หากพูดถึงสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ หลายคนอาจนึกถึงกลุ่มผู้ที่ต้องการสภาพคล่องหรือเงินหมุนให้เร็วที่สุดแม้ดอกเบี้ยสูง แต่ก็พร้อมกู้ แต่ปัจจุบันกลับพบว่า กลุ่มผู้ใช้รถหรู รถยุโรป หรือ Supercar หากขาดสภาพคล่องก็หันมาใช้สินเชื่อจำนำทะเบียนมากขึ้นด้วย
นายวิสิทธิ์ พึ่งพรสวรรค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีไอเอ็มบี ไทย ออโต้ จำกัด บริษัทในเครือธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย CIMBT เล่าว่า ช่วงที่ผ่านมาการแข่งขันสินเชื่อรถยนต์ขยับจากรถยนต์ใหม่มายังที่ตลาดรถมือสองมากขึ้น กระทั่งช่วงปี 2566 - 2567 ราคารถยนต์มือสองที่ลดลงรุนแรงในบางช่วงไปถึง 50% (ปกติจะลดลงเฉลี่ยไม่เกิน 40%) ส่งผลให้หลายบริษัทขาดทุนจัดการขายรถ และจึงเห็นการปรับกลยุทธ์มาเน้นลูกค้าที่มีประวัติการผ่อนชำระดีมากขึ้น รวมถึงยังเห็นการเพิ่มเงินดาวน์เพื่อเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ
อย่างไรก็ตาม ปี 2567 นี้ในพอร์ตของธนาคาร CIMBT ส่วนสินเชื่อเช่าซื้อยานยนต์ปรับตัวดีขึ้นมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 ส่วนหนึ่งอาจเพราะมาตรการช่วยเหลือของรัฐที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง และมองถึงปี 2568 เชื่อว่าตลาดสินเชื่อรถยนต์จะกลับมาฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น และภาวะดอกเบี้ยนโยบายขาลงที่เป็นผลดีต่อเช่าซื้อ (คาดว่าไตรมาส 1 และ 2 ปี 2568 อาจเห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยลงราว 0.5-1%)
ดังนั้น กลยุทธ์ของ ซีไอเอ็มบี ไทย ออโต้ จะรุกตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถมากขึ้น แม้อาจมีการแข่งขันสูง แต่ทางบริษัทฯ จะแข่งขันในกลุ่มลูกค้าที่มีประวัติการผ่อนชำระที่ดี และกลุ่มที่มีรายได้ต่อเดือน 30,000-50,000 บาทขึ้นไป ล่าสุดเปิดตัว ‘สินเชื่อรถปลดล็อค’ เป็นสินเชื่อจำนำทะเบียนรถเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการสภาพคล่อง อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.25% ต่อเดือน (3% ต่อปี) วงเงินสูงสุด 5 ล้านบาท
“ต้องยอมรับว่า ตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถแข่งขันสูง ที่เรากล้าปล่อยแคมเปญสู้ เพราะเรามั่นใจว่าตรงความต้องการลูกค้า จากการที่ทีมงานทุ่มเทศึกษาตลาดและทำการบ้านอย่างหนัก เพื่ออุด pain point ของลูกค้าทุกจุด จึงออกมาเป็นสินเชื่อรถปลดล็อก by CIMB THAI AUTO ซึ่งเราคาดว่าจะปล่อยสินเชื่อรถปลดล็อกได้ 3,000 ล้านบาทภายในปี 2568” นายวิสิทธิ์ กล่าว
นายเกรียงภพ ปานุราช รองกรรมการผู้จัดการ สินเชื่อการตลาดและบริหารสินเชื่อ บริษัท ซีไอเอ็มบี ไทย ออโต้ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันยังเห็นความต้องการสภาพคล่องสูง ซึ่งรวมถึงกลุ่มผู้ประกอบกิจการ SME ที่มีทรัพย์สินเป็นรถยนต์จึงนำมาขอสินเชื่อจำนำทะเบียนเมื่อต้องการสภาพคล่อง โดยเริ่มเห็นการนำรถยุโรป Supercar มาขอสินเชื่อจำนำทะเบียนมากขึ้น ทางบริษัทฯ จึงขยายสู่ฐานลูกค้ากลุ่มนี้และให้วงเงินสูงสุดที่ 5 ล้านบาท
“สาเหตุที่เราให้วงเงินสูงเพราะต้องการเสริมศักยภาพทางการเงินให้ลูกค้า แต่ทำการตลาดจะควบคู่ไปกับการให้ความรู้ลูกค้าในการขอสินเชื่อเท่าที่ตัวเองสามารถผ่อนได้ โดยจากการศึกษาข้อมูล พบว่าลูกค้าที่มีรถปลอดภาระมักไม่ทิ้งรถ” นายเกรียงภพ กล่าว
ทั้งนี้ สินเชื่อจำนำทะเบียนของธนาคารมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 9.95% ต่อปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยจำนำทะเบียนแบบไม่โอนเล่มที่ถือว่าอยู่ในอัตราต่ำของตลาด ขณะที่กลุ่มลูกค้าที่มีความเสี่ยงสูงกว่า ยังมีการปล่อยสินเชื่อแต่จะได้รับอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า (อัตราสูงสุดตามกฎเกณฑ์อยู่ที่ 24% ต่อปี)
อย่างไรก็ตามแผนใน 2 ปี ตั้งเป้าหมายในรถที่อายุน้อยลง จากปัจจุบันเฉลี่ยอายุรถที่ 6-10 ปี ส่วนมูลค่ารถที่นำมาจัดสินเชื่อเฉลี่ยที่ 500,000 บาทต่อคัน เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่อยู่ราว 300,000 บาทต่อคัน
วิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า พอร์ตสินเชื่อรวมของบริษัทฯ ปัจจุบันอยู่ที่ราว 31,000 ล้านบาท ทรงตัวจากปีก่อน โดยปี 2568 คาดว่าจะมียอดสินเชื่อใหม่เดือนละ 1,200 ล้านบาท จากปัจจุบันที่อยู่ราว 800 ล้านบาท (ปัจจุบันมียอดการชำระคืนเฉลี่ยเดือนละ 1,000 ล้านบาท) แต่ภายใน 3 ปีข้างหน้าตั้งเป้าหมายจะมีสินเชื่อคงค้างเช่าซื้อยานยนต์อยู่ที่ 38,000 ล้านบาทโดยแบ่งสัดส่วนเป็น
- สินเชื่อเช่าซื้อให้กับดีลเลอร์ยานยนต์ 60% (จากปัจจุบันอยู่ที่ 90%)
- สินเชื่อจำนำทะเบียนราว 20% (จากปัจจุบันอยู่ที่ 5%)
- สินเชื่อมอเตอร์ไซค์ใช้แล้วในสัดส่วน 20% (จากปัจจุบันอยู่ที่ 5%)
ขณะที่ ด้านหนี้เสียหรือ NPL ปัจจุบันอยู่ที่ 1.9% ปรับตัวดีขึ้นจากช่วงก่อนหน้า อย่างไรก็ตามในปี 2568 เชื่อว่า NPL จะลดลง ทั้งจากเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและการมุ่งเน้นลูกค้ากลุ่มคุณภาพ โดยปัจจุบันในพอร์ตของบริษัทมีการให้สินเชื่อในกลุ่มที่มีฐานข้อมูลในเครดิตบูโร (NCB) กว่า 75%
Photo by redcharlie on Unsplash, CIMBT
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : RS ประกาศลงทุน Entertainment Complex ตั้งบริษัทย่อยผนึกพาร์ทเนอร์ ปักธงภูเก็ต-พังงา
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine