เมื่อตระกูลเจียรวนนท์ยังคงครองอันดับ 1 ในทำเนียบ ตามด้วย เจริญ สิริวัฒนภักดี และตระกูลจิราธิวัฒน์
กว่าสองในสามของเหล่า 50 มหาเศรษฐีไทยจากการจัดอันดับความมั่งคั่งประจำปี 2560 โดย Forbes ล้วนมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มที่มูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือ กลุ่มอภิมหาเศรษฐีในทำเนียบห้าอันดับแรก ทำให้ทรัพย์สินรวมของผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศ 50 อันดับพุ่งขึ้นแตะ 4.26 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ถึง 16% ทั้งนี้ นิตยสาร Forbes Thailand ซึ่งจะวางแผงในวันที่ 6 มิถุนายนนี้ ท่ามกลางการเติบโตของภาวะเศรษฐกิจไทยที่เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 4 ปีด้วยอัตราการขยายตัวราว 3.3% ในไตรมาสแรกของปี 2560 จากปัจจัยการเพิ่มผลผลิตภาคการเกษตร การจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น และการฟื้นตัวของการส่งออก ในขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น 12% ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ในปีนี้ มูลค่าทรัพย์สินของพี่น้องตระกูลเจียรวนนท์ แห่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ พุ่งขึ้น 1.035 แสนล้านบาท เป็น 7.418 แสนล้านบาท และยังคงครองอันดับ 1 ในทำเนียบอีกครั้ง โดยเดือนมกราคมที่ผ่านมา ธนินท์ เจียรวนนท์ ได้ส่งมอบตำแหน่งบริหารสูงสุดขององค์กรสู่ทายาท หลังจากที่ดำรงตำแหน่งประธานและซีอีโอตลอด 48 ปีที่ผ่านมา โดยแต่งตั้ง สุภกิต บุตรชายคนโต และศุภชัย บุตรชายคนเล็ก ให้ดำรงตำแหน่งประธานและซีอีโอของเครือตามลำดับ อันดับ 2 ในทำเนียบยังคงเป็น เจริญ สิริวัฒนภักดี ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 5.313 แสนล้านบาท โดยในปีนี้มีแผนปั้นโครงการมูลค่า 1.21 แสนล้านบาทเพื่อสร้างเมืองขนาดย่อมๆ ใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งนับเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ โดยมี ปณต บุตรชายคนเล็กอายุ 39 ปี เป็นหัวเรือใหญ่ ตระกูลจิราธิวัฒน์ เข้าวินเป็นอันดับ 3 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อน ส่งให้มูลค่าทรัพย์สินพุ่งขึ้นแตะ 5.278 แสนล้านบาท อันดับ 4 ในทำเนียบคือ เฉลิม อยู่วิทยา แห่งกระทิงแดง โดยทรัพย์สินเพิ่มขึ้นจากปี 2559 ถึง 9.66 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้นเป็นอันดับ 2 รองจากเครือเจริญโภคภัณฑ์) ขึ้นแตะ 4.312 แสนล้านบาท ด้าน วิชัย ศรีวัฒนประภา แห่ง King Power ขยับขึ้นสู่อันดับ 5 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 1.621 แสนล้านบาท จากอานิสงส์ด้านการท่องเที่ยวขาขึ้นของไทย โดยร้านค้าปลอดภาษีของเขามียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 20% ทั้งนี้ ทำเนียบอภิมหาเศรษฐีของไทยในปีนี้ได้มีโอกาสต้อนรับหน้าใหม่ถึง 3 คน ได้แก่ อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ผู้ก่อตั้งกิจการสาหร่ายอบแห้งตราเถ้าแก่น้อย ซึ่งนับเป็นมหาเศรษฐีผู้มีอายุน้อยที่สุด (32 ปี) ในทำเนียบของเราด้วยมูลค่าสินทรัพย์ที่ 2.104 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ยังมี วินัย เตียวสมบูรณ์กิจ ผู้ก่อตั้ง ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป เมื่อปี 2530 จากฟาร์มเลี้ยงไก่เพียง 20,000 ตัวและสามารถสร้างตัวจนมีทรัพย์สินถึง 2.587 หมื่นล้านบาท และ ณัฐชไม ถนอมบูรณ์เจริญ แห่งคาราบาวแดง สหายผู้ร่วมก่อตั้งธุรกิจกับ เสถียร เศรษฐสิทธิ์ และยืนยง โอภากุล (แอ๊ด คาราบาว) จนมีมูลค่าทรัพย์สินสูงถึง 2.035 หมื่นล้านบาท หมายเหตุ: ในปีนี้ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิขั้นต่ำที่ได้รับการจัดอันดับอยู่ที่ 1.587 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 1.38 หมื่นล้านบาทในปี 2559รายชื่อตระกูลและอภิมหาเศรษฐี 10 อันดับแรกของไทย
อันดับ1: ตระกูลเจียรวนนท์ มูลค่าทรัพย์สิน: 7.417 แสนล้านบาท อันดับ2: เจริญ สิริวัฒนภักดี มูลค่าทรัพย์สิน: 5.313 แสนล้านบาท อันดับ3: ตระกูลจิราธิวัฒน์ มูลค่าทรัพย์สิน: 5.278 แสนล้านบาท อันดับ4: เฉลิม อยู่วิทยา มูลค่าทรัพย์สิน: 4.312 แสนล้านบาท อันดับ5: วิชัย ศรีวัฒนประภา มูลค่าทรัพย์สิน: 1.621 แสนล้านบาท อันดับ6: กฤตย์ รัตนรักษ์ มูลค่าทรัพย์สิน: 1.345 แสนล้านบาท อันดับ7 วานิช ไชยวรรณ มูลค่าทรัพย์สิน: 1.311 แสนล้านบาท อันดับ8 ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ มูลค่าทรัพย์สิน: 8.970 หมื่นล้านบาท อันดับ9 สันติ ภิรมย์ภักดี มูลค่าทรัพย์สิน: 7.935 หมื่นล้านบาท อันดับ10 Aloke Lohia มูลค่าทรัพย์สิน: 6.037 หมื่นล้านบาท การจัดอันดับในทำเนียบฯ ใช้ข้อมูลทางการเงินและการถือครองหุ้นที่ได้รับจากครอบครัวและผู้ที่ได้รับการจัดอันดับ ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ นักวิเคราะห์ และหน่วยงานกำกับดูแล รวมถึงทรัพย์สินของครอบครัว และทรัพย์สินที่ถือครองโดยสมาชิกในหลายรุ่น นอกจากนี้ มูลค่าทรัพย์สินในบริษัทมหาชนยังคำนวณจากราคาหุ้น และอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 18 พฤษภาคม 2560 ส่วนทรัพย์สินในบริษัทที่ถือครองส่วนตัวประเมินค่าโดยเปรียบเทียบกับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเดียวกันที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์พบนิตยสาร Forbes Thailand ฉบับ มิถุนายน 2560 และฉบับพิเศษในเล่ม "Wealth Management & Investing" ได้ที่แผงนิตยสารชั้นนำ และ e-Magazine