เฮเฟเล่ ผู้ผลิตวัสดุอุปกรณ์ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ภายในบ้านจากเยอรมนี มองปี 2560 ตลาดยังเติบโต เร่งเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ 10-15% ระดมเซลส์ขายประจำหัวเมืองต่างจังหวัดบุกหนักขายตรงเข้าโครงการอสังหาฯ เปิดสินค้าใหม่เน้นเทคโนโลยี IoT บ้านอัจฉริยะ
Volker Hellstern กรรมการผู้จัดการ
บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2560 นี้ เฮเฟเล่มีการเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้ามาจำนวนมาก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เน้นเสริมนวัตกรรมเพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้น รวมทั้งการเพิ่มทางเลือกหลากหลายในงานดีไซน์ เน้นสีดำคลาสสิกซึ่งเป็นสีนำเทรนด์การตกแต่งบ้านในปีนี้ นอกจากนี้ยังนำเสนอสินค้าเด่นประเภทวัสดุ คือหินควอตซ์ ซึ่งเหมาะกับการใช้เป็นหน้าท็อปชุดครัวหรือผนังตกแต่ง เนื่องจากเป็นหินธรรมชาติแท้สวยงามและแตกต่างกันในแต่ละแผ่น
ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมของเฮเฟเล่ปีนี้ ส่วนใหญ่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวและในห้องน้ำ อาทิ
- เตาแม่เหล็กไฟฟ้า IQcook มีอุปกรณ์เชื่อมต่อระหว่างเตากับตัวรับสัญญาณทำให้สามารถหรี่หรือเพิ่มความร้อนได้เองโดยอัตโนมัติ สามารถตั้งอุปกรณ์ทำครัวไว้บนเตาได้อย่างปลอดภัย
- เครื่องดูดควัน Gorenje ซึ่งจะปรับเพิ่มความแรงในการดูดได้เองอัตโนมัติ
- ตู้เย็น 2 ประตูจาก Gorenje ติดตั้งระบบ AdaptTech ทำให้จดจำช่วงเวลาที่ใช้งานบ่อย และปรับลดความเย็นลง 1-2 องศาในช่วงนั้นเพื่อลดการสูญเสียความเย็นเมื่อเปิดตู้เย็น
- กระจกห้องน้ำ LED Mirror Glass มีระบบ touch screen สำหรับเลือกเปลี่ยนแสงไฟสีขาวหรือสีส้มตามการใช้งาน และสามารถไล่ฝ้าบนกระจกได้
ทั้งหมดจัดแสดงภายในบูธเฮเฟเล่ งานสถาปนิก’60 อิมแพค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 2-7 พฤษภาคม 2560
ด้าน
รัตนะ พูนสง่า ผู้อำนวยการฝ่ายขาย
บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า รายได้ของเฮเฟเล่ในปี 2559 ยังโตตามเป้าหมายเนื่องจากงานก่อสร้างยังไม่ชะลอตัว และเฮเฟเล่ยังรักษามาตรฐานคุณภาพกับลูกค้าจึงยังมียอดขายต่อเนื่อง
สำหรับปี 2560 จะยังเติบโต โดยมีกลยุทธ์แรกคือการเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่และรูปแบบ/สีสันใหม่ดังกล่าว ภาพรวมมีการปรับเพิ่มผลิตภัณฑ์ขึ้น 10-15% แต่กลุ่มที่เพิ่มมากที่สุดคืออุปกรณ์และเครื่องใช้ภายในบ้าน (Home Appliance) เช่น หน้าท็อปชุดครัว เครื่องดูดควัน เตาแก๊ส/ไฟฟ้า เพิ่มขึ้นถึง 50% เพราะมีการใช้
นวัตกรรม IoT (Internet of Things) ในสินค้ามากขึ้น และสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำ เพิ่มสินค้ากว่า 20%
อีกกลยุทธ์หนึ่งจะเปิดตลาดการขายโดยตรงเข้าสู่โครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างจังหวัด โดยกำลังรับสมัครเซลส์ดูแลการขายเข้าโครงการเพิ่มอีก 35 อัตรา ในหัวเมืองต่างๆ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต เกาะสมุย อุบลราชธานี อุดรธานี ขอนแก่น เพื่อเจาะกลุ่มดีไซเนอร์ท้องถิ่นซึ่งร่วมงานอยู่กับบริษัทลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาค
ทั้งนี้ ปัจจุบันรายได้ของเฮเฟเล่ มีจุดแข็งที่อุปกรณ์ประตู หน้าต่าง ได้รับการยอมรับในตลาดระดับกลางถึงบน สัดส่วนรายได้ 40% เป็นการขายโดยตรงสู่ตลาดโครงการอสังหาริมทรัพย์ เช่น โครงการจัดสรร โรงแรม สำนักงาน ศูนย์การค้า โรงพยาบาล ฯลฯ อีก 40% เป็นธุรกิจค้าปลีก ทั้งผ่านร้านค้าตัวแทนจำหน่ายและกลุ่มโมเดิร์นเทรด ส่วน 20% สุดท้ายเป็นซัพพลายเออร์ผู้ผลิตชิ้นส่วนให้กับโรงงานอุตสาหกรรมผลิตเฟอร์นิเจอร์หลากหลายแบรนด์
นอกจากนี้
รัตนะ กล่าวว่า โกดังสินค้าในไทยที่ถนนบางนา-ตราด กม.22 พื้นที่เก็บสินค้ากว่า 1 หมื่นตร.ม. ยังเป็นแหล่งกระจายสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านกลุ่ม CLM (กัมพูชา ลาว เมียนมา) ซึ่งพบว่าตลาดเมียนมามีศักยภาพเติบโตสูงในอนาคต เนื่องจากมีประชากรถึง 70 ล้านคนและกำลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนเอกชนจะเติบโตตาม ทำให้มีความต้องการสำนักงานให้เช่าและโรงแรมสูงขึ้นมากในขณะที่พื้นฐานของประเทศเมียนมาปัจจุบันยังมีอาคารเหล่านี้น้อย เป็นโอกาสในการทำธุรกิจของเฮเฟเล่เมื่อมีการก่อสร้างอาคารต่างๆ เพิ่มขึ้น