โตโยต้ามอง "ตลาดรถยนต์" ฟื้น เร่งผลิตรถ 647,000 คัน ลุยส่งออก - Forbes Thailand

โตโยต้ามอง "ตลาดรถยนต์" ฟื้น เร่งผลิตรถ 647,000 คัน ลุยส่งออก

โตโยต้าคาด ตลาดรถยนต์ ปี 2565 ฟื้นตัว ขายในประเทศ 860,000 คัน ตั้งเป้าผลิตรวม 647,000 คัน ยึดผู้นำตลาดในประเทศ พร้อมเร่งส่งออก เดินหน้าเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ผลักดันไทยเป็นฐานผลิตหลักอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต

โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย ปี 2565 จะกลับสู่สภาวะปกติอย่างค่อยเป็นค่อยไป พร้อมกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยคาดว่า ตลาดรถยนต์ จะมียอดขายรถยนต์ในประเทศจะอยู่ที่ 860,000 คัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.3 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ที่มียอดขายรวมที่ 759,119  คัน หรือลดลงร้อยละ 4.2 เมื่อเทียบกับปี 2563 สำหรับโตโยต้าตั้งเป้ายอดขายในประเทศอยู่ที่ 284,000 คัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.5 โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดร้อยละ 33 ขณะที่ปี 2564 โตโยต้ามียอดขายรวม 239,723 คัน ลดลงร้อยละ 1.9 เมื่อเทียบกับปี 2563 ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ จากการระบาดโควิด-19 “หากดูยอดขายของปีที่แล้ว จะเห็นได้ว่าสถานการณ์ของเราเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 เป็นต้นมา เนื่องมาจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น และการจัดกิจกรรมทางการตลาดที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตแบบใหม่ เช่น การขายผ่านช่องทางออนไลน์ ถ้าเราลองดูที่ยอดขายของโตโยต้าในระหว่างช่วงไตรมาสที่ 2 ถึงไตรมาสที่ 4 จะเห็นได้ว่าส่วนแบ่งทางการตลาดของเราอยู่ที่ 32.5% ซึ่งเป็นระดับที่ไกล้เคียงกับในปี 2562 หรือช่วงก่อนที่โรคโควิด-19 จะระบาด" ยามาชิตะกล่าว สำหรับตลาดรถยนต์ในต่างประเทศมีความต้องการเพิ่มสูงขึ้น โดยโตโยต้าตั้งเป้าปริมาณการส่งออกรถยนต์อยู่ที่ 371,000 คัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 27.2 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และตั้งเป้าการผลิตรถยนต์ทั้งหมดของปี 2565 อยู่ที่ ราว 647,000 คัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.9 จากปีที่ผ่านมา

เร่งเปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้า

ยามาชิตะ กล่าวว่า โตโยต้ามีเป้าหมายมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนให้สำเร็จภายในปี 2593 โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือกลยุทธ์ด้านยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ ที่กรรมการผู้จัดการใหญ่ โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น อากิโอะ โตโยดะ ประกาศไว้ว่าโตโยต้าจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ครบทั้ง 30 รุ่น ภายในปี 2573 โดยรวมไปถึงรถซีรีส์ bZ จำนวน 5 โมเดล ซึ่งมาพร้อมกับแพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่โดยเฉพาะ โตโยต้ามีเป้าหมายขายรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ให้ได้ทั้งสิ้น 3.5 ล้านคัน ภายในปี 2573 โดยทุ่มเงินลงทุน 1.2 ล้านล้านบาทเพื่อพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ เงิน 0.6 ล้านล้านบาท เป็นการลงทุนด้านแบตเตอรี่ และยังลงทุนอีก 1.2 ล้านล้านบาท สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด รถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้าแบบเซลล์เชื้อเพลิง ภายในปี 2573 ยามาชิตะ กล่าวว่า ในประเทศไทยนั้น โตโยต้าเป็นผู้ริเริ่มแนะนำเทคโนโลยีด้านยานยนต์ไฟฟ้ามาตั้งแต่ปี 2552 โดยครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่ถึงร้อยละ 80 และมีการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าของโตโยต้ามากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน สามารถลดคาร์บอนไดออกไซด์ลงไปได้ 148,000 ตัน ซึ่งเท่ากับการปลูกต้นไม้ 2 ล้านต้นในปีที่แล้ว บริษัทได้แนะนำ เลกซัส UX300e ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ และ เลกซัส NX450h+ ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด สำหรับแบรนด์โตโยต้า มีแผนที่จะแนะนำ bZ4X ซึ่งถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของซีรีส์ bZ ออกสู่ตลาดภายในปีนี้  รวมทั้งพยายามส่งเสริมให้มีการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศให้มากยิ่งขึ้น เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตหลักสำหรับการประกอบรถยนต์ไฟฟ้าอีกหลากหลายรุ่นต่อไปในอนาคต อ่านเพิ่มเติม: “พฤฒิรัตน์ รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์” สานฝันมอเตอร์สปอร์ต-ขี่ม้า
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine