เจ.พี.มอร์แกน เตรียมเสนอขาย ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW) บนหุ้นสามัญต่างประเทศ ในตลาดไทย - Forbes Thailand

เจ.พี.มอร์แกน เตรียมเสนอขาย ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW) บนหุ้นสามัญต่างประเทศ ในตลาดไทย

เจ.พี.มอร์แกน ประเทศไทย แถลงขยายตลาด ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW) สู่การขาย DW บนหุ้นสามัญต่างประเทศครั้งแรกในประเทศไทย คาดหวังเปิดขาย 40 รายการภายในสิ้นปีนี้ และเติบโตเป็นผู้นำการขาย DW มากที่สุดในไทยจำนวน 400 รายการ

ม.ล.ชโยทิต กฤดากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.พี.มอร์แกน ประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทต้องการเข้าถึงผู้บริโภครายย่อยให้มากขึ้นผ่านการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrant: DW) ซึ่งจะมีทั้ง DW บนหุ้นสามัญประเทศไทยและหุ้นสามัญต่างประเทศ สำหรับ DW บนหุ้นต่างประเทศนั้นจะถือเป็นครั้งแรกของไทยที่มีการขายเกิดขึ้น นับจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อนุมัติตราสารประเภทนี้เมื่อเดือนตุลาคม 2561 “แม้เราจะไม่ใช่รายแรกที่เปิดขาย แต่เราจะเป็นรายใหญ่ที่สุด โดยคาดว่าจะออกขาย DW 400 รายการภายในสิ้นปี ส่วนการขาย DW ต่างประเทศจะเริ่มจากบนดัชนีหลักทรัพย์ก่อนแล้วค่อยขยับเป็นหุ้นรายตัวเข้ามา เชื่อว่าจะทำให้ตลาดหลักทรัพย์ของไทยมีความสมบูรณ์ และอนาคตจะทำให้เป็นศูนย์กลางการลงทุนของภูมิภาค CLMV” ม.ล.ชโยทิตกล่าว ด้าน วัชริดา บุญทวีพัฒน์ กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เจพีมอร์แกน ประเทศไทย เสริมว่า ตลาดหุ้นต่างประเทศที่ เจ.พี.มอร์แกนจะออก DW นั้นน่าจะเป็นตลาดในไทม์โซนที่ใกล้เคียงกัน วางเป้าหมายจดทะเบียน 40 รายการ (จากทั้งหมด 400 รายการ) ในปีนี้ โดยปัจจุบันบริษัท เจ.พี.มอร์แกน เป็นผู้นำอันดับ 1 ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงจากรายการเสนอขาย 5,000 รายการ คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดราว 30% ขณะที่ประเทศไทยนั้น บริษัทหวังว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดในเบื้องต้น 5-10% โดยมีจุดแข็งนอกจากเป็นบริษัทแรกที่เปิดขาย DW บนหุ้นต่างประเทศแล้วนั้น ยังเป็นบริษัทที่มีตัวเลือกเสนอขาย DW แบบที่มีค่าความผันผวนแบบแปรผัน (flexible volatility) ด้วย โดยมีข้อดีกว่าแบบค่าความผันผวนคงที่ (fixed volatility) คือนักลงทุนจะถือได้นานกว่าและมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้มากกว่า “DW จะโตได้ต้องมีรายย่อยที่เข้าใจจำนวนมากๆ เข้ามาลงทุน ซึ่งตั้งแต่ตลาดไทยมีการเปิดขายครั้งแรกในปี 2552 นักลงทุนไทยก็มีการตอบรับดี เป็นตลาดที่มีศักยภาพ” วัชริดากล่าว ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า DW เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ความสำคัญมาก ตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2552 ปัจจุบันมี DW จดทะเบียนอยู่ 1,600 รายการ และมีการซื้อขายหลักพันล้านบาทต่อวัน หรือคิดเป็นสัดส่วน 5.8% ของปริมาณซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งหมดประมาณ 5 หมื่นล้านบาทต่อวัน “เมื่อเรามีกลุ่มนักลงทุนที่เป็น speculator หรือเป็น hedger เขาก็ต้องการผลิตภัณฑ์ที่เปิดปิดความเสี่ยงได้ ซึ่ง DW ก็คือผลิตภัณฑ์หนึ่งที่ตอบโจทย์เพราะเข้าออกง่าย สภาพคล่องมาก โอกาสการเติบโตมีสูงเพราะตลาดไทยเพิ่งจะเริ่มๆ ในขณะที่ต่างประเทศอย่างฮ่องกงหรือสิงคโปร์ ตลาด DW โตกว่าสินค้าอ้างอิง (underlying asset) 2-3 เท่า และเมื่อตลาดเรามีสภาพคล่องสูงขึ้นก็จะดึงดูดนักลงทุนใหม่ๆ เข้ามา ต่อไปตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็จะมีนักลงทุนหลากหลาย” ดร.ภากรกล่าว สำหรับ ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ ในไทยที่ออกโดยเจ.พี.มอร์แกนจะทำการซื้อขายโดยใช้รหัสผู้ออก “DW41” และบริษัทจะเปิดให้ศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ www.JPMorganDW41.com  ตั้งแต่เดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป