้มีปีกเล็กๆ แต่แท้จริงบาร์บีกอนเป็นมังกรสีเขียว คอยต้อนรับลูกค้าและมอบความสุขให้คนที่ผ่านไปมา เรียกได้ว่าบาร์บีกอนเต็มเปี่ยมไปด้วยความทรงจำมากมายตลอด 30 กว่าปีที่ผ่านมานับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งมาสคอตประจำแบรนด์

    บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่มังกรสีเขียวผู้แสนเป็นมิตรตัวนี้จะก้าวไปให้ไกลกว่าการเป็นมาสคอตร้านอาหาร นั่นคือการเป็นแบรนด์แห่งความเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดและเข้าไปอยู่ในชีวิตของผู้คน บาร์บีคิวพลาซ่าจึงได้จับมือกับสำนักพิมพ์ซีเอ็ด ร่วมกันผลิตหนังสือนิทานธุรกิจเล่มแรกของไทยในชื่อ ‘บาร์บีกอนกับภารกิจตามหาไฟศักดิ์สิทธิ์’ โดยได้ทีมงานสร้างสรรค์เป็นผู้เชี่ยวชาญในแวดวงหนังสือและศิลปะ ได้แก่ วิภว์ บูรพาเดชะ บรรณาธิการหนังสือและนิตยสาร รับหน้าที่เป็นบรรณาธิการประจำเล่ม, วิไลรัตน์ เอมเอี่ยม บรรณาธิการ นักเขียน นักแปล นักสัมภาษณ์ ผู้อยู่ในแวดวงหนังสือมากว่า 20 ปี เป็นผู้เขียน และเข็มทิศ วิจิตรวิชิตกุล เจ้าของนามปากกา KHEMTIT เป็นผู้วาดภาพประกอบ

    หนังสือบาร์บีกอนกับภารกิจตามหาไฟศักดิ์สิทธิ์ มีเนื้อหาที่ช่วยฮีลใจและปลุกไฟการเติบโต ผสานวิธีคิดในการทำธุรกิจของบาร์บีคิวพลาซ่า เข้ากับเรื่องราวการผจญภัยของบาร์บีกอน ออกมาเป็นนิทานที่ให้บทเรียนทั้งในแง่ธุรกิจและชีวิต อีกทั้งยังย่อยง่าย เหมาะสำหรับผู้อ่านทุกเพศทุกวัย


วิภว์ บูรพาเดชะ, ชาตยา สุพรรณพงศ์ และวิไลรัตน์ เอมเอี่ยม

Mascot Marketing สู่ Best Friend Brand

    หากมองย้อนกลับไปช่วงหลายปีที่ผ่านมา จะพบว่าบาร์บีคิวพลาซ่าพาบาร์บีกอนไปคอลแล็บกับหลากหลายแบรนด์ เช่น ห่านคู่ เลย์ คิวท์เพรส วิตอะเดย์ และอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งยังจับกระแสอาร์ตทอยส่ง GON Figure มาให้แฟนๆ ได้สะสม แสดงให้เห็นถึงความตั้วใจปั้นบาร์บีกอนให้เติบโตในฐานะแบรนด์อิสระ ซึ่งล่าสุดก็ได้เปิดเพจ Bar B GON แยกมาจาก Bar B Q Plaza เพื่อลงคอนเทนต์เกี่ยวกับบาร์บีกอนโดยเฉพาะ

    บาร์บีกอนกับภารกิจตามหาไฟศักดิ์สิทธิ์ จึงเป็นหลักไมล์สำคัญของบาร์บีกอนที่ตอกย้ำให้เห็นถึงความเป็นผู้นำที่พัฒนาขึ้นจากการใช้ Mascot Marketing สู่ Best Friend Brand เป็นการขยายฐานแฟนของบาร์บีกอนให้ขยายใหญ่ขึ้น ซึ่งแนวทางการพัฒนาบาร์บีกอนที่จะดำเนินไปต่อจากนี้คือการทำให้บาร์บีกอนเข้าไปอยู่ในชีวิตของผู้บริโภคมากกว่าการเป็นมาสคอตร้านอาหาร

    ชาตยา สุพรรณพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Chief Engagement Officer (CEO) บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด หรือ แบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่า อธิบายว่า “Best Friend Brand หรือแบรนด์แห่งความเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด เวลามีความสุขที่สุดก็อยากมาเล่าให้เพื่อนคนนี้ฟัง เวลาเศร้าก็อยากให้ช่วยปลอบใจ เวลามีปัญหาก็อยากมาปรึกษาหรือมานั่งคุย คอยดูแล รับฟัง และนึกถึงกันอยู่เสมอ อีกทั้ง บาร์บีกอนเองก็เติบโต มีความคิด มีพฤติกรรม มีความเชื่อ โดยเฉพาะเรื่อง ‘Best Me, Best You, Best Now’ หรือการทำทุกช่วงเวลาให้ดีที่สุด”

    ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่จะทำให้คนที่รักบาร์บีกอนได้เห็นเรื่องราวของเขาชัดเจนขึ้น ได้รู้จักในมุมที่ลึกขึ้น ทั้งวิธีคิด มุมมองในการใช้ชีวิต และมุมมองในการทำธุรกิจ ไปพร้อมๆ กับการส่งต่อทัศนคติเชิงบวก สร้างความสนใจให้กับคนในวงกว้างทั้งที่เป็นแฟนคลับอยู่แล้ว รวมถึงคนที่ยังไม่รู้จัก ทำให้บาร์บีกอนเป็นมากกว่ามาสคอต กลายเป็นเพื่อนที่คนจดจำได้




    หนังสือก็นับเป็นเพื่อนที่สำคัญของหลายๆ คนที่หยิบออกมาอ่านยามเหงา ถือเป็นสื่อที่เข้าถึงผู้คนได้มากมายและอยู่เหนือกาลเวลา จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งในการออกหนังสือบาร์บีกอนกับภารกิจตามหาไฟศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง ทั้งนี้ ชาตยาเผยว่าจะนำบาร์บีกอนไปต่อยอดบนสื่อรูปแบบอื่นในอนาคต ยกตัวอย่างในงานเปิดตัวหนังสือบาร์บีกอนกับภารกิจตามหาไฟศักดิ์สิทธิ์เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2024 ที่ผ่านมา ได้มีการดัดแปลงเนื้อหาบางส่วนเป็นละครหุ่นมือให้ได้รับชม


ธุรกิจร้านอาหารปีหน้ายังท้าทาย

    ในส่วนของธุรกิจร้านอาหารในไทย ชาตยามองว่า ตลาดร้านอาหารในไทยจัดเป็นตลาดที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือดเสมอมา อย่างไรก็ตาม ในปีหน้าตลาดยังคงมีแนวโน้มเติบโตไปพร้อมๆ กับการแข่งขันที่จะเพิ่มสูงขึ้น ความท้าทายสำคัญมาจากสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อโดยรวม ทำให้ผู้เล่นในตลาดจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อรับมือ

    นอกจากนี้ ยังมีผู้เล่นใหม่ศักยภาพสูงเข้ามาในตลาดมากขึ้น จึงจะมีการหารส่วนแบ่งการตลาดกันมากกว่าเดิม และผู้เล่นที่แข็งแกร่งจะสามารถยืนหยัดต่อไปได้ ผู้บริโภคอาจได้เห็นความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ จากแบรนด์ต่างๆ

    สำหรับร้านอาหารประเภทปิ้งย่างและหมูกะทะ ซึ่งเป็นตลาดหลักของบาร์บีคิวพลาซ่า ชาตยาเผยว่า “ปิ้งย่างและหมูกะทะ ปัจจุบันกลายเป็นเหมือน comfort food ของคนไทยไปแล้ว เป็นหนึ่งในอาหารประจำชาติ เป็นอาหารที่คุ้นเคย เยียวยาเราได้” โดยอิงนิยามอาหารประเภทปิ้งย่างจากบิดาของเธอซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งแบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่าว่า “มันมีความ unique ตรงที่กินเอง ปรุงเอง อร่อยเอง แล้วก็สนุกด้วย รวมทุกอย่างที่เป็นคนไทยเอาไว้”

    ดังนั้นสำหรับอาหารประเภทปิ้งย่างและหมูกะทะที่มีความเข้าใจคนไทยน่าจะยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่อง

    ในส่วนของบาร์บีคิวพลาซ่าและบาร์บีกอน ชาตยากล่าวทิ้งท้ายว่า “จะได้เห็นบาร์บีกอนทำอะไรสนุกๆ มีสาระประโยชน์ และแปลกใหม่แน่นอน”


ภาพ: Bar B Q Plaza


เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ปิ้งย่างคนโสดกระแสดี! 3 ปี Yakiniku Like ครบ 15 สาขา ปีนี้คาดยอดขายแตะ 390 ล้านบาท

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine