Yves Rocher โตสวนกระแส เตรียมเดินทัพด้วย New Brand ID รีแบรนด์ครั้งใหญ่ พร้อม Omnichannel และ Digitalized CRM เต็มสปีด เตรียมเดินหน้าไม่หยุดในปี 2021
วิลาสินี ภาณุรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด อีฟ โรเช่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปี 2021 นี้ Yves Rocher เปิดตัวภาพลักษณ์ใหม่ของแบรนด์อย่างเป็นทางการ พร้อมโลโก้ใหม่ที่สื่อถึงต้นกำเนิดจากฝรั่งเศสได้อย่างชัดเจนและแพกเกจจิ้งใหม่ซึ่งมีสีสันสดใสแปลกตาเป็นแบรนด์ที่มี DNA ชัดเจน "พร้อมเลือกพรีเซ็นเตอร์ที่มีความเหมาะสมกับแบรนด์เพราะพรีเซ็นเตอร์จะเป็นคนเล่าเรื่องราวทุกอย่างของแบรนด์ โดยจะต้องมี 4 แกนหลักคือ Generosity (ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่), Positive Activist (จิตวิญญาณนักต่อสู้ในเชิงบวก), Rooted Entrepreneurial (หัวใจของความเป็นเจ้าของกิจการ) และ Honest (ความซื่อสัตย์จริงใจ) ทำให้เราได้ ใหม่-ดาวิกา โฮเน่ร์ มานั่งแท่นพรีเซ็นเตอร์โปรดักส์ไลน์แฮร์แคร์คนแรกในประเทศ เพื่อกระตุ้นยอดขายของกลุ่ม Green Generation Millennials (คนรุ่นใหม่ที่รักสินค้าธรรมชาติและเริ่มสนใจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม) และ บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ เป็น พรีเซ็นเตอร์ให้กับแคมเปญ “ช้อป แชร์ ได้เงินชิลๆ” ที่จะเปลี่ยนแปลงระบบสมาชิกใหม่ของ อีฟโรเช่ เรียกว่า “อีฟโรเช่บิวตี้คลับ”" วิลาสินี ภาณุรัตน์ กล่าว เราได้ปรับตัวให้เข้ากับยุค Digital Life เนื่องจากพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าเปลี่ยนไปโดยร้อยละ 40 ของลูกค้าจะซื้อออนไลน์ถึงแม้หน้าร้านจะเปิดปกติหรือหันมาซื้อของกระโดดไปมาจากหลากหลายช่องทางมากขึ้น ทำให้เห็น Traffic ได้อย่างชัดเจน เลยทำให้เราตัดสินใจปิดหน้าร้านบางสาขาลงและย้ายพนักงานบางส่วนไปรองรับลูกค้าที่เยอะขึ้นเป็นเท่าตัวในช่องทางออนไลน์แทน ตอนนี้เรามีสาขาทั้งหมด 81 สาขาซึ่งเพียงพอต่อการรองรับผู้บริโภคทั่วประเทศแล้วแน่นอน โดย Offline Stores ยังคงเป็นส่วนใหญ่ที่สุดของธุรกิจ อยู่ที่ร้อยละ 80 และ Online Channels ร้อยละ 20 โดยเติบโตอย่างรวดเร็วถึง 142 เปอร์เซ็นต์ แต่คาดว่าในปี 2021 จะเติบโตขึ้นมาเป็นร้อยละ 35 "ลูกค้าของ Yves Rocher แบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือลูกค้า Loyalty ที่อยู่กับเรามาค่อนข้างนานแล้ว ถึงแม้ว่าลูกค้ากลุ่มนี้จะมาร้านน้อยลงและหันไปช้อปออนไลน์ แต่ยอดซื้อไม่ได้ลดลงเนื่องจากเราใช้ CRM Model ในการดูแลลูกค้ากลุ่มนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความผูกพันกับแบรนด์" ส่วนอีกกลุ่มเป็นกลุ่มใหม่ที่เรา Recruit เข้ามาจากการทำสื่อ Social Media อย่างเต็มที่ในปีนี้ เรามีลูกค้ากลุ่มนี้เกือบ 200,000 คนแล้ว กลุ่มนี้จะซื้อของ online เป็นช่องทางหลัก แต่ก็ไป visit หน้าร้านเช่นกัน สิ่งที่เราเล็งเห็นของลูกค้าทั้ง 2 กลุ่มคือ ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ที่ผ่านมาลูกค้าเริ่มเป็น Omnichannel Customers มากขึ้น คือ Switch ไปมาในหลายหลาย Touch Points เพื่อ Engage กับ Brand (Offline, Emarketplace, Line OA, Telesales, BA Commerce, Ecom, etc) และน่าจะมีลูกค้าแบบนี้เพิ่มขึ้นอีกมากในปี 2021 เราเจาะกลุ่มทั้งลูกค้าเก่า และลูกค้าใหม่โดยใช้ CRM เพื่อ Retain ลูกค้าเก่าที่เป็น Royal Customers และ Recruit ลูกค้าใหม่ผ่าน Social Media อ่านเพิ่มเติม: อาร์เอส ทุ่มเฉียดพันล้าน รุกธุรกิจสินเชื่อรายย่อยไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine