กรุงศรีเผยกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกปี 2567 อยู่ที่ 23,424 ล้านบาท ลดลง 7% เหตุตั้งสำรองรับความเสี่ยงหนี้ - Forbes Thailand

กรุงศรีเผยกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกปี 2567 อยู่ที่ 23,424 ล้านบาท ลดลง 7% เหตุตั้งสำรองรับความเสี่ยงหนี้

กรุงศรีเผยกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกปี 2567 อยู่ที่ 23,424 ล้านบาท ลดลง 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เหตุตั้งสำรองรับความเสี่ยงหนี้ ตอกย้ำการบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบระมัดระวัง ภายใต้บริบทสภาวะแวดล้อมทางธุรกิจที่ไม่เอื้ออำนวย


    นายเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือ BAY กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมากรุงศรี เดินหน้าให้ความช่วยเหลือกลุ่มลูกค้าทั้งภาคธุรกิจและรายย่อยอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ความเปราะบางด้านเศรษฐกิจที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา

    ขณะที่ในปี 2567 นี้ ยังมองแนวโน้มเศรษฐกิจไทยว่าจะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่ 4 ปี 2567 โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการส่งออกที่ปรับตัวดีขึ้น การเติบโตอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว และการเร่งตัวของการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐที่ช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม การเติบโตของเศรษฐกิจอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงในเชิงลบ ได้แก่ ผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม การแข็งค่าของเงินบาท และอุปสรรคเชิงโครงสร้าง อาทิ หนี้ครัวเรือนและความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิต จากแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจดังกล่าวข้างต้น กรุงศรียังคงคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจในปี 2567 ที่ 2.4%

สรุปผลประกอบการและฐานะการเงินที่สำคัญสำหรับ 9 เดือนแรกปี 2567
- กำไรสุทธิ (ส่วนที่เป็นของธนาคาร) จำนวน 23,424 ล้านบาท ลดลง 7.0%YoY โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ตามการตั้งสำรองที่รอบคอบระมัดระวัง
- รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ อยู่ที่ 82,848 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.6%YoY
- ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) เร่งตัวขึ้นมาอยู่ที่ 4.33% จาก 3.70% 9 เดือนแรกปี 2566
- รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย จำนวน 33,464 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.2%YoY
- ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงาน อยู่ที่ 50,926 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.1%YoY
- อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ อยู่ที่ 43.8% ปรับตัวดีขึ้นจาก 44.2% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566
- สินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ 30 ก.ย. 67 อยู่ที่ 74,417 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.0% จากสิ้นเดือน มิ.ย. 67 ที่อยู่ 72,973 ล้านบาท​
- อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Ratio) อยู่ที่ 3.20% เพิ่มขึ้นจากงวด 9 เดือนปี 2566 ที่อยู่ระดับ 2.48%
- อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ที่ 124.6%
- ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอยู่ที่ 35,258 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.6%YoY
- เงินรับฝาก เพิ่มขึ้น 3.3% หรือจำนวน 60,009 ล้านบาท จากสิ้นเดือนธันวาคม 2566 โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของเงินรับฝากประจำ
- เงินให้สินเชื่อรวม ลดลง 4.5% หรือจำนวน 90,268 ล้านบาท จากสิ้นเดือนธันวาคม 2566 สะท้อนการปรับลดลงของความเชื่อมั่นทางธุรกิจและความเชื่อมั่นผู้บริโภค รวมถึงการดำเนินการตามแนวทางการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรมของกรุงศรี

    ณ 30 ก.ย. 2567 กรุงศรีมีสินเชื่อรวม 1.93 ล้านล้านบาท เงินรับฝาก 1.90 ล้านล้านบาท และสินทรัพย์รวม 2.72 ล้านล้านบาท ขณะที่เงินกองทุนของธนาคารอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 318,770 ล้านบาท หรือเทียบเท่า 18.94% ของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของคิดเป็น 14.75%



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : แบงก์กรุงเทพเผย 9 เดือนแรกปี 67 มีกำไรสุทธิ 34,807 ล้านบาท โต 6.2%YoY ผลรายได้ดอกเบี้ยสุทธิยังโต

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine