SCBX ประกาศเลื่อนปิดแอปฯ Robinhood เฉพาะส่วน Food delivery 'ออกไปก่อน' เผยคนสนใจซื้อกิจการเยอะ - Forbes Thailand

SCBX ประกาศเลื่อนปิดแอปฯ Robinhood เฉพาะส่วน Food delivery 'ออกไปก่อน' เผยคนสนใจซื้อกิจการเยอะ

บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ขอเรียนว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 17/2567 เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2567 คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้เลื่อนการยุติการให้บริการส่งอาหารของแอปพลิเคชัน Robinhood ออกไป เนื่องจากบริษัทอยู่ในระหว่างการพิจารณาข้อเสนอเข้าซื้อกิจการทั้งหมดจากผู้ที่สนใจ ซึ่งมีจำนวนมากกว่าที่คาดไว้ โดยยังคงการยุติการให้บริการส่วนอื่นตามกำหนดเดิม คือในวันที่ 31 กรกฏาคม 2567


    ทางบริษัทฯ ยังคงมีความตั้งใจและพยายามอย่างเต็มที่ ที่จะทำให้แอปพลิเคชัน Robinhood ซึ่งเกิดขึ้นจากการพัฒนาโดยคนไทยเพื่อคนไทย มีโอกาสที่จะได้ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน อันจะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ทั้งผู้บริโภค ร้านค้า และผู้ขับขี่ Robinhood ทุกท่าน

    ทั้งนี้ เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เอสซีบี เอ็กซ์ เคยประกาศไว้ว่าจะยุติการให้บริการแอปพลิเคชัน Robinhood ว่า ตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2567 เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป ลูกค้าจะไม่สามารถใช้บริการแอปพลิเคชัน Robinhood ได้เป็นการถาวร รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้า ไรเดอร์ ผู้ขับรถยนต์โดยสาร สามารถใช้บริการแอปพลิเคชัน Robinhood Shop, Robinhood Rider, Robinhood Driver เพื่อทำธุรกรรมต่างๆ ได้จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 เวลา 20.00 น.
    ช่วงที่ผ่านกลุ่มไรเดอร์ของบริษัท ได้มีการสอบถามถึงมาตรการรองรับในกรณีต่างๆ  ทั้งส่วนค่าใช้จ่ายเพื่อเข้าเริ่มงาน (เช่น เงินประกัน 400 บาท, ค่าเครื่องแบบ ฯลฯ) สัญญาเช่ารถ EV และสินเชื่อที่ไรเดอร์และร้านค้ามีกับแพลตฟอร์ม หลังการประกาศยุติการให้บริการทั้งหมดภายในแอปฯนี้ ซึ่งมีกระแสข่าวว่าลูกหนี้สินเชื่อโรบินฮู้ดต้องชำระคืนสินเชื่อคงค้างทั้งหมดในวันที่ 30 กรกฎาคม 67 นั้น 

    ต่อมาทาง Robinhood จึงมีการเปิดเผยเพิ่มเติมว่า เรื่องการชำระคืนสินเชื่อโรบินฮู้ด ลูกค้าไม่จำเป็นต้องปิดยอดทั้งหมดภายในวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 ตามที่มีการสื่อสารออกไปก่อนหน้า แต่สามารถชำระสินเชื่อคงค้างได้ตามปกติจนกว่าจะครบยอด 

    


เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : SCBX แจ้งยุติการให้บริการแอปพลิเคชัน Robinhood มีผลตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค. 2567

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine