TQM เผยปี 68 ตั้งเป้าโต 5-10% พร้อมปั้น 4 บริษัทลูกเข้า IPO เมื่อตลาดพร้อม - Forbes Thailand

TQM เผยปี 68 ตั้งเป้าโต 5-10% พร้อมปั้น 4 บริษัทลูกเข้า IPO เมื่อตลาดพร้อม

TQMalpha ประกาศแผนปี 68 ตั้งเป้ารายได้ 5-10% แม้เศรษฐกิจผันผวน-ไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เผยพร้อมพา 4 บริษัทลูกเข้า IPO ในตลาดหุ้น แต่จากสถานการณ์ปัจจุบันที่ตลาดยังไม่ดีนัก จึงต้องรอเวลาก่อนพาเข้าตลาด


     ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธานบริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) หรือ TQMalpha กล่าวว่า แม้ภาวะเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว รวมถึงมาตรการทางการเงินที่เข้มงวด แต่ปี 2568 นี้ยังคงตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต อย่างต่อเนื่องที่ 5-10% โดยจะเดินหน้าสร้าง New Growth Engine ผ่านความร่วมมือของกลุ่มธุรกิจในเครือ TQMalpha เพื่อรองรับการเติบโตระยะยาว ขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมมากขึ้น 

     อย่างไรก็ตาม เรือใหญ่อย่าง TQM จะเติบโต 5-10% แต่ธุรกิจประกันภัยและบริษัทในเครือต่างๆ ยังคงเติบโตสูงที่ 30% 

     ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TQMalpha กล่าวว่า สำหรับปี 2568 บริษัทได้วาง 5 กลยุทธ์หลักเพื่อผลักดันองค์กรให้เติบโตตามเป้าหมาย ได้แก่

     1. รักษาความเป็นผู้นำในตลาดประกันภัยรถยนต์

     2. สร้าง New S-Curve ผ่านธุรกิจ Non-Motor Insurance 

     3. พัฒนาช่องทาง Digital ให้ครบวงจร 

     4. ปรับโครงสร้างธุรกิจสินเชื่อ ลดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ หันมามุ่งเน้นสินเชื่อความเสี่ยงต่ำ และสินเชื่อเพื่อการซื้อเบี้ยประกัน 

     5. Synergy กับบริษัทในเครือ เพื่อเพิ่มรายได้และขยายโอกาสธุรกิจ ในตลาด B2B ผ่านความร่วมมือกับบริษัทในเครือ ได้แก่ TQR, My Group, BUILK ONE ,True Life TRUE EXTRA และ Easy Lending

     นอกจากนี้ TQMalpha ยังเตรียมพาบริษัทลูก เช่น My Group, BUILK ONE ,True Life TRUE EXTRA และ Easy Lending เข้าทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (หุ้น IPO) ทั้งนี้มีบริษัทลูกที่เตรียมงบการเงินและ internal control ไว้พร้อมสำหรับ FA ในการทำ Filing แล้ว แต่ด้วยสภาวะตลาดที่ไม่ค่อยดีนักถือว่าซบเซามากที่สุดเท่าที่เห็นมาในช่วง 30 ปี จึงยังไม่เดินหน้าในขณะนี้ และจะรอจังหวะรอให้สภาวะตลาดเข้าที่จะสามารถเรียก FA เข้ามาทำ Filing ได้ภายใน 1 ปี

      ทั้งนี้ การนำบริษัทลูกเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เชื่อว่าจะทำให้ทั้งรายได้และผลกำไรสะท้อนเข้ามาในบริษัทแม่มากขึ้นและเห็นได้ชัดเจน รวมถึงการ Synergy ต่างๆ และจะทำให้รายได้เพิ่มขึ้นด้วยดังนั้นระยะยาวเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อบริษัท

     สุดท้ายนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การพัฒนาช่องทางดิจิทัล เช่น Big Data และ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงตามความต้องการของลูกค้า พร้อมร่วมมือกับบริษัทประกันภัยชั้นนำเพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้น



ภาพ: TQM



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ประกันสุขภาพในไทย 'เคลมสูง' แค่ไหน จนต้องเริ่มใช้เกณฑ์ใหม่ Copay ให้ร่วมจ่ายค่ารักษาฯ ในปีถัดไป

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine