บมจ. ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น มั่นใจแม้เศรษฐกิจจะยากลำบาก แต่จากต้นปี 67 ความต้องการสินเชื่อยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ปี 2567 นี้ยังคาดว่าสินเชื่อของบริษัทฯ จะเติบโต 10-15% จากปีก่อน ล่าสุด เปิดตัวแอป “ศรีสวัสดิ์” เผยปี 68 เตรียมเปิดบริการให้ลูกค้าใหม่ขอสินเชื่อ-เปรียบเทียบประกัน
นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) กล่าวว่า ปี 2567 นี้เศรษฐกิจอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ขณะเดียวกันยังเห็นความต้องการของสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น ส่วนหนึ่งอาจเพราะธนาคารมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ รวมถึงคนต้องการเงินด่วนเพิ่มมากขึ้น
ในส่วนของศรีสวัสดิ์ ท่ามกลางสถานการณ์นี้ยังคงเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเช่นกัน โดยมีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นมาสู่ระดับ 50% สูงกว่าช่วงก่อนหน้า โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อ ในปี 2567 นี้ ยังตั้งเป้าหมายควบคุมหนี้เสียให้ไม่เกิน 3.5% ซึ่งเป็นระดับปกติของบริษัท
ขณะที่ปี 2567 นี้คาดว่าพอร์ตสินเชื่อจะขยายตัว 10-15% โดยจะมียอดสินเชื่อราว 98,000 ล้านบาท ผ่านการขยายสินเชื่อในสาขาที่มีอยู่ราว 5,500-5,600 สาขา ซึ่งในสถานการณ์ดอกเบี้ยขาลงที่เกิดขึ้นมองว่า ภาพรวมจะช่วยผ่อนคลายมากขึ้น และยังส่งผลดีต่อต้นทุนที่เกี่ยวกับบริษัท
กลยุทธ์หลักของบริษัทในปีนียังคงมุ่งเน้นการเข้าถึง และเข้าใกล้ลูกค้าให้ได้มากที่สุด ช่วงที่ผ่านมาจึงใหเความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ผ่านมาตรการช่วยเหลือเช่น การขอปรับโครงสร้างหนี้ และการขยายระยะเวลาชำระเงิน อีกทั้งยังเพิ่มช่องทางแอปพลิเคชั่นเพื่อให้บริหารจัดการเงินได้ง่ายขึ้น
ล่าสุด ตั้งแต่เดือน ก.พ. 2567 ที่ผ่านมา บริษัทเปิดตัวแอปพลิเคชันชื่อ ‘ศรีสวัสดิ์’ ปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดกว่า 280,000 ครั้ง โดยมีฟีเจอร์หลัก เช่น ดูข้อมูลบัญชีสินเชื่อ, ขอเพิ่มวงเงินออนไลน์, ติดตามสถานะการขอสินเชื่อ, ชำระเงินค่างวดผ่านคิวอาร์โค้ด การแจ้งเตือนวันครบชำระค่างวดและข้อมูลต่างๆ ฯลฯ ทั้งนี้ ฟีเจอร์ที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานสูงสุดคือ การแจ้งเตือนวันครบชำระค่างวด จึงเชื่อว่าแอปฯ นี้จะช่วยให้ลูกค้าบริหารจัดการการเงินได้ดียิ่งขึ้น
ในอนาคต ทางบริษัทฯ เตรียมพัฒนาแอปฯ อย่างต่อเนื่องโดยในไตรมาส 4 ปี 2567 จะเพิ่มบริการ AI Chat ไตรมาส 1 ปี 2568 จะเพิ่มฟีเจอร์ เช่น การประเมินวงเงินขอสินเชื่อออนไลน์, ระบบสะสมแต้ม, ซื้อและต่ออายุประกันภัย เป็นต้น และภายในปีหน้าคาดว่าจะ เปิดบริการให้ลูกค้าใหม่ขอสินเชื่อออนไลน์ได้ นอกจากนี้การเพิ่มบริการด้านการประกันภัยคาดว่าจะช่วยเพิ่มรายได้ของบริษัทอีกด้วย
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ดีมานด์ 'ทองคำ' ทั่วโลกพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ไทยต้องการทองมากสุดในอาเซียนติดต่อกัน 2 ไตรมาส
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine