อัปเดต! ครม. เห็นชอบร่างพรบ. ธุรกิจสถานบันเทิงฯ มีกาสิโนไม่เกิน 10% ของพื้นที่ คนไทยมีเงินฝากประจำ 50 ล้านบาท เข้าพนันได้ - Forbes Thailand

อัปเดต! ครม. เห็นชอบร่างพรบ. ธุรกิจสถานบันเทิงฯ มีกาสิโนไม่เกิน 10% ของพื้นที่ คนไทยมีเงินฝากประจำ 50 ล้านบาท เข้าพนันได้

Entertainment Complex หรือร่าง พรบ.ธุรกิจสถานบันเทิงฯ ที่หลายฝ่ายจับตามองว่าไทยจะยกธุรกิจการพนันขึ้นมาไว้บนดิน และมีกาสิโนที่ถูกกฎหมายเหมือนที่หลายประเทศทำกัน โดยล่าสุด 27 มี.ค. 68 ครม. ครม.เห็นชอบ ร่าง พรบ. ธุรกิจสถานบันเทิงฯ ตามข้อเสนอของกฤษฎีกา พร้อมส่งสภาฯพิจารณาต่อไป


ครม. เห็นชอบพรบ.ฯ ตั้งกาสิโนไทย

    นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... (ร่างพรบ. ธุรกิจสถานบันเทิงฯ) หรือ Entertainment Complex (จัดทำโดยกระทรวงการคลัง) ไปเมื่อ 13 ม.ค. 68 โดยหลังจากนั้นได้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาต่อ

    ล่าสุด 27 มี.ค. 68 นี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งที่ 12 พิจารณาเห็นชอบร่างพรบ. ธุรกิจสถานบันเทิงฯ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ และได้แก้ไขเพิ่มเติมใน 4 ประเด็นหลัก (รายละเอียดอยู่ในส่วนถัดไป) โดยขั้นตอนหลังจากนี้จะเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาต่อไป เพื่อพิจารณาในวาระรับหลักการ และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา และแปรญัตติภายในระยะเวลาที่สภาฯ กำหนด


สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแก้ไข/เพิ่มเติม 4 หลักการ

    อย่างไรก็ตาม ทั้ง 4 ประเด็นหลักที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมในรายละเอียด ได้แก่

    1. กำหนดให้นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้รักษาการตามกฎหมายร่วมกัน (เดิมกำหนดให้เป็นนายกรัฐมนตรี)

    2. เพิ่มเติมหน้าที่และอำนาจของ คกก. นโยบาย ในการพิจารณาเรื่องสำคัญที่ต้องเสนอ ครม. เช่น เสนอแนะนโยบายการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือการกำหนดพื้นที่ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อประกอบการ พิจารณาของ ครม.

    3. แก้ไขกลไกการได้มาซึ่งผู้อำนวยการ โดยให้ คกก. นโยบายแต่งตั้ง (จากเดิม คกก. นโยบายแต่งตั้ง โดยความเห็นชอบของ ครม.)

    4. กำหนดกรอบนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรที่ คกก. นโยบายเสนอแนะต่อ ครม.อย่างน้อยต้องประกอบด้วย

        4.1 การกำหนดจำนวนใบอนุญาต

        4.2 พื้นที่ที่จะอนุญาตให้ตั้งสถานบันเทิงครบวงจร

        4.3 หลักเกณฑ์การพิจารณาร่วมลงทุนกับเอกชนหรือให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน

        4.4 มาตรการป้องกัน แก้ไข และเยียวยาผลกระทบอันอาจเกิดขึ้นจากการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร

        4.5 กำหนดเพิ่มเติมให้พื้นที่ที่จะอนุญาตให้ตั้งสถานบันเทิงครบวงจรต้องมีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ประกอบด้วย

        4.6 (กำหนดใหม่) ให้กำหนดสัดส่วนพื้นที่ของกาสิโน โดยเฉพาะสถานที่จัดให้มีการเล่นพนันซึ่งจะต้องไม่เกินร้อยละ10 ของที่ดินหรือพื้นที่ใช้สอยของอาคารอันเป็นที่ตั้งของสถานบันเทิงครบวงจร แล้วแต่กรณีใดจะน้อยกว่ากัน

        4.7 (กำหนดใหม่) กำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสถานบันเทิงถือว่าเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตเกี่ยวกับการก่อสร้างและใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจตามประเภทธุรกิจที่ระบุไว้ในใบอนุญาต และให้ถือว่าผู้ได้รับใบอนุญาตที่จัดให้มีกาสิโนเป็นสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

        4.8 (กำหนดใหม่) กำหนดให้ คกก. นโยบาย กำหนดหลักเกณฑ์เพื่อควบคุมการประกอบการกาสิโนโดยต้องมี (1) การจัดให้มีมาตรการป้องกันการฟอกเงิน (2) ระบบควบคุมกาสิโน ที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ และ (3) มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเกิดจากกาสิโน (เดิมไม่มี)

        4.9 กำหนดให้บุคคลสัญชาติไทยซึ่งจะเล่นพนันในกาสิโนต้องมีเงินฝากในบัญชีเงินฝากประจำไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท ต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน และผ่านการตรวจสอบตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ คกก. บริหาร กำหนด (เดิมกำหนด ห้ามเฉพาะผู้มีสัญชาติไทยซึ่งยังมิได้ลงทะเบียนและชำระค่าธรรมเนียมตามที่ คกก. กำหนด)

        4.10 (กำหนดใหม่) ห้ามผู้รับใบอนุญาตหรือบุคคลใดจ้างหรือให้ผลประโยชน์ตอบแทนอื่นใดแก่บุคคลอื่น หรือเพิ่มยอดหรือจำนวนคนเล่นพนันในกาสิโน หรือเพื่อเพิ่มจำนวนเงินที่ใช้จ่ายในการเล่นพนันในกาสิโน (เดิมไม่มี)

        4.11 เพิ่มเติมมาตรการปรับเป็นพินัย เช่น ผู้รับใบอนุญาตที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้อำนวยการที่สั่งให้ปฏิบัติข้อกำหนด และปล่อยปละละเลยหรือยินยอมให้บุคคลต้องห้ามเข้าไปในกาสิโน

        4.12 เพิ่มเติมลักษณะการกระทำความผิดที่จะได้รับโทษทางอาญา เช่น การจัดให้มีการเล่นพนันในกาสิโนผ่านการเชื่อมต่อระบบคอมพิวเตอร์ หรือถ่ายทอดการเล่นพนันในกาสิโน และกระทำการที่เป็นการเพิ่มยอดหรือเพิ่มจำนวนคนเล่นพนันหรือเพิ่มจำนวนเงินที่ใช้จ่ายในการเล่นพนันในกาสิโน

    นายจิรายุ กล่าวว่า พรบ.ฉบับนี้ ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน มาแล้ว 4 ครั้ง ในช่วงที่ผ่านมา โดยครั้งที่ 4 ได้ดำเนินการตามกฎหมาย ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. - 14 มี.ค. 2568 รวมเวลา 15 วันมีผู้แสดงความคิดเห็น 71,289 คน มีผู้เห็นด้วย 80% จำนวน 57,000 คน (ทั้งนี้ไม่ได้เปิดเผยผลการรับฟังความเห็นทั้งหมด) และยังยืนยันว่ารัฐบาลจะสนับสนุนส่งเสริมในส่วนของ Entertainment Complex ที่จะส่งเสริมการกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุน และการท่องเที่ยวของประเทศเป็นหลัก โดยจะไม่เน้นเรื่องกาสิโนที่มีอยู่เพียงแค่ 10% และจะดำเนินการตามพรบ. อย่างเคร่งครัด

อ่านมุมมองคลังต่อพรบ. สถานบันเทิง ย้ำกฎต้องเคร่งครัด

    ​จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงฯ มี 7 หมวด 104 มาตรา ซึ่งสาระสำคัญคือ กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร (คณะกรรมการนโยบายฯ) สามารถเสนอแนะนโยบายที่เกี่ยวข้องต่อครม. และสามารถกำหนดหลักเกณฑ์ต่างๆ รวมถึงการพิจารณาและออกคำสั่งเกี่ยวกับใบอนุญาต (การออก, ต่ออายุ, เพิกถอนฯ) 

    ที่สำคัญจะมีการตั้งสำนักงานควบคุมการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อควบคุม กำกับดูแล ติดตาม ตรวจสอบ ส่งเสริมและสนับสนุนการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร 

    ทั้งนี้  Entertainment Complex ต้องตั้งอยู่ในพื้นที่กำหนดไว้ และต้องทำธุรกิจสถานบันเทิงตามบัญชีแนบท้ายร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงฯ (เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงแรม สถานบริการ สนามกีฬายอร์ชและครูซซิ่งคลับ สถานที่เล่นเกม สระว่ายน้ำและสวนน้ำ สวนสนุก เป็นต้น) อย่างน้อย 4 ประเภท ร่วมกับกาสิโน โดยกาสิโนต้องมีสัดส่วนไม่เกิน 10% ของที่ดินหรือพื้นที่ใช้สอยของอาคารที่ตั้ง และอนุญาตให้มีการพนันได้เฉพาะประเภทที่กำหนด รวมทั้งต้องจัดให้มีเขตบริเวณของสถานประกอบการกาสิโนที่แยกห่างจากสถานประกอบธุรกิจสถานบันเทิงอื่นอย่างชัดเจน และห้ามบุคคลที่อายุน้อยกว่า 20 ปี เข้ากาสิโน นอกจากนี้ สถานบันเทิงครบวงจรจะต้องประกอบด้วยพื้นที่สำหรับส่งเสริมสินค้า บริการและศิลปวัฒนธรรมไทย ไม่น้อยกว่า 10% ของพื้นที่ทั้งหมดอีกด้วย


Photo by Carl Raw on Unsplash



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ‘Entertainment Complex’ กาสิโนไทย โอกาสหรือความเสี่ยงของคนไทย

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine