ปิดดีล! อาณาจักร LVMH เข้าซื้อกิจการ Tiffany & Co. มูลค่า 1.62 หมื่นล้านเหรียญ - Forbes Thailand

ปิดดีล! อาณาจักร LVMH เข้าซื้อกิจการ Tiffany & Co. มูลค่า 1.62 หมื่นล้านเหรียญ

บริษัทสินค้าลักชัวรีรายใหญ่สุดในโลก เข้าซื้อกิจการเจเวลรี Tiffany & Co ในมูลค่า 1.62 หมื่นล้านเหรียญ

อาณาจักรสินค้าลักชัวรีจากฝรั่งเศส LVMH ซึ่งมีสินค้าหรูอย่าง Louis Vuitton และค้าปลีกอย่าง Sephora บริหารโดยมหาเศรษฐีที่มั่งคั่งที่สุดในยุโรป และรวยเป็นอันดับ 4 ของโลก Bernard Arnault ได้เข้าซื้อกิจการเครื่องประดับสัญชาติอเมริกันอย่าง Tiffany & Co. ด้วยมูลค่า 1.62 หมื่นล้านเหรียญ ส่งผลให้ LVMH มีสินค้าใหม่เข้าพอร์ตโฟลิโอของบริษัท และขึ้นแท่นแบรนด์ลักชัวรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล

Arnault กล่าวว่า Tiffany นั้นเป็นมรดกที่เหนือชั้นและเข้ากับแบรนด์อื่นๆ ของเขา

สำหรับดีลยักษ์ครั้งนี้ LVMH ได้ลงทุนซื้อ Tiffany ในราคา 135 เหรียญต่อหุ้น รวมแล้วคิดเป็นมูลค่า 1.62 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งสูงกว่าการเสนอราคาเริ่มต้นในเดือนตุลาคมเกือบ 2 พันล้านเหรียญ (ขณะนั้นราคาอยู่ที่ 120 เหรียญต่อหุ้น)

นอกจากนี้ Tiffany จะอยู่ในแผนกนาฬิกาและเครื่องประดับของอาณาจักร โดยดีลดังกล่าวจะช่วยเสริมแกร่งให้กับ LVMH ในอเมริกาเหนือ และปูรากฐานสู่ตลาดเครื่องประดับให้กับอาณาจักรนี้ด้วย

Arnault กล่าวถึงก้าวสำคัญในครั้งนี้ว่าเรานับถือและชื่นชมแบรนด์ Tiffany อย่างยิ่ง และมีความตั้งใจที่จะพัฒนาสินค้าแบรนด์นี้ด้วยความมุ่งมั่นและทุ่มเทเช่นเดียวกับที่เราทำในทุกๆ แบรนด์ในบ้านหลังนี้ของเรา

Bernard Arnault
ทั้งนี้ แบรนด์ Tiffany ได้รับการก่อตั้งขึ้นในปี 1837 ปัจจุบันมีพนักงานมากกว่า 14,000 คน เปิดบริการราว 300 สาขาทั่วโลก โดยมีแฟลกชิปสโตร์อยู่ติดกับ Trump Tower ใน New York ซึ่งบริษัทได้โด่งดังเป็นพลุแตกหลังจากภาพยนตร์เรื่อง Breakfast at Tiffany’s ฉายในปี 1961 โดยมี Audrey Hepburn แสดงนำ

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน Tiffany เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ต้องพยายามอย่างหนักเพื่อสร้างการเติบโตให้กับบริษัท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากยอดใช้จ่ายที่ลดลงของนักท่องเที่ยวและภาวะเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่า รวมถึงสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน

ขณะที่ LVMH มีแบรนด์อยู่ในมือทั้งหมด 75 แบรนด์ พนักงานกว่า 156,000 คน และมีจำนวนสาขารวมทั้งหมดกว่า 4,590 สาขา โดยแบรนด์ต่างๆ ที่อยู่ในอาณาจักรนี้ อาทิ Kenzo, Tag Heuer, Dom Pérignon, Moet & Chandon และ Christian Dior ส่วนแบรนด์อเมริกันอื่นๆ ที่อาณาจักรนี้เป็นเจ้าของ ได้แก่ Marc Jacobs, Benefit Cosmetics และ Kat Von D Beauty

  ที่มา  
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine