‘ยอด’ มองตลาดฟู้ดเดลิเวอรีไทย ปีนี้เห็นชัดว่าใครจะอยู่ได้ยาว ส่วน ‘ไลน์แมน’ จำนวนธุรกรรมขึ้นอันดับ 1 แล้ว - Forbes Thailand

‘ยอด’ มองตลาดฟู้ดเดลิเวอรีไทย ปีนี้เห็นชัดว่าใครจะอยู่ได้ยาว ส่วน ‘ไลน์แมน’ จำนวนธุรกรรมขึ้นอันดับ 1 แล้ว

‘ยอด ชินสุภัคกุล’ ชี้ปี 2567 คือ ‘ปีแห่งความจริง’ ของตลาดฟู้ดเดลิเวอรีเมืองไทย เริ่มเห็นผู้เล่นเปลี่ยนหน้า และสุดท้ายจะชัดเจนเหมือนทั่วโลกว่าจะเหลือแค่ 2-3 รายเท่านั้น ส่วน ‘ไลน์แมน’ ครองมาร์เก็ตแชร์อันดับ 1 แล้วในแง่จำนวนธุรกรรมต่อวัน แต่ปีนี้ยังไม่กำไร


    สมรภูมิตลาดฟู้ดเดลิเวอรีเมืองไทยปีนี้ยังคงร้อนแรงเช่นเคย ขณะที่รายใหญ่ๆ ต่างก็ยังคงงัดกลยุทธ์ใหม่ๆ มาสู้กันอย่างดุเดือด แต่บางรายกระแสเริ่มเงียบ ไปจนถึงข่าวใหญ่เป็นของรายหนึ่งที่ประกาศปิดตัว ก่อนที่จะมีนายทุนซื้อกิจการไปทำต่อ

    สถานการณ์ที่เห็นในปีนี้ ‘ยอด ชินสุภัคกุล’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai มองว่านี่คือปีแห่งความจริงของตลาดฟู้ดเดลิเวอรีเมืองไทยแล้ว

    “การมีผู้เล่นเปลี่ยนหน้าไป ทำให้เริ่มเห็นแล้วว่าสุดท้ายจะเหลือผู้เล่นกี่รายในตลาดระยะยาว ซึ่งตรงกับตลาดทั่วโลกที่สุดท้ายจะเหลือผู้เล่น 2-3 ราย เนื่องจากตลาดนี้เป็นตลาดที่ Volume สูง ต้องการการมี Economy of Scale และต้องการบริษัทที่ไซส์ขนาดหนึ่งในการโตได้แบบยั่งยืน ดังนั้นปีนี้เป็นความเป็นจริงว่าตลาดเป็นยังไง และใครจะอยู่ได้ในระยะยาว”



    เขายังมองอีกว่าปีหน้าจะยิ่งชัดขึ้นกว่าเดิมว่าผู้เล่น 2 อันดับแรกจะเป็นอย่างไร และผู้เล่นที่เหลือจะเป็นอย่างไร ส่วนไลน์แมนนั้นค่อนข้างมั่นใจในตลาดฟู้ดเดลิเวอรีของประเทศไทย ที่มีอัตราการเติบโตเร็วกว่าตลาดอาหารโดยรวมและจีดีพีของประเทศด้วยซ้ำ โดยปัจจัยบวกมาจากจำนวนยูสเซอร์ที่จะเพิ่มขึ้นอย่างกลุ่มนักศึกษาจบใหม่ที่เข้าสู่วัยทำงานที่จะใช้บริการฟู้ดเดลิเวอรีต่อ และวัยทำงานที่ใช้งานอยู่แล้วก็ไม่ได้เลิกใช้


    ยอด เผยว่าตลาดฟู้ดเดลิเวอรีเมืองไทยปี 2024 มีมูลค่าอยู่ราว 1.2 แสนล้านบาท เติบโต 7% (อ้างอิง: Google TH SEA eConomy 2024) ขณะที่ไลน์แมนมีมูลค่าธุรกรรมระหว่าง ม.ค. 2023 - ต.ค. 2024 เติบโตถึง 35% ซึ่งโตกว่าตลาดค่อนข้างมาก

    เขายังย้ำว่าปัจจุบันไลน์แมนขึ้นแท่นเป็นผู้นำอันดับ 1 ในตลาดแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีของประเทศไทยแล้ว โดยวัดจากมาร์เก็ตแชร์จำนวนธุรกรรมต่อวัน ขณะที่จำนวนผู้ใช้งานต่อเดือนของไลน์แมนอยู่ที่ 10 ล้านยูสเซอร์ มีจำนวนพาร์ทเนอร์ร้านค้ามากกว่า 500,000 ร้าน และมีจำนวนไรเดอร์ต่อเดือนมากกว่า 100,000 ราย



    “แม้ตลาดโตแต่จำนวนไรเดอร์ไม่ได้โต เพราะ efficiency เพิ่มจากความหนาแน่นของออร์เดอร์ที่เพิ่มขึ้นถ้าเทียบกับสองปีที่แล้ว โดย productivity ต่อวันของไรเดอร์เพิ่มขึ้น 50% เช่นสมัยก่อนได้ 10 ทริป ตอนนี้อาจจะได้ 15 ทริป โดยรวมคือจำนวนไรเดอร์ไม่ได้เยอะขึ้น แต่ว่าต่อคนรายได้เยอะขึ้น สำหรับไลน์แมนจำนวนไม่ได้หายไปเยอะ และคนที่ขับประจำก็มีมากกว่าคนที่ทำเป็นพาร์ทไทม์” ยอด ระบุ

    เขากล่าวเพิ่มเติมว่า ช่วงที่ผ่านมาไลน์แมนวงในยังได้พัฒนาฟีเจอร์ใหม่เพื่อแก้ pain-point ต่างๆ ให้กับลูกค้า ซึ่งแต่ละฟีเจอร์ได้รับการตอบรับที่ดี ไม่ว่าจะเป็น ฟีเจอร์ Multiple Pick-Up ที่ทำให้สั่งร้านที่ 2 ระหว่างทางได้ ซึ่ง 50% ของยูสเซอร์เคยใช้ฟีเจอร์นี้, การพัฒนาระบบ POS ที่ปัจจุบันมีจุดรับแล้ว 55,000 ร้านค้า ซึ่งตั้งเป้าขยายตรงนี้เพิ่มเติม

    นอกจากนี้ยังมุ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการพัฒนาฟีเจอร์ไม่รับเครื่องปรุง ซึ่งลดเครื่องปรุงไปได้แล้ว 20 ล้านซองภายใน 2 เดือน โดยไลน์แมนตั้งเป้าลดขยะพลาสติก 4.2 พันตันต่อปี มุ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงยังผลักดันร้านค้าให้ใช้ภาชนะรักษ์โลก ซึ่งตั้งแต่กุมภาพันธ์-พฤศจิกายน 2024 มีร้านค้าเข้าร่วมแล้ว 1,500 ร้านค้า และ 8 ใน 10 ของร้านที่เข้าร่วมบอกว่าขายดีขึ้น พร้อมทั้งร่วมสนับสนุนเกษตรท้องถิ่น เช่น กาแฟ ข้าว โกโก้ เป็นต้น

    “แม้ไลน์แมนจะโต แต่ก็ยังวางใจไม่ได้ เพราะอยากครองตำแหน่งที่วางเป้าไว้คือ ถูกสุดทุกวัน และมีจำนวนพาร์ทเนอร์ร้านค้ามากที่สุด ส่วนปีนี้ภาพรวมบริษัทน่าจะยังไม่กำไร”

    ทั้งนี้ นอกจากการพัฒนาแพลตฟอร์มและฟีเจอร์ใหม่ๆ แล้ว ไลน์แมนวงในยังมุ่งมั่นในการผลักดันการท่องเที่ยวเชิงอาหารเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โปรโมตอาหารในย่านต่างๆ ซึ่งก่อนหน้านี้มีทั้งย่านเยาวราช, ทรงวาด-ตลาดน้อย-นางเลิ้ง และย่านบรรทัดทอง


    และล่าสุดยังได้จัดมหกรรมอาหารถิ่น 5 ภาค “LINE MAN Wongnai x ททท. ฟู้ดเฟสติเว่อร์ เรื่องกิน เล่นใหญ่เว่อร์” ตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืน ระหว่างวันที่ 11-15 ธันวาคม 2567 ณ ศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่ โดยขนทัพร้านอาหารดังทั่วไทยกว่า 70 ร้านมาไว้ในงาน และมีกิจกรรมอีกมากมายตลอด 5 วันแบบทั้งวันทั้งคืน


    ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อช่วยกระจายรายได้สู่เศรษฐกิจท้องถิ่น และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างนักท่องเที่ยวกับวัฒนธรรมอาหารไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในเสน่ห์ไทยที่ดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลกมายังประเทศไทยได้เป็นอย่างดี โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานตลอด 5 วัน กว่า 65,000 คน โดยเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทย ชาวต่างชาติ และคนในจังหวัดเชียงใหม่



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : LINE MAN เผย บริการเรียกรถ LINE MAN RIDE โตกว่า 60% เล็งขยายทั่วหัวเมืองใหญ่ภายใน 2 ปี

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine