iPrice Group แพลตฟอร์มเปรียบเทียบราคาในอาเซียน ระดมทุนอีกกว่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐ เสริมแกร่งธุรกิจ รับเทรนด์ผู้บริโภคใช้งานแพลตฟอร์มเพิ่ม 1 คนต่อ 7.9 เว็บไซต์ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเติบโตต่อเนื่อง พร้อมขยายบริการสินเชื่อเพื่อการช้อปปิ้ง
iPrice Group แพลตฟอร์มเปรียบเทียบราคาและค้นหาสินค้าออนไลน์ ที่ให้บริการครอบคลุม 7 ประเทศในภูมิภาค ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และฮ่องกง ได้รับเงินระดมทุนรอบใหม่กว่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐจากบริษัท Itochu Corporation ประเทศญี่ปุ่น และ KDDI Open Innovation Fund III (ภายใต้การดูแลของ Global Brain Corporation) เพื่อรับมือกับการแข่งขันของตลาดอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สูงขึ้น

เพิ่มบริการสินเชื่อช้อปปิ้ง
ซีอีโอ iPrice Group กล่าวว่า นอกจากการเปรียบเทียบสินค้า ราคา ความน่าเชื่อถือของผู้ขาย และเงื่อนไขการจัดส่งสินค้าแล้ว บริษัทยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ซื้อไม่ว่าจะเป็นการให้คูปองจากผู้ขาย สร้างแอพพลิเคชั่นแจ้งเตือนราคาถูกที่สุดจากสินค้าในตะกร้าหรือค้นหาสินค้าที่ถูกสุดสำหรับการซื้อของพวกเขา และเมื่อไม่นานมานี้ iPrice Group ได้เปิดตัวบริการ Price Watch เพื่อช่วยให้นักช้อปอินโดนีเซียสามารถรับการแจ้งเตือนราคาสินค้าที่ถูกลงจาก iPrice App และยังได้เปิดใช้บริการดังกล่าวในสิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม และไทยในปี 2565 นี้ สำหรับการระดมทุนครั้งใหม่นี้ iPrice Group ต้องการขยายบริการแก่ผู้ใช้งานไม่เพียงแค่ค้นหาร้านค้าอีคอมเมิร์ซที่ดีที่สุดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบริการสินเชื่อเพื่อซื้อสินค้าอีกด้วย ซึ่งตามรายงานของ Google คาดการณ์ว่าเม็ดเงินธุรกรรมดิจิทัลสามารถแตะถึง 92 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2568 จากการแข่งขันที่สูงขึ้นควบคู่ไปกับความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย “การที่กลุ่มบริษัทญี่ปุ่นอย่าง Itochu Corporation เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการระดมทุนครั้งใหญ่ ถึงแม้ว่าทางบริษัท Itochu จะเป็นที่รู้จักในด้านการค้าขาย แต่ในมุมกลับกัน Itochu ก็มีความเชี่ยวชาญมากมายด้านระบบสินเชื่อ รวมถึงมีบริษัทย่อยคือ PT ITC Auto Multi Finance ซึ่งดำเนินธุรกิจสินเชื่อในอินโดนีเซียภายใต้แบรนด์ Payku ด้วย ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสบการณ์ด้านบริการสินเชื่อให้กับกลุ่มของเรา” Paul ระบุ ทั้งนี้ การเพิ่ม Payku บริษัทย่อยของ Itochu ซึ่งเป็นพันธมิตรสินเชื่อรายสำคัญในอินโดนีเซีย จะมีบทบาทสำคัญในการเจาะตลาดสินเชื่อของกลุ่มต่อไป ซึ่งนอกเหนือจาก Payku แล้ว บริษัทยังมีพันธมิตรด้านสินเชื่อรายอื่น ๆ เช่น Home Credit (อินโดนีเซีย) Julo (อินโดนีเซีย) Cashalo (ฟิลิปปินส์) Smartpay (เวียดนาม) และ ZIP (สิงคโปร์ ที่เพิ่งเปิดตัวในช่วงครึ่งปีแรกของปี พ.ศ 2565 ผ่านมา) อ่านเพิ่มเติม: พัฒนาการของ “สมาร์ทซิตี้” ในปี 2565ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine