1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ คือมูลค่าตลาดของ Digital Transformation ทั่วโลกที่ “Cisco” ยักษ์ใหญ่ด้านไอทีประเมินไว้ วันนี้ธุรกิจทั่วโลกยังอยู่ในกระแสของการเปลี่ยนผ่าน ที่ไม่ใช่แค่นำเทคโนโลยีมาใช้ในองค์กร แต่คือการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ทั้งหมดตั้งแต่กระบวนการคิด การวางกลยุทธ์การสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้พนักงานและลูกค้า
Cisco ชี้ว่าปี 2019 จะเป็นปีที่ธุรกิจไทยเข้มข้นกับการtransforms ธุรกิจ โดยประเมินเม็ดเงินจากนี้จนถึงปี 2022 มูลค่าจะมหาศาลถึง 9.6 หมื่นล้านเหรียญ
ความแรงของคลื่นสึนามิจาก Digital Transformation ทั่วโลก ยังคงซัดโลกธุรกิจอย่างไม่หยุดยั้ง ที่ผ่านมาหลายธุรกิจออกอาการ ซวนเซให้เห็นเป็นระยะจากการถูก disrupt อย่างรุนแรง กระนั้นก็ตามเมื่อหันมามองภายในประเทศไทย จากรายงานความพร้อมด้านการทำ Digital Transformation ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของบริษัท Cisco ชี้ว่าประเทศไทยมีความพร้อมเป็นอันดับต้นๆ โดยเฉพาะการเปิดรับนำเทคโนโลยีใหม่ไปใช้งานในภาคอุตสาหกรรม
รายงานฉบับนี้มีชื่อว่า
Ready , Steady ,Unsure – Are Companies in Asia-Pacific Ready for the Digital Transformation Fight? ซึ่งเป็นผลการสำรวจจากเหล่า Senior IT Manager จำนวน 1,325 คนจากธุรกิจที่มีพนักงานมากกว่า 500 คนทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ผลสำรวจมีความน่าสนใจ โดยมีข้อมูลว่าประเทศในแถบเอเชียมีเป้าหมายในการทำ Digital Transformation ด้วยเหตุผลที่ใหญ่ที่สุด คือ ต้องการเพิ่ม productivity ถึง 73% ขณะที่ต้องการเพิ่มรายรับ 59% นอกจากนี้ ยังมีเหตุผลเพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ 56% และ 54% คือการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า
Vish lyer รองประธานฝ่ายสถาปัตยกรรมของ Cisco เอเชียแปซิฟิก ญี่ปุ่น และจีนกล่าวว่า 94% ของธุรกิจใน 6 ประเทศใหญ่ของอาเซียนมั่นใจว่า กลยุทธ์การทำ Digital Transformation ของตนเองจะช่วยให้ธุรกิจมีขีดความสามารถที่เพียงพอต่อการแข่งขันในอนาคต ขณะที่ 93% มีความพร้อมในการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้งาน ซึ่งธุรกิจในภูมิภาคนี้มีความมั่นใจที่สูงกว่าทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิกด้วย
“การสำรวจครั้งนี้ เราพบด้วยว่าประมาณ 19% ของธุรกิจที่มีขนาดเกินกว่า 10,000 คนกลับรู้สึกยังไม่พร้อมในการเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อก้าวสู่การทำ Digital Transformation และธุรกิจขนาดเล็กกว่านั้น มีเพียง 7% ที่รู้สึกว่ายังไม่พร้อม ถึงแม้ว่าธุรกิจจำนวนมากในอาเซียนมีความมั่นใจในการปรับเปลี่ยน แต่เรากลับพบว่ามีเพียง 60% ที่เริ่มเปลี่ยนด้วยการใช้งานคลาวด์ ขณะที่ 59% เริ่มใช้โซลูชั่นด้าน Cyber Security อย่างจริงจัง และ 55% เริ่มใช้งาน Big Data and Analytics ยังมีเพียง 48% เท่านั้นที่เริ่มทำ Automation แบบจับต้องได้”
Iyer กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดในเรื่องของ Digital Transformation คือ เรื่องความปลอดภัยของข้อมูลภายในองค์กร และโดยภาพรวมๆ ในเรื่องของ Cyber Security มีธุรกิจมากถึง 47% ที่ลงทุนในเชิงรับ โดยเริ่มลงทุนระบบใหม่ๆ รวมถึงการอัปเกรดระบบเดิมที่มีอยู่แต่ก็ต่อเมื่อระบบถูกโจมตีเท่านั้น “ธุรกิจที่เปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆได้น้อย ส่วนใหญ่เกิดจากข้อจำากัดทางด้านงบประมาณ การขาดบุคลากรที่มีความสามารถ และขาดระบบโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่เหมาะสม”
รองประธาน Cisco บอกด้วยว่า หากมองลึกลงไปในรายประเทศ ธุรกิจของ “ไทย”เกือบทั้งหมด (95%) เชื่อมั่นว่าโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีของตัวเองนั้น พร้อมรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ในอนาคต ส่วนผู้นำย่านนี้ ได้แก่ เวียดนาม และสิงคโปร์ ที่ถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ โดยเฉพาะ 65% ของธุรกิจในสิงคโปร์มีการใช้งาน Big Data and Analytics อย่างเป็นรูปธรรม
ส่วนเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ถูกนำมาปรับใช้ในอาเซียนมากที่สุด คือ Cloud รองลงมาคือ Cyber Security, Big Data and Analytics, Automation รวมถึงการใช้งาน AI และ IoT โดยประเทศที่มีการใช้งาน AI สูงสุดคือไทย ตามด้วยเวียดนามและอินโดนีเซีย เช่นเดียวกับการใช้งาน Automation ไทยก็อยู่ในระดับที่สูง ขณะที่ Big Data and Analytics สิงคโปร์นำโด่งที่ 65% ส่วนไทยอยู่ที่ 56%
5 เรื่องเด่นเปลี่ยนองค์กรสู่อนาคต
VC Gopalratnam ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศ (CIO) และประธานบริหารฝ่ายยุทธศาสตร์การวางแผน และปฏิบัติการของ Cisco บอกว่า ทักษะที่ควรต้องมีใน CIO ยุคนี้มี 5 เรื่องที่สำคัญ คือ
1. ทักษะด้านคลาวด์ควรเป็นรากฐานสำคัญในการทำาธุรกิจนับจากนี้ การประยุกต์ใช้ Private Cloud และ Public Cloud หรือ Multi Cloud ต้องสามารถใช้งานอย่างลงตัวไร้รอยต่อ
2. การเก็บและวิเคราะห์ดาต้า เพื่อช่วยให้ธุรกิจรู้จักลูกค้าของตัวเองดีขึ้น
3. บริหารจัดการด้าน security ได้เป็นทุกอย่างของการจะทำาให้องค์กรทำ Digital Transformation ได้สำาเร็จและมี
ประสิทธิภาพ
4. ทักษะด้านเน็ตเวิร์กที่ต้องทำาให้เชื่อถือได้มีความเป็นอัจฉริยะ
5. มีทักษะในเรื่องการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ผู้ใช้งานและพนักงาน
VC กล่าวพร้อมทั้งชี้ว่า จริงๆ แล้วอีกสิ่งหนึ่งที่สำาคัญ หลายคนอาจคาดไม่ถึงว่ามีผลต่อการทำ Digital Transformation คือเรื่องของจิตวิทยา หรือ psychology เพราะจิตวิทยาทำให้เราเข้าใจลูกค้า สามารถรักษาลูกค้าไว้กับบริษัทได้
วัตสัน ถิรภัทรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ Cisco ประเทศไทย และอินโดจีน กล่าวว่า ในประเทศไทย Cisco ได้ทำงานร่วมกับกลุ่มธุรกิจที่โดน disrupt เร็วที่สุดคือกลุ่มของธนาคาร สถาบันการเงิน และอุตสาหกรรมการผลิต โดยการนำาเสนอโซลูชั่นที่เหมาะสมไปประยุกต์ใช้
"นอกจากกลุ่มสถาบันการเงิน ธนาคาร และภาคการผลิตแล้วผมเชื่อว่า กลุ่มที่จะไปได้เร็วมากขึ้นตามมาคือกลุ่มดูแลสุขภาพและภาคการศึกษา” ขณะที่อุตสาหกรรมที่จะได้รับผลกระทบหนักมากขึ้นจาก Digital Disruption ในปี 2562 ยังคงอยู่ในอุตสาหกรรมสื่อ เทคโนโลยี ค้าปลีก สถาบันการเงิน และภาคการศึกษา
วัตสันเผยตัวเลขของมูลค่าการทำ Digital Transformation ในไทยว่า จากนี้ไปจนถึงปี 2022 มูลค่าจะมหาศาลถึง 9.6 หมื่นล้านเหรียญ ขณะที่ทั่วโลกเองมูลค่าเลย 1.9 ล้านล้านเหรียญไปแล้ว “ผมมองว่าปีนี้จะเป็นปีที่เข้มข้นมากในเรื่อง Digital Transformationในไทย ที่ต้องจับตาเพราะปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าทุกธุรกิจในไทยถูก disrupt อย่างหนักหน่วง และบางกลุ่มปรับตัวได้เร็วอย่างธนาคาร ซึ่งเราเห็นได้ชัด”
คลิกอ่านฉบับเต็มของ "Digital Transformation ทั่วโลกเข้มข้น “เอเชีย” โชว์ความพร้อมพลิกโฉมธุรกิจ" ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับ มกราคา 2562 ในรูปแบบ e-Magazine