สยามพิวรรธน์ นำโดย วันสยาม และไอคอนสยาม ร่วมกับ Rabbit Card และ Rabbit Rewards เปิดเกมรุกปลายปี ด้วย VIZ Rabbit Card สุดยอด Loyalty Program ที่สามารถใช้จ่ายค่าเดินทางและช้อปปิ้งสินค้ารับสิทธิประโยชน์ทวีคูณ ภายใต้กลยุทธ์ Collaboration to Win
บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้บริหารโกลบอลเดสติเนชั่นกลุ่ม “วันสยาม” ผนึกกำลังศูนย์การค้าระดับโลก ได้แก่ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ และหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของโครงการ ไอคอนสยาม ประกาศความร่วมมือกับพันธมิตร เปิดตัวบัตร VIZ Rabbit Card ผสานศักยภาพศูนย์การค้าในกลุ่มสยามพิวรรธน์ กับ Rabbit Card และ Rabbit Rewards เป็นครั้งแรกของโลก สรัลธร อัศเวศน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานบริหารสมาชิก บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เปิดเผยว่า นอกเหนือจากแผนกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและมหกรรมอีเว้นท์ส่งท้ายปี บริษัทยังเดินหน้าผนึกกำลังกับพันธมิตรระดับผู้นำของอุตสาหกรรมการขนส่งอย่างกลุ่มบีทีเอส โดยร่วมกับ Rabbit Card และ Rabbit Rewards ผสานศักยภาพมอบสิทธิ์ประโยชน์เพิ่มเติมให้กับลูกค้าสมาชิกทั้ง 2 องค์กร ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ Collaboration to Win พร้อมมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งเหนือระดับให้ลูกค้าตั้งแต่ที่บ้านและภายในศูนย์อย่างครบวงจรของ Customer Journey ในทุกมิติ “วันสยาม และไอคอนสยาม คือ โกลบอลเดสติเนชั่นที่เป็นหนึ่งของประเทศไทย ที่มีผู้เข้ามาจับจ่ายและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในศูนย์การค้าสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยามเป็นศูนย์รวมของทุกสรรพสิ่งสำหรับทุกคนในครอบครัว ครบครันทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งยังมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งเหนือระดับสำหรับลูกค้าทุกคน โดยมุ่งสร้างความแปลกใหม่และสร้างความแตกต่าง (Be the First & Differentiate)” สรัลธร กล่าวถึงโจทย์ในการมอบสิทธิประโยชน์ที่มากขึ้นให้ลูกค้าสมาชิกบัตร VIZ ด้าน กวีวัฒน์ สินเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานบริหารสมาชิก บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัตร VIZ Rabbit Card ซึ่งได้รับการออกแบบโดย Ricardo Cavolo ศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานร่วมกับแบรนด์ระดับเวิลด์คลาสนำเสนอคอลเลคชันพิเศษ 3 ลาย พร้อมอีกหนึ่งลวดลายเป็นแพกเกจสำหรับซองใส่บัตร และกระเป๋าผ้า Tote Bag ซึ่งแต่ละลวดลายสื่อถึงมุมของศิลปินที่มีต่อไลฟ์สไตล์อันหลากหลายที่ร้อยเรียงขึ้นเป็นเรื่องราวของผู้คนที่เข้ามาใช้ชีวิตใน สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งการนำเสนอความแปลกใหม่ให้ชีวิต นอกจากนั้น การจับมือกับพันธมิตรดังกล่าวยังสามารถช่วยขยายกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและเพิ่มจำนวนสมาชิก VIZ ได้ โดยวางเป้าหมายสมาชิกวันสยามและไอคอนสยามเพิ่มขึ้นอีก 100,000 คนจาก 610,000 คนเป็น 710,000 คนในปี 2563 และจะเพิ่มเป็นจำนวน 870,000 คน ภายในปี 2564 ขณะที่ รัชนี แสนศิลป์ชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอก สมาร์ท การ์ด ซิสเทม ในฐานะ บริหาร Rabbit Card กล่าวว่า “การร่วมมือกันในครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่บัตรแรบบิท ได้จับมือกับผู้นำด้านธุรกิจรีเทลและศูนย์การค้าวันสยามและไอคอนสยาม ที่เป็นเดสติเนชั่นหลักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และรู้สึกยินดีมากที่บัตรแรบบิท ได้รับเกียรติจากศิลปินระดับโลกในการการวาดลวดลายสุดพิเศษนี้ลงบนบัตรของเรา และในความพิเศษนี้เองที่ทำให้ผู้ถือบัตร VIZ Rabbit ทุกใบมั่นใจได้ว่าจะได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ ที่บัตรแรบบิทของเรามีให้กับผู้ถือบัตรอยู่แล้วอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น การเดินทางหรือซื้อสินค้าและบริการ พร้อมสิทธิพิเศษที่มากกว่าด้วยคะแนนจากแรบบิทรีวอร์ดส x2 ทันที เพียงแค่นำบัตร VIZ Rabbit นี้ ไปลงทะเบียนเป็นสมาชิกแรบบิทรีวอร์สดก่อนการใช้งาน” ส่วน ภคินท์ พัฒนวรเมธ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท แรบบิท รีวอร์ดส จำกัด ย้ำความพิเศษของความร่วมมือในการบมอบสิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิก Rabbit Rewards และ สมาชิก VIZ ซึ่งผูกบัญชีเชื่อมต่อข้อมูลบัตรถึงกัน โดยจะได้รับคะแนนพิเศษสะสม 2 ต่อ และสามารถนำคะแนนสะสมแลกของรางวัลที่ได้ทั้ง 2 โปรแกรม ซึ่งถือเป็น Loyalty Program ที่มอบสิทธิประโยชน์ให้ผู้ถือบัตรแรบบิต ซึ่งเป็นบัตรหลักของผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยปัจจุบันมีสมาชิก Rabbit Rewards กว่า 5.1 ล้านสมาชิก “การจับมือของวันสยามกับพันธมิตรสำคัญ คือ Rabbit Card และ Rabbit Rewards เป็นการสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจครั้งสำคัญของธุรกิจรีเทลอีกครั้ง ตอกน้ำกลยุทธ์ที่มุ่งผสานศักยภาพความร่วมมือเพื่อแลกเปลี่ยนจุดแข็งของแต่ละองค์กร สร้างประโยชน์สูงสุดให้เกิดแก่ผู้บริโภค ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำของลูกค้าทุกวันเพื่อสร้างความสุขและแรงบันดาลใจเสมือนเพื่อนที่รู้ใจในทุกที่ทุกเวลา สยามพิวรรธน์ขอยืนหยัดในการคัดสรรนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อลูกค้าทุกๆ คน” ผู้บริหารสยามพิวรรธน์ กล่าวเสริม อ่านเพิ่มเติม: เศรษฐกิจดิจิทัล “SEA” โตเร็วแต่ขาดบูรณาการไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine