เปรียบเทียบ 8 บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ 'ดอกเบี้ยสูง ฝาก-ถอนได้ตลอด' ในปี 2568 - Forbes Thailand

เปรียบเทียบ 8 บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ 'ดอกเบี้ยสูง ฝาก-ถอนได้ตลอด' ในปี 2568

เมื่อต้องการวางแผนการเงิน สิ่งที่แรกที่ผู้เชี่ยวชาญต่างแนะนำคือการเก็บออมเงินฉุกเฉิน ไว้เพื่อรองรับสถานการณ์ไม่คาดฝัน ส่วนใหญ่จะแนะนำให้สำรองค่าใช้จ่ายราว 3-6 เดือนไว้ ซึ่งจะต้องเก็บไว้ในที่ที่สามารถฝากหรือเบิกถอนมาใช้ได้ตลอดเวลา หลายคนจึงเลือกเก็บในบัญชีออมทรัพย์ที่มีเงื่อนไขไม่ซับซ้อน


    วันนี้ Forbes Thailand ชวนผู้อ่านมาเปรียบเทียบ 8 ผลิตภัณฑ์เงินฝากออมทรัพย์ ที่สามารถฝาก-ถอนได้ตลอด ไม่ต้องรอดอกเบี้ยโบนัส แถมยังได้รับอัตราดอกเบี้ยสูงตั้งแต่ 1.5-5.5% ต่อปี

    เริ่มกันที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากสูงที่สุดใน 8 ผลิตภัณฑ์เงินฝากออมทรัพย์ ได้แก่ ออมทรัพย์ดิจิทัล บียู เวลท์ จากธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH Bank) จุดเด่นคือให้อัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่ 5.5% ต่อปี ในวงเงิน 100,000 บาทสุดท้ายของแต่ละล้าน สูงสุด 4 ล้านบาท มีขั้นต่ำในการเปิดบัญชี 500 บาท
     ตัวอย่างเช่น หากฝากเงินที่ 1,000,000 บาท ในเงินฝากส่วนที่ไม่เกิน 900,000 บาทจะได้รับอัตราดอกเบี้ย 1.5% ต่อปี ส่วนที่เกิน 900,000 ถึง 1,000,000 บาท จะได้รับอัตราดอกเบี้ย 5.5% ต่อปี ดังนั้นในเงินฝาก 1 ล้านบาทจะได้รับดอกเบี้ยฯ เฉลี่ย 1.91% ต่อปี

    รองลงมา มี 2 ผลิตภัณฑ์ที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่ 3% ต่อปี เฉพาะยอดเงินฝากที่ไม่เกิน 10,000 บาท ได้แก่

    - KKP Dime! save จากธนาคารเกียรตินาคินภัทร โดยยอดเงินฝากที่ 30,001 - 1,000,000 บาท ได้รับอัตราดอกกเบี้ยที่ 1.50% ต่อปี และยอดเงินฝากที่มากกว่า 1,000,000 บาท ได้รับอัตราดอกกเบี้ยที่ 0.50% ต่อปี

    - ออมทรัพย์ดิจิทัล บียู แม็กซ์ จาก LH Bank โดยยอดเงินฝากส่วนที่เกิน 10,000 บาท ถึง 100 ล้านบาท ได้รับอัตราดอกกเบี้ยที่ 0.25% ต่อปี มีขั้นต่ำในการเปิดบัญชี 500 บาท

    ถัดมาคือ เงินฝากออมทรัพย์ชิลดี ซีไอเอ็มบี ไทย จากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) ให้อัตราดอกเบี้ยสูงสุด 2.88% ต่อปี เฉพาะยอดเงินส่วนที่เกิน 50,000 ถึง 100,000 บาท โดยมีรายละเอียดอัตราดอกเบี้ยฯ ดังนี้

        ยอดเงินที่ไม่เกิน 0 - 10,000 บาท ให้อัตราดอกเบี้ย 0.50% ต่อปี

        ยอดเงินส่วนที่เกิน 10,000 - 50,000 บาท ให้อัตราดอกเบี้ย 1.80% ต่อปี

        ยอดเงินส่วนที่เกิน 50,000 - 100,000 บาท ให้อัตราดอกเบี้ย 2.88% ต่อปี

        ยอดเงินส่วนที่เกิน 100,000 บาทขึ้นไป ให้อัตราดอกเบี้ย 0.20% ต่อปี

    จุดเด่นของเงินฝากออมทรัพย์ชิลดี ซีไอเอ็มบี ไทย คือ จะได้รับบัตรเดบิต ฟรีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและปีแรก รวมถึงบัตรเดบิตนี้สามารถใช้ถอนเงินสดจากตู้ ATM จากต่างธนาคารและข้ามเขตได้ฟรีค่าธรรมเนียม (ทำรายการที่เครื่อง ATM ได้วันละ 8 ครั้ง)

    ทั้งนี้ มี 3 ผลิตภัณฑ์เงินฝากที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงสุด 2% ได้แก่

    - ออมทรัพย์อัลฟา (ไม่มีสมุดคู่ฝาก) จากธนาคารไทยเครดิต ผู้เขียนมองว่าเป็นบัญชีออมทรัพย์ที่เหมาะกับการฝากเงินฉุกเฉิน หรือเงินที่ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เพราะให้วงเงินฝากดอกสูงมากกว่าธนาคารอื่นๆ

        ยอดเงินฝากไม่เกิน 500,000 บาท ให้อัตราดอกเบี้ยที่ 2% ต่อปี

        ยอดเงินฝากส่วนเกิน 500,000 บาท ให้อัตราดอกเบี้ย 0.7% ต่อปี

    - KKP Start Saving จากธนาคารเกียรตินาคินภัทร ที่สามารถเปิดบัญชีผ่านแอปฯ TrueMoney Wallet

        ยอดเงินฝากไม่เกิน 50,000 บาท ให้อัตราดอกเบี้ยที่ 2% ต่อปี

        ยอดเงินฝากที่ 50,001 ถึง 1,500,000 บาท ให้อัตราดอกเบี้ย 1.55% ต่อปี

        ยอดเงินฝากที่ 1,500,000 บาท ให้อัตราดอกเบี้ย 0.50% ต่อปี

    - ออมทรัพย์ TISCO My Savings จากธนาคารทิสโก้ มีขั้นต่ำในการเปิดบัญชี 1,000 บาท

        ยอดเงินฝากไม่เกิน 70,000 บาท ให้อัตราดอกเบี้ยที่ 0.25% ต่อปี

        ยอดเงินฝากส่วนที่เกิน 70,000 ถึง 100,000 บาท ให้อัตราดอกเบี้ยที่ 2% ต่อปี

        ยอดเงินฝากส่วนที่เกิน 100,000 ถึง 1,000,000 บาท ให้อัตราดอกเบี้ยที่ 0.80% ต่อปี

    เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม จากธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ยอดเงินฝากไม่เกิน 200,000 บาท ให้อัตราดอกเบี้ยที่ 1.85% ต่อปี ยอดเงินส่วนเกิน 200,000 บาท จะได้เรทอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ปกติของธนาคาร (มีการเปลี่ยนแปลงได้) โดยมีขั้นต่ำในการเปิดบัญชี 500 บาท



    นอกจากนี้ ในส่วนของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ยังมีเงินฝากออมทรัพย์ ในรูปแบบดิจิทัลที่ใช้คู่กับ Mobile banking ของธนาคาร แต่ให้ดอกเบี้ยสูงที่ 1.5% ต่อปี ฝากถอนได้ทุกเมื่อ ไม่มีเงื่อนไขซับซ้อน ได้แก่

    - เงินฝากออมทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์ (K-eSavings) ที่วงเงินไม่เกิน 500,000 บาท จะได้รับอัตราดอกเบี้ย 1.5% ต่อปี ยอดเงินฝากส่วนที่เกิน 500,000 บาท จะได้รับอัตราดอกเบี้ย 0.55% ต่อปี สามารถเปิดบัญชีได้โดยไม่มีเงินฝากขั้นต่ำ

    - เงินฝากออมทรัพย์อีซี่ ในยอดเงินฝากไม่เกิน 2,000,000 บาท จะได้รับอัตราดอกเบี้ย 1.5% ต่อปี และยอดเงินฝากส่วน 2,000,001 - 3,000,000 บาท จะได้รับอัตราดอกเบี้ย 1.00% ต่อปี ทั้งนี้มีขั้นต่ำในการเปิดบัญชี 500 บาท

    - เงินฝากออมทรัพย์ Krungthai NEXT Savings เงินฝากส่วนที่ไม่เกิน 2,000,000 บาทจะได้รับอัตราดอกเบี้ย 1.5% ต่อปี เงินฝากส่วนที่เกิน 2,000,000 บาทขึ้นไป จะได้รับอัตราดอกเบี้ย 0.55% ต่อปี โดยไม่มีขั้นต่ำในการเปิดบัญชี

    ทั้ง 11 ผลิตภัณฑ์เงินฝากออมทรัพย์ เป็นส่วนหนึ่งของเงินฝากดอกเบี้ยสูงที่ธนาคารของไทยเปิดให้ประชาชนสามารถเปิดบัญชีได้ง่าย และเข้าถึงการออมเงินได้มากขึ้น แต่แนะนำว่าควรศึกษารายละเอียดเรื่องค่ารักษาบัญชี ยอดเงินฝากขั้นต่ำ รวมถึงค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมที่สาขา รวมถึงแบ่งการเก็บเงินฉุกเฉินมากกว่า 1 บัญชีเพื่อป้องกันความเสี่ยงในวันที่ระบบธนาคารแห่งนั้นอาจจะล่มหรือมีปัญหา



ภาพ: ธัญวดี นิรุตติศาสตร์, rorozoa on Freepik



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : มีเงิน 1,000,000 บาท ปี 2568 ซื้อสลากออมทรัพย์ที่ไหนดี

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine