ธนาคาร ซิตี้แบงก์ สรุปภาพรวมเศรษฐกิจโลกครึ่งปีหลังและแนะแนวทางสำหรับการจัดพอร์ตลงทุนท่ามกลางสภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและแนวโน้มของเศรษฐกิจถดถอย ในงาน Citigold Mid-Year Outlook 2022 เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา
ซิตี้แบงก์ อัปเดตข้อมูลเศรษฐกิจโลกรวมถึงเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง 2565 โดยชี้ให้เห็นถึงช่วงเวลาแห่งความท้าทายสำหรับการลงทุน โดยเฉพาะในสถานการณ์เงินเฟ้อ สงครามรัสเซีย-ยูเครน วิกฤตโรคระบาดโควิด 19 ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงต่อซัพพลายเชนและเศรษฐกิจมหภาค Ken Peng นักยุทธศาสตร์การลงทุนประจำภูมิภาคเอเชียแปซิกฟิก ธนาคารซิตี้แบงก์ กล่าวว่า ในไตรมาสสอง เศรษฐกิจโลกจะยังคงเผชิญกับสภาวะเงินเฟ้อ ขณะที่ธนาคารกลางของสหรัฐฯ หรือ Fed ยังคงมีนโยบายขึ้นดอกเบี้ยเข้มงวดอย่างต่อเนื่อง โดยตลาดที่ได้รับผลกระทบอันเห็นได้ชัด ได้แก่ ตลาดการเคหะหรือ Housing Market ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งแสดงราคาบ้านที่ร่วงลงอย่างรวดเร็วเนื่องมาจากอัตราดอกเบี้ยเพื่อกู้ซื้อที่สูงขึ้น จากการขึ้นนโยบายการเงินของ Fed คาดว่ามีความเสี่ยงของการเกิดสภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทั้งนี้ Peng ชี้ให้เห็นว่าช่วงเวลาดังกล่าวถือเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุนประเภทตราสารหนี้ระยะยาว โดยเฉพาะพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ซึ่งให้ผลตอบแทนที่ดี เนื่องจากมีราคาถูกและมีปริมาณการซื้อขายที่มากขึ้น สัมพันธ์กับนโยบายขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ดังจะเห็นได้จากตัวอย่างในปี 2019 อย่างไรก็ตาม Peng คาดว่า Fed จะผ่อนผันนโยบายและจะหยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ร้อยละ 3.40 ในเดือนกุมภาพันธ์ ของปี 2023 Peng ยังมองว่า ขณะนี้เทรนด์การลงทุนระยะยาวในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพ รวมถึงมีการเติบโตที่ให้ผลดีในระยะยาวและยั่งยืนนั้น ได้แก่ กลุ่มพลังงานสะอาด กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า กลุ่มเทคโนโลยีดิจิทัลไลเซชัน ฟินเทค กลุ่มการดูแลสุขภาพและเภสัชกรรม ตลอดทั้งกลุ่มเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ นอกจากนี้ การลงทุนทางเลือกนอกเหนือจากสินทรัพย์หลักในช่วงตลาดผันผวน เช่น กองทุน Hedge Fund และ Liquid Alternative ซึ่งเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำสามารถซื้อขายได้ทุกวัน กองทุนบริหารความเสี่ยง หรือในสินทรัพย์ตราสารทุนนอกตลาด หรือ หุ้นนอกตลาด (Private Equity) จะสามารถลดความเสี่ยงในพอร์ตโฟลิโอได้ในระยะยาว โดยสรุป ในช่วงวิกฤตเงินเฟ้อและแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอย Investment Theme นั้นเน้นการลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาว หุ้นปันผลในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น พลังงานสีเขียว และ Priavte Equity เป็นหลัก โดย Peng ให้ความเห็นว่า การมีตราสารหนี้ในพอร์ตการลงทุนนั้นถือเป็นการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ดี ทางด้านของเศรษฐกิจจีนโดยรวมนั้นได้รับความเสี่ยงจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะการบังคับใช้มาตรการโควิดเป็นศูนย์ การกระตุ้นเศรษฐกิจจึงต้องอาศัยนโยบายของรัฐบาลเพื่อให้ตลาดมีการฟื้นตัว โดยซิตี้แบงก์แนะนำให้นักลงทุนพิจารณาสัญญาณการฟื้นตัวของตลาดหุ้นจีนจากปริมาณหุ้น IPO ที่จดทะเบียนในฮ่องกง รวมถึงปริมาณเงินกู้ในระบบซึ่งมีการชะลอตัวมาโดยตลอด หากทั้งสองปัจจัยมีปริมาณเพิ่มขึ้น นั่นแสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวของตลาดหุ้นจีน อย่างไรก็ตาม Peng ชี้ว่าราคาหุ้นในตลาดหุ้นจีนปัจจุบันมีราคาถูก

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine