ชาตรี ศิษย์ยอดธง พลิกเกม วัน แชมเปียนชิพ (ONE) รับมือโควิด-19 ทุ่มกว่า 300 ล้านบาท จัดแข่งขัน The Apprentice: ONE Championship Edition ในระบบปิด ย้ำจุดแข็งแพลตฟอร์มองค์กรสื่อระดับเอเชีย ปลุกพลังนักต่อสู้ สร้างแรงบันดาลใจกว่าพันล้านคนทั่วโลก
วัน แชมเปียนชิพ (ONE) องค์กรสื่อกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของทวีปเอเชีย ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ชมกว่า 2.7 พันล้านคนในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก ภายใต้การนำของ ชาตรี ศิษย์ยอดธง ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ที่ได้รับคัดเลือกจาก Forbes ให้เป็นหนึ่งใน “ผู้ประกอบการแห่งอนาคตของทวีปเอเชีย” กำลังเผชิญความท้าทายอีกครั้งจากการระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19
ชาตรี กล่าวว่า ช่วงเวลานี้ถือเป็นสภาวะที่ยากลำบากสำหรับรัฐบาลทุกประเทศทั่วโลก ที่มีทั้งการปิดกั้นพรมแดนและปิดประเทศ แต่โชคดีที่ ONE Championship เป็นธุรกิจที่มีแพลตฟอร์มขนาดใหญ่และประสิทธิภาพสูง แต่เรายังคงผลักดันการเติบโตในทุกตัวชี้วัดที่สำคัญทั้งหมด เช่น การเข้าถึงผู้ชม, ความถี่ และการมีส่วนร่วม ผ่านเนื้อหารายการและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ของเรา
“โควิด-19 ทำให้การจัดกิจกรรมของเรามีความยุ่งยากมากขึ้น แต่เรายังมีแหล่งผลิตเนื้อหาขนาดใหญ่ ที่คอยผลักดันการเติบโตของผู้ชมบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและสื่อดิจิทัล รวมถึงแพลตฟอร์มดั้งเดิมอย่างโทรทัศน์" ชาตรีระบุ
ที่ผ่านมา ONE ได้รับเรตติ้งสูงสุดในการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ และได้รับการกล่าวถึงในสื่อสังคมออนไลน์ทั่วทั้งทวีปเอเชีย ด้วยการเป็นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ในการสะท้อนคุณค่าของเอเชีย ประกอบด้วย นักกีฬาระดับเวิลด์คลาส และโปรดักชั่นระดับโลก ในฐานะองค์กรศิลปะการต่อสู้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ONE จัดการแข่งขันครอบคลุมทุกประเภทของกีฬาศิลปะการต่อสู้ ทั้ง มวยไทย, คิกบ็อกซิ่ง, ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน, คาราเต้, ปันจักสีลัต, สานต่า, เลทเว่ย, เทควันโด, ปล้ำจับล็อก (Submission Grappling) และอื่นๆ
โดยอีเวนต์ของ ONE ได้จัดขึ้นในหลายสนามแข่งขันที่ใหญ่ที่สุดทั่วทั้งเอเชีย และยังได้รับการสนับสนุนจากหลายองค์กรที่มีรายชื่อใน Fortune 500 เช่น Disney, Marvel, LG, Sony, Facebook, Haier, Kawasaki, L’Oreal, Casio, Bayer, Shiseido, Grab, Singtel ฯลฯ ที่มุ่งให้ความสำคัญทั้งในกีฬาศิลปะการต่อสู้และอีสปอร์ต วัน แชมเปียนชิพ จึงเป็นผู้ผลิตรายการกีฬาที่ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่ระดับเยาวชนไปจนถึงผู้ใหญ่
สำหรับรายการ The Apprentice: ONE Championship Edition ถือเป็นซีรีส์ที่ยากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ ONE Championship ที่นำเสนอภารกิจและของซูเปอร์ฮีโร่ในชีวิตจริง ที่พิชิตความยากจน ความยากลำบาก จนบรรลุความใฝ่ฝันได้สำเร็จ รายการ The Apprentice ซีซั่นนี้ จะไม่ได้มีแค่ซีอีโอทั้ง 12 คนที่จะมารับเชิญเป็นคณะกรรมการ แต่จะนำเสนอถึงความท้าทายทางธุรกิจที่ยากที่สุด เพื่อทดสอบมันสมองอันเฉียบแหลมด้านธุรกิจ รวมถึงความท้าทายด้านกีฬาสุดโหด ทดสอบความแข็งแกร่งทางด้านจิตใจของผู้แข่งขันด้วย
"The Apprentice: ONE Championship Edition จะเป็น The Apprentice เวอร์ชั่นที่โหดหินที่สุดในประวัติศาสตร์ของรายการเท่าที่เคยมีมา" ชาตรีกล่าว
นอกจากนั้น แชมป์โลกของ ONE Championship จะเข้ามามีส่วนร่วมแข่งขันในความท้าทายด้านกีฬานี้ร่วมกับผู้แข่งขัน 16 คน โดยผู้ชนะจะได้รับข้อเสนอมูลค่า 250,000 เหรียญสหรัฐฯ เพื่อทำงานที่ ONE Championship ในฐานะผู้ช่วยของชาตรี
“พวกคุณคาดหวังได้เลยว่าจะได้เห็นความตื่นเต้นเร้าใจ การเดิมพันสุดดราม่า และความพลุ่งพล่านทางอารมณ์ จากบรรดาผู้เข้าแข่งขันทั้ง 16 คนที่จะช่วงชิงโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตของตัวเองอย่างเต็มที่" ชาตรีกล่าวถึงไฮไลท์สำคัญของรายการในปีนี้
ขณะเดียวกัน ซีอีโอของ ONE ยังกล่าวด้วยว่า รายการ The Apprentice: ONE Championship Edition จะเป็นซีรีส์แรกของหลายรายการในรอบหลายปีที่อาจจะได้เห็น The Apprentice Thailand รวมถึงประเทศหลักๆ ในภูมิภาคเอเชีย เช่น ฟิลิปปินส์, ญี่ปุ่น, จีน, เวียดนาม ฯลฯ ที่ ONE Championship ดำเนินงานอยู่แล้ว โดยใช้เม็ดเงินลงทุนทั้งหมดในโครงการระยะยาวนี้ราวสิบล้านเหรียญ หรือประมาณ 300 ล้านบาท
ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 ชาตรีเห็นว่า ข้อดีของ The Apprentice: ONE Championship Edition คือการเป็นรายการแรกที่ไม่ต้องมีการจัดแบบรายการสด ซึ่งจุดนี้แสดงให้เห็นถึงพลังของรูปแบบธุรกิจที่ยืดหยุ่นของ ONE Championship และรายการนี้จะดำเนินการต่อ 100% โดยไม่กังวลเรื่องไวรัสโคโรน่า
“ในทางกลับกัน กิจกรรมของเราที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดนี้คือการจัดแข่งขันศิลปะการต่อสู้ เนื่องจากรัฐบาลต่างพากันปิดประเทศ แต่ ONE Championship มีความสามารถในการจัดแข่งขันอย่างเต็มรูปแบบในสนามปิด เพื่อส่งต่อให้แฟนๆ นับล้านได้รับชมการถ่ายทอดสดออกอากาศไปทั่วโลกเหมือนเดิม”
ชาตรี กล่าวว่า บรรดาแอปพลิเคชันต่างๆ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้น ทำให้ทีมงานของ ONE ที่มาจากทั่วทุกมุมโลก สามารถทำงานได้อย่างตรงไปตรงมา และได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากทั่วทุกมุมโลก โดยมีผู้สมัครจำนวนหลายพันคนต้องการเข้ามามีส่วนร่วมกับรายการ แม้จะยังไม่เริ่มทำการตลาด ซึ่งในเดือนเมษายน จำนวนผู้สมัครน่าจะเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมากก่อนจะเริ่มการถ่ายทำรายการ The Apprentice: ONE Championship Edition ในช่วงเดือนมิถุนายน
นอกจาก ONE Championship จะเดินหน้าเปิดตัวรายการใหม่ The Apprentice: ONE Championship Edition และอื่นๆ บริษัทยังมีผลิตภัณฑ์ทางดิจิทัล เช่น วิดีโอเกมบนโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
ทั้งนี้ ปัจจุบัน วัน แชมเปียนชิพ มีสำนักงานในประเทศสิงคโปร์, Tokyo, New York, Los Angeles, Shnghai, Milan, Beijing, กรุงเทพฯ, Manila, Jakarta และ Bangalore ตลอดจนมีผู้ลงทุนอย่าง Sequoia Capital, Temasek Holdings, GIC, Iconiq Capital, Greenoaks Capital, และ Mission Holdings
ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยากลำบาก ชาตรี ผู้มีความมุ่งมั่นต่อสู้มาตลอดชีวิต ยังคงยืดหยัดในภารกิจของการนำเสนอชีวิตจริงของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ผู้จุดประกายโลกด้วยความหวัง ความฝัน แรงบันดาลใจ และความแข็งแกร่ง จะเดินหน้าเผยแพร่เรื่องราวของพวกเขา ซึ่งอาจสร้างแรงบันดาลใจต่อผู้คนหลายพันล้านคนทั่วโลกให้กล้าฝัน กล้าลงมือทำ และกล้าที่จะเป็น
“ด้วยพลังของสื่อ การเล่าเรื่องอย่างน่ามหัศจรรย์ และความงดงามของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ นี่คือโอกาสอันล้ำค่าที่จะร่วมเฉลิมฉลองคุณค่า จุดประกายความฝัน เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนในชาติ และเปลี่ยนโลกใบนี้ให้ดีขึ้น”
นี่คืออีกหนึ่งความฝันและความมุ่งหวังของ ชาตรี ศิษย์ยอดธง ผู้สร้างให้ทวีปเอเชียเป็นบ้านของศิลปะการต่อสู้ พร้อมประกาศการรวมตัวร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมประเพณี และคุณค่า เพื่อสานต่อความฝันในการรวมโลกทั้งใบเข้าด้วยกันผ่านการเชิดชูสมบัติทางวัฒนธรรมร่วมกันอย่างกลมเกลียว
- อ่านเพิ่มเติม ชาตรี ศิษย์ยอดธง สังเวียนหมื่นล้าน ONE Championship
ไม่พลาดบทความด้านธุรกิจ กดติดตามได้ที่ Facebook Fanpage: Forbes Thailand Magazine