ดับฝันทายาทเศรษฐี! Boomer และ Gen X ขอเปย์ตัวเอง ดีกว่าส่งต่อเป็นมรดกให้ลูกหลาน - Forbes Thailand

ดับฝันทายาทเศรษฐี! Boomer และ Gen X ขอเปย์ตัวเอง ดีกว่าส่งต่อเป็นมรดกให้ลูกหลาน

ทายาทคนใดกำลังคาดหวังจะรับมรดกจากชาว Baby Boomer และ Gen X อาจต้องคิดใหม่ เมื่อรายงานเผยว่ากลุ่มคนอายุมากในสหรัฐอเมริกาเริ่มกลับมาใช้จ่ายอย่างหรูหราอีกครั้ง


    ตลอดหลายปีมานี้ ภาคส่วนธุรกิจลักชัวรีต่างก็มียอดขายลดลงอันเป็นผลมาจากภาวะเงินเฟ้อ แต่ในสองไตรมาสล่าสุดที่ผ่านมา ธุรกิจลักชัวรีกลับเริ่มเห็นแสงแห่งความหวังอีกครั้ง ส่วนใหญ่แล้วมาจากลูกค้าอายุมากที่มั่งคั่ง

    งานวิจัยจาก Bank of America ซึ่งรวบรวมข้อมูลการใช้งานบัตรเครดิตและเดบิตพบว่า การใช้จ่ายในภาคส่วนธุรกิจลักชัวรีลดลงนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2022 ต่อเนื่องไปยังปี 2023 และ 2024 ก่อนที่ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา ยอดขายจะเริ่มฟื้นคืนมาอีกครั้ง

    Taylor Bowley นักเศรษฐศาสตร์จาก Bank of America ชี้ว่า แรงส่งในการฟื้นคืนของธุรกิจลักชัวรีครั้งนี้ มาจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ร่ำรวยและมีอายุมากอย่างมีนัยสำคัญ

    ในปี 2024 ที่ผ่านมา Gen X คือกลุ่มคนที่ใช้จ่ายกับสินค้าและบริการลักชัวรีในอัตราส่วนสูงสุดราว 1 ใน 3 ของทั้งหมด ตามมาด้วยกลุ่ม ‘มิลเลนเนียลอายุมาก’ ซึ่งเกิดระหว่างปี 1978 - 1988 มีอัตราส่วนการใช้จ่ายต่ำกว่า Gen X เล็กน้อย และท้ายสุดคือ Baby Boomer ที่มีการใช้จ่ายในอัตราส่วน 1 ใน 4 ของทั้งหมด

    อย่างไรก็ตาม หากมองลึกลงไปในข้อมูลจะพบว่า ผู้บริโภคไม่ได้ใช้จ่ายกับสินค้าลักชัวรี แต่กลับใช้จ่ายเงินจำนวนมากเพื่อซื้อประสบการณ์ลักชัวรี เช่น การเข้าพักในโรงแรมระดับไฮเอนด์

    สำนักข่าว Fortune ยังอ้างถึงงานวิจัยในปี 2024 ที่แสดงให้เห็นว่าชาว Baby Boomer ใช้จ่ายเงินไปกับโรงแรมหรูเพิ่มขึ้น 2.5% จากปีก่อนหน้า แต่มีการซื้อสินค้าพรีเมียมเพิ่มขึ้นเพียง 0.5% เท่านั้น

    ด้านชาว Gen X และมิลเลนเนียลอายุมากก็สนุกสนานกับการซื้อประสบการณ์ในโรงแรมระดับไฮเอนด์เช่นกัน พวกเขาใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อบริการประเภทดังกล่าวเพิ่มขึ้นราว 1.5% เทียบกับปี 2023

    งานวิจัยยังเปิดเผยว่า เหล่าผู้มั่งคั่งที่มีทรัพย์สินมากไม่ได้ทุ่มเงินเพื่อเข้าพักโรงแรมหรูในต่างประเทศเท่านั้น แต่ยังไปช้อปปิ้งด้วย โดย 13% ของการซื้อสินค้าหรูเกิดขึ้นในต่างแดน

    อันที่จริง กลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางและรายได้สูงต่างก็ใช้จ่ายนอกประเทศกันมากขึ้น ข้อมูลของ Bank of America ชี้ว่าครัวเรือนที่มีรายได้สูงใช้จ่ายในต่างประเทศในปี 2024 เพิ่มขึ้น 2.5% จากปี 2023 ในขณะที่ครัวเรือนรายได้ปานกลางใช้จ่ายเพิ่มขึ้นราว 1% ณ ช่วงเวลาเดียวกัน


แล้วการส่งต่อความมั่งคั่งครั้งใหญ่จะเป็นอย่างไร?

    ก่อนหน้านี้มีการพูดถึง การส่งต่อความมั่งคั่งครั้งใหญ่ (The Great Wealth Transfer) กันอย่างกว้างขวาง โดยคาดว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า จะมีการถ่ายโอนความมั่งคั่งของชาว Baby Boomer ไปสู่ทายาทซึ่งหลักๆ คือชาวมิลเลนเนียล ที่ลำพังแค่ในอเมริกาก็มีมูลค่าทรัพย์สินรวมถึง 90 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ แล้ว

    อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจของบริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุน Charles Schwab ที่เผยแพร่เมื่อเดือนธันวาคม 2024 กลับพบว่ามหาเศรษฐีรุ่น Baby Boomer กลับมีแผนการใช้จ่ายเงินที่พวกเขาเก็บสะสมมามากกว่าจะส่งต่อเป็นมรดก

    จากการพูดคุยกับมหาเศรษฐี 1,000 คน ทีมงาน Charles Schwab พบว่ามีชาวอเมริกันผู้มั่งคั่งเพียง 39% เท่านั้นที่ตั้งใจเก็บทรัพย์สมบัติไว้เป็นมรดกแก่ทายาท โดย Gen X คือกลุ่มที่พยายามสะสมเงินสดไว้ส่งต่อมากที่สุดที่ 45% ส่วนชาว Baby Boomer ที่มีเจตจำนงเดียวกันนั้นมีแค่ 34%

    ผลสำรวจพบว่า 45% ของชาว Baby Boomer หรือผู้ที่มีอายุ 60-78 ปี เผยว่าพวกเขามีแผนจะซื้อความสุขให้ตัวเอง และไม่ต้องการอยู่ดูคนอื่นใช้เงินที่พวกเขาทุ่มเทแรงกายแรงใจหามาตลอดชีวิต

    ครั้นเมื่อถามว่า อยากเฝ้ามองทายาทผู้รับมรดกใช้จ่ายเงินของพวกเขาขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ไหม มีเพียง 21% เท่านั้นที่ตอบว่า ‘อยาก’


แปลและเรียบเรียงจาก Forget the Great Wealth Transfer—Boomers and Gen X are saving the luxury market with fancy hotel stays and shopping sprees


Photo by on Anastasia Shuraeva on Unsplash


เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : มูไม่หยุดแม้วันตรุษจีน! ธุรกิจ ‘แก้ชงออนไลน์’ โตแรง สะท้อนวัฒนธรรมความเชื่อในยุคดิจิทัล

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine