จุดจบของ "Evergrande" บ.อสังหาฯยักษ์ใหญ่ของจีน หลังศาลฮ่องกงตัดสินสั่งปิดกิจการ - Forbes Thailand

จุดจบของ "Evergrande" บ.อสังหาฯยักษ์ใหญ่ของจีน หลังศาลฮ่องกงตัดสินสั่งปิดกิจการ

ผลพวงจากการบริหารจัดการที่ย่ำแย่จนธุรกิจขาดสภาพคล่องเป็นหนี้ก้อนโตรวมกว่า 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ บ.อสังหาฯ ยักษ์ใหญ่ของจีน "China Evergrande Group" จึงถือเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีหนี้สินมากที่สุดในโลก ล่าสุดศาลฮ่องกงมีคำสั่งตัดสินให้ล้มเลิกปิดกิจการ หลังจากบริษัทยื่นล้มละลายต่อศาลในสหรัฐฯ ไปแล้วช่วงปลายปี 2023


    ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง China Evergrande Group ได้ขาดสภาพคล่องทางการเงินและยังผิดนัดชำระหนี้ในปี 2021 มาอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนจากทั่วโลกต่างพากันคาดเดาว่าในที่สุดรัฐบาลจีนจะเข้ามาช่วยโอบอุ้มธธุรกิจนี้ไว้หรือไม่ 

    เช้าวันนี้ (29 มกราคม 2023) ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ ก็เป็นอันชัดเจนแล้วว่าผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างไปจากแนวทางที่หลายๆ คนคาดเดาไว้อย่างไร หลังจาก Linda Chan ผู้พิพากษาคดีล้มละลายของศาลสูงในฮ่องกง ซึ่งเป็นประธานผู้ดูแลคดีนี้ ได้มีคำสั่งตัดสินออกมาแล้วว่า China Evergrande Group ที่มีหนี้สินรวมมากกว่า 3 แสนล้านเหรียญฯ ต้องล้มเลิกปิดกิจการ พร้อมทำการชำระบัญชีด้วยการนำทรัพย์สินออกขายทอดตลาด

    "ฉันคิดว่าการที่บริษัทไม่สามารถแก้ไขปัญหาสภาพคล่องทางการเงินได้ในช่วงหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมา ก็น่าจะเป็นเหตุผลที่เพียงพอแล้วว่าธุรกิจควรจะหยุดการดำเนินกิจการไว้แค่นี้" ผู้พิพากษาหญิงกล่าวหลังจากใช้เวลาไปประมาณ 40 นาที สำหรับการพิจารณาตัดสินคดี

    ทั้งนี้ ก่อนที่ผลคำตัดสินของศาลจะออกมาอย่างแน่ชัด อัตราการซื้อขายหุ้นของ China Evergrande ก็ปรับลดฮวบดิ่งลงถึง 20% ในทันที หลังจากนั้นการซื้อขายของ Evergrande และบริษัทต่างๆ ในเครือที่จดทะเบียนก็ถูกระงับภายหลังคำตัดสินของศาลได้ประกาศออกมาอย่างเป็นรูปธรรม  

    ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนต่อเนื่องไปถึงสงครามความขัดแย้งของแต่ละประเทศที่เกิดขึ้นอยู่ ณ ปัจจุบัน ล้วนส่งผลให้ธุรกิจตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีนอยู่ในสถานะที่ย่ำแย่มากที่สุดในรอบ 9 ปี อีกทั้งตลาดหุ้นเองก็ตกต่ำใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีอีกด้วย ผลการพิจารณาตัดสินให้บริษัทอสังหาฯ ยักษ์ใหญ่ของจีนต้องเลิกกิจการแบบเป็นข่าวดังไปทั่วโลกครั้งนี้ ย่อมส่งผลกระทบหรือแรงกระเพื่อมอย่างมากต่อภาพลักษณ์และตลาดเงินของจีน

    “สังคมจะจับตาดูอย่างใกล้ชิดเพื่อดูว่ามีการชำระหนี้ให้แก่เหล่าบรรดาเจ้าหนี้หรือไม่ แต่ทั้งนี้ไม่ว่าผลจะเป็นไปในรูปแบบใดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ก็ยังส่งผลกระทบระยะยาวต่อการลงทุนในจีนอยู่ดี” Dan Anderson หุ้นส่วนและผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับโครงสร้างของบริษัทกฎหมาย Freshfields Bruckhaus Deringer กล่าว นอกจากนี้ เหล่าทนายความซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มเจ้าหนี้หลักของ Evergrande ยังให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวนอกห้องพิจารณาคดีด้วยว่า พวกเขาไม่แปลกใจเลยกับผลการตัดสินที่ออกมา

    อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่รายเดียวและรายแรกของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาฯ ในจีนที่ประสบปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงินอย่างหนักเช่นนี้ และคงจะต้องจับตาดูกันต่อไปว่าจีนจะก้าวข้ามวิกฤตินี้ไปได้อย่างไร หลังจากที่มีการทุ่มทุนก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์มากเกินกว่าความต้องการผู้บริโภคจนล้นตลาด อีกทั้งธุรกิจนี้ยังมีสัดส่วนมากถึง 1 ใน 3 ของ GDP ประเทศ ซึ่งหากธุรกิจภาคนี้ล้มทรุดลงไปพร้อมๆ กัน ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อเนื่องลามไปยังธุรกิจการเงิน การธนาคาร และภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ทั่วประเทศได้


แปลและเรียบเรียงจากบทความ : Evergrande Will Be Dismantled, a ‘Big Bang’ End to Years of Stumbles



​​เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : Jack Ma กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Alibaba

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine