ธนาคารกสิกรไทย เปิดงบครึ่งปีแรก 2567 กำไรสุทธิแตะ 26,139 ล้านบาท ขยายตัว 20.26%YoY สาเหตุเพราะรายได้ดอกเบี้ยสุทธิยังเพิ่มขึ้น ปีนี้ยังต้องตับตาความเสี่ยงภาคครัวเรือนที่ค่าใช้จ่ายสูง และรายได้ฟื้นตัวช้า
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBank เปิดเผยว่า ช่วงไตรมาส 2 ปี 2567 กิจกรรมทางเศรษฐกิจของไทยยังมีสัญญาณฟื้นตัวช้าและไม่ทั่วถึง แม้จะมีแรงหนุนจากการทยอยเบิกจ่ายเงินของภาครัฐ และการท่องเที่ยว ส่วนการผลิตภาคอุตสาหกรรมและการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนยังเผชิญแรงกดดันจากด้านต้นทุน ภาระหนี้สิน รวมถึงรายได้ที่ยังฟื้นตัวในกรอบจำกัด
สำหรับในครึ่งปีหลัง 2567 นี้เศรษฐกิจไทยจะประคองการเติบโตได้ตามการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ และการส่งออกที่ฐานที่ต่ำในปีก่อน แต่คงต้องติดตามผลกระทบต่อภาคธุรกิจจากแนวโน้มต้นทุนที่ปรับสูงขึ้นตามค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ รวมถึงรายละเอียดและความชัดเจนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในช่วงที่เหลือของปี 2567 โดยธนาคารฯ ยังเดินหน้าตามยุทธศาสตร์ 3+1 ภายใต้บริบทของเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอน
ด้านผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปี 2567 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 12,653 ล้านบาท ลดลง 6.18% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ผลจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิลดลง โดยได้ตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) 11,672 ล้านบาท ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนตามหลักความระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับมือความไม่แน่นอน
ในช่วงไตรมาส 2/67 ธนาคารได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อเพื่อช่วยเหลือลูกค้าปัจจุบันที่เป็นกลุ่มเปราะบางให้สามารถฟื้นตัวได้ดีขึ้น
ผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือน ปี 2567 ที่น่าสนใจ ได้แก่
- กำไรสุทธิที่ 26,139 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.26% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)
- รายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่มีจำนวน 75,996 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.18%YoY ตามภาวะตลาด
- อัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (NIM) อยู่ที่ระดับ 3.73%
- รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยสุทธิ อยู่ที่ 24,585 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.58%YoY
- การตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) อยู่ที่ 25,476 ล้านบาท ลดลง 8.32%YoY ซึ่งตั้งสำรองฯ ตามหลักความระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความไม่แน่นอนของปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจ
- ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆ มีจำนวน 42,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.82% จากค่าใช้จ่ายทางการตลาดสอดคล้องกับรายได้ที่เพิ่มตามปริมาณธุรกิจ และค่าใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการขยายช่องทางการให้บริการลูกค้า
- อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Cost to income ratio) อยู่ที่ระดับ 42.35% ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
- สินเชื่อด้อยคุณภาพ อยู่ที่ 92,447 ล้านบาท ลดลง 0.89% จากสิ้นเดือน มี.ค. 67
- เงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (%NPL gross) อยู่ที่ระดับ 3.18% ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
ณ 30 มิ.ย. 2567 ธนาคารและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมจำนวน 4,247,540 ล้านบาท ลดลง 0.84% จากสิ้นปี 2566 อย่างไรก็ตาม เงินให้สินเชื่อสุทธิอยู่ในระดับทรงตัว ตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้าและไม่ทั่วถึง ประกอบกับการยกระดับกระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพการปล่อยสินเชื่อใหม่อย่างมีคุณภาพสะท้อนการบริหารความสมดุลของความเสี่ยงและผลตอบแทนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม สำหรับอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงของกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทยตามหลักเกณฑ์ Basel III ณ 30 มิ.ย. 2567 อยู่ที่ 19.42%
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : แบงก์กรุงเทพ เผยกำไรสุทธิ ครึ่งแรกปี 2567 ที่ 22,330 ล้านบาท โต 4.2%
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine