เปิดใจชาว Gen Z แท้จริงไม่ได้เรื่องมาก “แต่ชีวิตมันยากกว่าคนรุ่นก่อน” - Forbes Thailand

เปิดใจชาว Gen Z แท้จริงไม่ได้เรื่องมาก “แต่ชีวิตมันยากกว่าคนรุ่นก่อน”

Gen Z มักถูกตราหน้าว่าเป็นกลุ่มคนรุ่นที่ ‘ขี้เกียจ’ กว่าคนรุ่นก่อน อาจด้วยเทรนด์บน TikTok อย่าง ‘การถอนตัวจากการทำงานอย่างเงียบๆ’ (Quiet Quitting) ที่ไม่ได้หมายถึงการออกจริงๆ แต่เป็นสภาวะที่คนๆ หนึ่งไม่ได้ทุ่มเทกับการทำงานหนัก โดยจะทำแค่งานที่อยู่ใน Job Description เท่านั้น และ ‘งานของสาวขี้เกียจ’ (Lazy Girl Jobs) งานที่ทำจากที่ไหนก็ได้ ค่าตอบแทนดี ทั้งยังมี Work-Life Balance เรียกได้ว่าเป็นงานในฝัน


    มุมมองความคิดและพฤติกรรมเหล่านี้ทำให้หลายคนมองชาว Gen Z (และอาจรวมถึงมิลเลนเนียลด้วย) ว่าไม่มีความพยายาม โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นอาวุโส ยกตัวอย่างเช่น Whoopi Goldberg นักแสดงสาววัย 69 ปีชาวอเมริกันผู้เคยออกมาวิจารณ์คนรุ่นใหม่ที่ไม่อยากทำงานหนักแบบแบบคนรุ่นเดียวกับเธอ และบอกว่านั่นคือสาเหตุที่คนหนุ่มสาวสมัยนี้ไม่สามารถซื้อบ้านได้

    นอกจากนี้ยังมี Rick Mercer นักแสดงตลกวัย 54 ปี ชาวแคนาเดียนที่ออกมาร่วมวิจารณ์คนทำงานอายุน้อยอย่างเปิดเผย เสมือนเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ชาว Gen Z บนโซเชียลลุกขึ้นชี้ถึงความสองมาตรฐานของบรรดาคนรุ่นเก่าก่อน

    ตัวตั้งตัวตีในการโต้กลับการล้อเลียนคนรุ่นใหม่ที่บ่นการทำงาน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ของ Mercer คือ Robbie Scott คอนเทนต์ครีเอเตอร์หนุ่มวัย 27 ปี ที่สวนไปว่า คนรุ่น Baby Boomer ไม่รู้หรอกว่าการทำงานหนัก แต่ไม่ได้รับอะไรกลับมาเลยเป็นอย่างไร ซึ่งวิดีโอของเขามีผู้เข้าชมกว่า 2 ล้านคนบน TikTok

    “เราต้องหยุดคาดหวังว่า คนที่ซื้อบ้านสี่ห้องนอนกับรถ Cadillac คันใหม่เอี่ยมด้วยรายได้ 30,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อปี จะมาเข้าใจชีวิตของคนจบปริญญาโทที่ทำงานมากกว่า 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แต่ยังไม่สามารถหาซื้ออะพาร์ตเมนต์ขนาด 400 ตารางฟุตแถวบ้านนอกอย่างไอโอวาได้” Scott กล่าวในวิดีโอ


ชีวิตการทำงานของ Gen Z และมิลเลนเนียล

    แม้ทั้ง Gen Z และมิลเลนเนียลมักถูกมองว่าเป็นคนอายุน้อยในออฟฟิศเหมือนกัน แต่ปัจจุบันชาวมิลเลนเนียลส่วนหนึ่งก็มีอายุระหว่าง 30 - 40 ปีกว่าๆ กันแล้ว ทั้งยังได้รับความไว้วางใจในที่ทำงาน ผลสำรวจจาก Resume Genius พบว่า ชาวมิลเลนเนียลเป็นตัวเลือกยอดนิยมในการสรรหาบุคลากรเข้าทำงาน และ 45% ของผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลก็คาดหวังว่าจะจ้างงานกลุ่มคนรุ่นดังกล่าว

    กระทั่งคนทำงานระดับผู้จัดการที่เป็นชาว Gen Z ยังยอมรับว่ากลุ่มคนรุ่นเดียวกันกับพวกเขานั้นทำงานด้วยยากที่สุด แต่ชาว Gen Z ก็อาจจะมีเหตุผลที่ทำให้พวกเขาขาดแรงใจในการทำงานมากกว่าคนรุ่นก่อนหน้า

เบื้องหลังความโกรธเกี้ยวของชาว Gen Z

    Scott ยังเผยว่า เหตุผลที่คน Gen Z ดูโกรธเกรี้ยว หวงสิทธิของตัวเอง และบ่นเยอะ ไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่เต็มใจทำงานเหมือนคนรุ่นเก่า แต่เป็นเพราะพวกเขาไม่ได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสมกลับมาเลย

    “ที่แย่คือ เราปฏิบัติตามบรรทัดฐานของสังคมมาโดยตลอด” Scott อธิบาย “เราไปโรงเรียน ไปมหาวิทยาลัย เรายังทำงานกันตั้งแต่อายุ 15-16 ทำทุกอย่างที่พวกคุณบอกให้เราทำ เพื่อที่จะอะไรล่ะ? ยังต้องอยู่บ้านพ่อแม่ทั้งที่อายุ 20 ปลายๆ แล้วอย่างนั้นหรือ?”

    สิ่งที่เขาพูดมา นับว่ามีประเด็น

    มิลเลนเนียลคือกลุ่มคนรุ่นที่ได้รับการศึกษาสูงสุดในปัจจุบัน และ Gen Z กำลังตามมาติดๆ แต่โอกาสทางการเงินและโอกาสในการได้รับการจ้างงานกลับริบหรี่กว่าคน Gen X เสียอีก ตลาดงานในปัจจุบันก็ยังโหดร้ายมาก รายงานจาก Career Group เผยว่าคนหางานราว 20% ต้องใช้เวลา 10-12 เดือน หรืออาจมากกว่า โดยไร้โชคใดๆ

    ซ้ำร้าย บัณฑิตจบใหม่ทั้งหลายยังต้องเผชิญคำพูดจากผู้บริหารธุรกิจต่างๆ ที่บอกว่า ใบปริญญาของพวกเขามีค่าเพียงน้อยนิด และรายงานจาก LinkedIn เผยว่า ในสหราชอาณาจักร มีประกาศรับสมัครงานที่ไม่จำเป็นต้องจบปริญญาเพิ่มขึ้นมากถึง 90% ระหว่างปี 2021-2022

    ส่วนฝั่งสหรัฐอเมริกาที่มีปัญหาเรื่องเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา ผลสำรวจจาก Bankrate ก็แสดงให้เห็นมุมมองอันน่าสะเทือนใจ โดย 24% ของชาวอเมริกันที่มีภาระหนี้จากการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษามองว่า หนี้ดังกล่าวคือความเสียดายด้านการเงินครั้งใหญ่ในชีวิตของพวกเขา

    สำหรับคนรุ่นใหม่ที่หางานได้ ก็ต้องพบความจริงที่ว่า เงินเดือนที่พวกเขาได้รับไม่ได้มีมูลค่าเทียบเท่าสมัยรุ่นพ่อรุ่นแม่ของพวกเขา เพื่อซื้อบ้านราคากลางๆ ที่ราคา 433,100 เหรียญ ชาวอเมริกันคนหนึ่งต้องมีรายได้ประมาณ 166,600 เหรียญต่อปี แต่รายงานของ Census ชี้ว่ารายได้เฉลี่ยของแต่ละครัวเรือนทุกวันนี้อยู่ที่ 78,538 เหรียญต่อปี แน่นอนว่าสำหรับตำแหน่งระดับเริ่มต้น รายได้ของพวกเขาก็น้อยกว่านั้นราวครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว

    เมื่อมองให้ลึกลงไป จะพบว่าราคาบ้านเพิ่มขึ้นเร็วกว่ารายได้ถึง 2 เท่า นับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2000 เป็นต้นมา กลายเป็นปัจจัยกดดันให้คนทำงานรุ่นใหม่ในปัจจุบันต้องทำงานถึง 3 งานหรือมากกว่า เพื่อไล่ตามค่าครองชีพที่พุ่งสูงให้ทัน

    “ผมรู้จักคนอายุ 30 กลางๆ ที่ทำงานมา 20 ปีแล้ว พวกเขาใช้เวลายามตื่น 70% เพื่อทำงาน และตอนนี้ก็ยังไม่สามารถซื้อบ้านหลังแรกได้เลย” Scott เล่าและเสริมว่า “คนรุ่นมิลเลนเนียลและ Gen Z กำลังทำงานเยอะกว่าที่คนรุ่นอื่นเคยทำมา ในขณะที่เราได้รับผลตอบแทนน้อยกว่าคนรุ่นอื่นเอามากๆ และยังไม่สมน้ำสมเนื้อด้วย”



เหยื่อบรรทัดฐานอันหลอกลวง

    การเปรียบเทียบสถานการณ์ระหว่างคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันกับคนรุ่นก่อนๆ อย่างชัดเจนของ Scott นั้น ถูกใจบรรดาคนอายุน้อยที่ต่างก็รู้สึกว่าพวกเขาถูกผลักดันให้ไล่ตามความฝันที่ไม่มีทางเป็นจริง ทำให้วิดีโอของเขากลายเป็นไวรัล

    “ฉันจะไม่มีวันหยุดเสียใจที่ไปเรียนมหาวิทยาลัย” ผู้ใช้งาน TikTok รายหนึ่งแสดงความคิดเห็นหนึ่งบนวิดีโอดังกล่าว “พวกเขาหลอกลวงเรา”

    “งานแรกที่ฉันทำตอนอายุ 16 ได้เงิน 7.25 เหรียญต่อชั่วโมง สิบปีต่อมาฉันจบปริญญาตรีและทำงานได้เงิน 14 เหรียญต่อชั่วโมง” อีกความคิดเห็นหนึ่งร่วมแบ่งปันเรื่องราวของตัวเอง

    กระทั่งคน Gen X ที่มาดูวิดิโอของ Scott ยังเห็นด้วยว่าคนทำงานทุกวันนี้ลำบากกว่าสมัยก่อนมาก มีผู้ใช้งานรายหนึ่งเผยว่า “ฉันอายุ 44 แล้ว และจะบอกอะไรให้นะ เรา ‘ไม่ได้’ กำลังทำงาน 40 ชั่วโมงเหมือนที่ฉันเคยทำตอนอายุ 25 ตอนนี้เราทำงานในส่วนของ 2-3 คนเลยล่ะ”

    อย่างไรก็ตาม มีผู้ที่เห็นต่างด้วยเช่นกัน “พวกเธอไปเรียนสาขาที่ช่วยให้หางานรายได้ดีไม่ได้เอง แล้วก็มาคร่ำครวญว่าเป็นความผิดของทุกคน”

    แล้วคุณล่ะ คิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้?


แปลและเรียบเรียงจาก Gen Z are over having their work ethic questioned: ‘Most boomers don’t know what it’s like to work 40+ hours a week and still not be able to afford a house’


ภาพ:

Photo by Kaboompics.com and Mikhail Nilov on Pexels

Robbie Scott via TikTok


เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ดับฝันทายาทเศรษฐี! Boomer และ Gen X ขอเปย์ตัวเอง ดีกว่าส่งต่อเป็นมรดกให้ลูกหลาน

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine