กระทรวงการคลังเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยของ Non-Banks ภายใต้โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ล่าสุดเปิดทาง Non-Banks เข้าร่วม เบื้องต้นได้แก่ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) และบริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสถาบันการเงิน ได้มีการดำเนินโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” สำหรับลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) ในการลดภาระค่างวดในการชำระหนี้และยกเว้นดอกเบี้ยซึ่งจะช่วยให้ลูกหนี้ที่เข้าร่วมมาตรการมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นและปิดจบหนี้ได้เร็วขึ้นนั้น ทั้งนี้ เพื่อให้การช่วยเหลือครอบคลุมถึงลูกหนี้รายย่อยของผู้ให้บริการทางการเงินที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-Banks) และสอดคล้องกับการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยของธนาคารพาณิชย์ และ SFIs
กระทรวงการคลังจึงได้ร่วมกับ ธปท.เสนอมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยของ Non-Banks ภายใต้โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” และจัดทำหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และกระบวนการเบิกจ่ายโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) สำหรับผู้ประกอบธุรกิจ Non-Banks ของธนาคารออมสิน เพื่อเป็นการส่งผ่านความช่วยเหลือจากภาครัฐไปยังลูกหนี้รายย่อยของ Non-Banks ซึ่งคณะรัฐมนตรีในคราวการประชุม เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 ได้มีมติเห็นชอบมาตรการดังกล่าวตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวว่า ในเบื้องต้นได้รับทราบว่ามี Non-Banks เข้าร่วมมาตรการได้แก่บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) และบริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) โดยลูกหนี้รายย่อยของ Non-Banks ดังกล่าวจะได้รับการช่วยเหลือภายใต้โครงการ“คุณสู้ เราช่วย” ผ่าน 2 มาตรการ ดังนี้
1) มาตการ “จ่ายตรง คงทรัพย์” หรือมาตรการปรับโครงสร้างหนี้แบบลดภาระดอกเบี้ยโดยการเน้นตัดต้นเงิน เป็นการช่วยเหลือลูกหนี้สินเชื่อรถยนต์วงเงินไม่เกิน 800,000 บาท ลูกหนี้สินเชื่อรถจักรยานยนต์วงเงินไม่เกิน 50,000 บาท ลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มีวงเงินรวมไม่เกิน 200,000 บาท สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลที่มีวงเงินรวมไม่เกิน 20,000 บาท และสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ที่มีวงเงินรวมไม่เกิน 50,000 บาท
โดยมาตรการนี้จะช่วยเหลือลูกหนี้ Non-Banks ผ่านการลดภาระผ่อนชำระ 3 ปี เหลือเพียงร้อยละ 70 และลดดอกเบี้ยให้ร้อยละ 10 เช่น จากเดิมร้อยละ 25 ต่อปี เป็นร้อยละ 15 ต่อปี ตลอดระยะเวลา 3 ปี โดยดอกเบี้ยส่วนที่ลดให้ดังกล่าวจะพักชำระไว้ทั้งหมด และยกเว้นให้หากลูกหนี้สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขได้ตลอดระยะเวลาของมาตรการ
2) มาตรการ “จ่าย ปิด จบ” หรือมาตรการลดภาระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ที่ถูกจัดชั้นเป็นหนี้เสีย (Non-performing Loan: NPLs) ที่มียอดคงค้างหนี้ไม่เกิน 5,000 บาท โดยจะช่วยเหลือโดยการปรับโครงสร้างหนี้แบบผ่อนปรนให้ลูกหนี้ชำระหนี้เพียงบางส่วน เพื่อปิดหนี้ได้ทันที
ทั้งนี้ เพื่อจูงใจให้ผู้ประกอบการ Non-Banks ให้ความช่วยเหลือแก่ลูกหนี้รายย่อยตามมาตรการที่กำหนด กระทรวงการคลังได้จัดทำโครงการ Soft Loan สำหรับผู้ประกอบธุรกิจ Non-Banks ของธนาคารออมสิน วงเงินรวม 50,000 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 3 ปี และกำหนดให้วงเงินสินเชื่อของ Non-Banks ต่อรายสูงสุดไม่เกิน 5,000 ล้านบาท โดยวงเงินสินเชื่อแต่ละรายขึ้นอยู่กับปริมาณการสูญเสียรายได้ของ Non-Banks แต่ละแห่ง ที่เกิดจากการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้
นอกจากนี้ รัฐบาลจะชดเชยต้นทุนเงินให้กับธนาคารออมสินในอัตราร้อยละ 2.00 ต่อปี เป็นระยะเวลา 3 ปี รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 3,000 ล้านบาท เพื่อส่งผ่านความช่วยเหลือจากภาครัฐไปยังลูกหนี้รายย่อยของ Non-Banks
“มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยของ Non-Banks ภายใต้โครงการคุณสู้ เราช่วย คาดว่ามีลูกหนี้ของ Non-Banks เข้าข่ายได้รับความช่วยเหลือประมาณ 1.7 ล้านบัญชียอดคงค้างประมาณ 50,000 ล้านบาท ซึ่งการขยายความช่วยเหลือในครั้งนี้จะทำให้ลูกหนี้รายย่อยที่สามารถเข้าร่วมโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ครอบคลุมลูกหนี้ทุกกลุ่ม ทั้งลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์ SFIs รวมถึงลูกหนี้ของ Non-Banks และโครงการนี้มุ่งเน้นให้เจ้าหนี้ปรับโครงสร้างหนี้ให้สอดคล้องกับศักยภาพของลูกหนี้ เน้นการตัดเงินต้นเพื่อให้ลูกหนี้ปิดจบหนี้ได้เร็วขึ้น และเพิ่มโอกาสให้ลูกหนี้สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการผลักดันให้เกิดการปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบและแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างเป็นรูปธรรม” นายพรชัยกล่าว
ภาพ: กระทรวงการคลัง, Joshua Rawson-Harris on Unsplash
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : อีสท์สปริง คาดตลาดหุ้นไทยปี 68 เข้ากรอบ 1,270-1,350 จุด หากกระทบสงครามการค้าหนักอาจเห็น 1,219 จุด
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine