บลูบิค จับมือ ไมโครซอฟท์ เปิดตัว "LISMA X" นวัตกรรมใหม่ตอบโจทย์การใช้งาน SAP บน Microsoft Power Platform เพิ่มความคล่องตัวให้ธุรกิจ - Forbes Thailand

บลูบิค จับมือ ไมโครซอฟท์ เปิดตัว "LISMA X" นวัตกรรมใหม่ตอบโจทย์การใช้งาน SAP บน Microsoft Power Platform เพิ่มความคล่องตัวให้ธุรกิจ

FORBES THAILAND / ADMIN
22 Aug 2023 | 06:00 PM
READ 1141

บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK ที่ปรึกษาชั้นนำผู้ให้บริการด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันครบวงจร ร่วมมือกับ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวนวัตกรรม "LISMA" ที่พัฒนาโดย บลูบิค เพื่อให้ผู้ใช้งานระบบ SAP สามารถทำงานบน Microsoft Power Platform เพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน พร้อมแสดงผลลัพธ์และสั่งงานได้แบบเรียลไทม์ ภายใต้มาตรฐานด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับโลกของไมโครซอฟท์ ตั้งเป้าจับกลุ่มองค์กรชั้นนำขนาดใหญ่ที่ใช้งานไมโครซอฟท์และระบบ SAP อยู่แล้ว


    พชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การร่วมมือกับ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ถือเป็นก้าวสำคัญที่ตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของบลูบิคที่มุ่งสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อยกระดับการทำงานขององค์กรลูกค้า ให้ตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจในยุคดิจิทัล ซึ่ง LISMA X ถือเป็นนวัตกรรมแรกในประเทศไทยที่ให้ผู้ใช้งาน SAP สามารถทำงานบน Microsoft Power Platform ได้อย่างเต็มรูปแบบและมีเสถียรภาพ ภายใต้มาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่เชื่อถือได้ ทำให้กระบวนการทำงานขององค์กรมีความคล่องตัว สะดวก รวดเร็ว ถูกต้องและแม่นยำ สามารถสร้างข้อได้เปรียบทางธุรกิจได้

    นวัตกรรม LISMA X ถูกออกแบบให้ทำงานได้อย่างเหมาะสมและสอดรับกับแพลตฟอร์มของไมโครซอฟท์ได้แบบไร้รอยต่อ โดยระบบ SAP สามารถส่งข้อความแจ้งเตือนต่างๆ ไปยังผู้ใช้งานผ่าน MS Team Chat เพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำงานพร้อมป้องกันการนำ Username ไปใช้งานโดยผู้ไม่ประสงค์ดี ยกตัวอย่างเช่น การแจ้งเตือนเอกสารรออนุมัติและการเข้าใช้งาน (Login) ระบบ เป็นต้น อีกทั้งผู้ใช้งานสามารถเรียกดูข้อมูลต่างๆ ด้วยการพิมพ์คำสั่งบน MS Team Chat จากนั้นระบบจะส่งคำสั่งดังกล่าวไปประมวลผลบนระบบ SAP ก่อนจะส่งข้อมูลกลับมาให้ผู้ใช้งาน

    สุภาณี อนุวงศ์วรเวทย์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาดและปฏิบัติการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ไมโครซอฟท์ มองเห็นโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Product) ใหม่ร่วมกับทางบลูบิค ด้วยการผสานจุดแข็งของแพลตฟอร์มไมโครซอฟท์ ที่มีเสถียรภาพและความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ในระดับสากล กับความรู้ความเชี่ยวชาญในระบบ SAP ของบลูบิค อีกทั้ง 2 บริษัทยังมีฐานข้อมูลลูกค้าที่ใช้ระบบ SAP และ Microsoft Power Platform ทำให้สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพและนำเสนอนวัตกรรมนี้ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม เพื่อให้องค์กรลูกค้าสามารถใช้งานระบบและข้อมูลที่มีได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

    วรัทย์ ไล้ทอง ผู้อำนวยการสายงาน ERP Advisory บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การใช้งานระบบ SAP บน Microsoft Power Platform จะช่วยลดกระบวนการทำงานต่าง ๆ สะดวกและปลอดภัย ที่สำคัญสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา สนับสนุนนโยบาย ESG จากการลดใช้กระดาษในกระบวนการทำงาน และยังช่วยลดปัญหา Human Error ในการดึงข้อมูล ทำให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจได้ดีและแม่นยำมากขึ้น โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกเชื่อมต่อการใช้งานระบบ SAP กับ 4 Microsoft Power Platform ดังต่อไปนี้

      1) Power Virtual Agents, Intelligence Virtual Agents ทำหน้าที่เป็นเปรียบเสมือนแชทบอท (Chatbot) ที่ติดตั้งอยู่บน Microsoft Teams เพื่อใช้โต้ตอบกับผู้ใช้งาน โดยแชทบอทนี้จะทำหน้าที่สื่อกลางในการโต้ตอบระหว่างผู้ใช้งานและระบบ SAP

      2) Power Automate, Process Automation เป็นส่วนหนึ่งของแชทบอท ทำหน้าที่ดำเนินการออกคำสั่งต่าง ๆ บนระบบ SAP ตามที่ได้ออกแบบไว้ เช่น คำสั่งอนุมัติเอกสารต่าง ๆ การส่งรายงาน และการแจ้งเตือน เป็นต้น

      3) Power BI, Business Analytics ทำหน้าที่นำข้อมูลจากระบบ SAP มาแสดงผลแบบเรียลไทม์ในรูปแบบ Dashboard ที่ถูกออกแบบมาให้สวยงามและเข้าใจง่าย

      4) Power Apps, App Development ใช้พัฒนาแอปพลิเคชัน (Application) ที่ต้องการเชื่อมต่อกับระบบ SAP โดย Power Apps สามารถรองรับการทำงานที่มีความซับซ้อนสูง แต่มีความยืดหยุ่นในการปรับแก้ในภายหลัง

    นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถทำรายการต่าง ๆ บนระบบ SAP ได้จากอุปกรณ์มือถือที่ติดตั้ง Power Apps อาทิ การอนุมัติรายการต่าง ๆ สามารถปิดกั้นการเข้าถึงข้อมูลจากระยะไกลจากผู้ไม่มีสิทธิ์ (Remote User Termination) และบันทึกคำร้องขอลางาน เป็นต้น

    “ในฐานะ Microsoft Thailand Partner of the Year บลูบิคยังมีแผนพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ร่วมกับทางไมโครซอฟท์อย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรลูกค้าด้วยการเพิ่มทางเลือกในกระบวนการทำธุรกิจที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมยกระดับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีไทย และเปิดโอกาสการขยายการให้บริการในตลาดต่างประเทศอีกด้วย” วรัทย์ กล่าวปิดท้าย

    

    อ่านเพิ่มเติม : เอพี ไทยแลนด์ ร่วมกับ มิตซูบิชิ เอสเตท เปิดตัว "THE ADDRESS สยาม-ราชเทวี" เพรสทีจ-ลักซ์ คอนโด สะท้อนทุกสุนทรียศาสตร์ของชีวิต

    ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine