ธนาคารจัดเก็บสเต็มเซลล์ ไครโอวิวา (Cryoviva) สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการสเต็มเซลล์ไทย กับการเปิดตัวห้องปฏิบัติการระดับโลกที่ได้มาตรฐาน GMP/PICS เพื่อรองรับการผลิตผลิตภัณฑ์ยาใหม่ในกลุ่ม ATMP นี่คือก้าวสำคัญที่จะยกระดับวงการแพทย์ไทยและช่วยให้คนไทยเข้าถึงการรักษาด้วยเทคโนโลยีชีวภาพอันล้ำสมัยมากขึ้น
เทคโนโลยีสเต็มเซลล์ นับเป็นความหวังใหม่ในวงการแพทย์ โดยอาศัยเซลล์ของร่างกายมนุษย์ในการรักษาโรคต่างๆ ห้องปฏิบัติการใหม่ของ ไครโอวิวา (Cryoviva) จะช่วยให้สามารถผลิตสเต็มเซลล์ได้อย่างมีคุณภาพและได้ปริมาณที่มากขึ้น เพื่อรองรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาใหม่ๆที่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคมากยิ่งขึ้น
ไครโอวิวา (Cryoviva) ไม่เพียงมุ่งเน้นที่นวัตกรรมเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงความเข้าถึงของคนไทยด้วย โดยตั้งเป้าหมายให้การรักษาด้วยสเต็มเซลล์มีราคาที่เหมาะสม เพื่อให้คนไทยทุกคนมีโอกาสได้รับการรักษาด้วยเทคโนโลยีชีวภาพที่ล้ำสมัย
การเปิดตัวห้องปฏิบัติการครั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญ ของวงการแพทย์ไทยที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ให้ดีขึ้นในอนาคต
มารู้จักกับธนาคารจัดเก็บสเต็มเซลล์ ไครโอวิวา (Cryoviva)
ไครโอวิวา ก่อตั้งขึ้นในปี 2550 จากการวาดภาพอนาคตแห่งสุขภาพร่วมกัน ของบริษัท ชั้นนำระดับโลก ได้แก่ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) ประเทศไทย ซึ่งเป็นบริษัทด้านปีโตรเคมีครบวงจรชั้นนำของโลก, บริษัท อาร์เจ คอร์พ อินเดีย ที่ได้รับการ ยอมรับว่าเป็นบริษัท หนึ่งในกลุ่มบริษัทอาหารและเครื่องดื่มที่มั่นคงที่สุดในประเทศอินเดีย และบริษัทไครโอวิวาไบโอซายส์ อินเดีย ที่มีความเชี่ยวชาญด้านสเต็มเซลล์
ด้วยประสบการณ์อันยาวนานและผู้นำองค์กรมากความสามารถและวิสัยทัศน์ก้าวไกล “คุณจิรัญญา ประชาเสรี” ประธานกรรมการบริหาร – ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท ไครโอวิวา (ประเทศไทย) ได้นำพา “ไครโอวิวา” ให้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมสเต็มเซลล์ การเก็บรักษาและเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์ที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน แข็งแกร่ง มั่นคงและดีที่สุด
โดยนำทีมบริหารและทีมงานคุณภาพ ซึ่งประกอบด้วยแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านสเต็มเซลล์ และที่ปรึกษาด้านโลหิตวิทยาและการฟื้นฟูด้วยเซลล์บำบัดทั้งในและต่างประเทศ ทำงานในเชิงรุก มีการศึกษาวิจัย แลกเปลี่ยนเรียนรู้มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง ภายใต้นโยบายคุณภาพต้องมาเป็นที่ 1 ตลอดจนความตั้งใจที่ต้องการเห็นผู้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ตลอดจนการดำเนินงานภายใต้จริยธรรม ธรรมาภิบาล ความจริงใจ ความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าทุกคนและต่อเครือข่ายธุรกิจ จึงทำให้องค์กรก้าวไปอย่างมั่นคง นำพาไปสู่ความสำเร็จทุกเป้าหมายมาตลอด
“สิ่งสำคัญที่สุดของเราคือ บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและคิดถึงคุณภาพเป็นเรื่องที่ 1 ปริมาณสเต็มเซลล์ที่เราได้ดูแลใน 17 ปีที่ผ่านมา จำนวนครอบครัวที่ฝากกับไครโอวิวา และที่แนะนำต่อๆ กันมา เพราะเชื่อมั่นในคุณภาพของเรา นี่คือสิ่งที่นำความภูมิใจมาให้เรา พันธมิตรที่เราได้สร้าง ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรทางการแพทย์ ไม่ว่าจะสถานพยาบาลหรือคลินิคต่าง ๆ ที่เป็นที่ที่เราเก็บสเต็มเซลล์ และเป็นที่ที่เราใช้สเต็มเซลล์ในการรักษาสำหรับครอบครัวต่าง ๆ ที่มีความจำเป็น นี่คือสิ่งที่เราภูมิใจที่สุด” คุณจิรัญญากล่าว
คุณจิรัญญาเผยถึงความสำเร็จและแผนการในอนาคต เพิ่มเติมว่า “ในระยะเวลาเพียง 2 ปีที่ผ่านมาบุคลากรทางการแพทย์, สถานพยาบาลและพันธมิตรคู่ค้าต่างๆเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว การร่วมมือกับภาครัฐ สถาบันศึกษา และ นักวิทยศาสตร์ เพื่อให้ได้รับการยอมรับในการรักษาโรคด้วยสเต็มเซลล์เพิ่มสูงขึ้นมาก โดยในตอนนี้การใช้สเต็มเซลล์ที่มีการฝากไว้ของทางไครโอวิวาในการชะลอวัย มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นและมีการวิจัยเพิ่มขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำให้ภาครัฐยอมรับการรักษาด้วยสเต็มเซลล์มากขึ้น เพื่อที่จะให้ประชาชนเข้าถึงการรักษาด้วยสเต็มเซลล์ได้มากขึ้นตามไปด้วย
ในเชิงสถิติปัจจุบัน ไทยเป็นประเทศที่มีผู้สูงอายุอยู่ในอันดับที่ 2 ของเอเชีย ซึ่ง ไครโอวิวา วางแผนไว้ว่า จะทำอย่างไรให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพ และคุณภาพชีวิต ที่ดีขึ้นและสิ่งที่ทาง ไครโอวิวา ให้ความสำคัญเป็นพิเศษก็คือ ราคาในการรักษาที่คนทั่วไปสามารถจ่ายได้ด้วย เป้าหมายสำคัญอีกประการที่ทาง ไครโอวิวา มุ่งเน้นก็คือการให้สาธารณสุขบางหน่วยงานสามารถใช้สเต็มเซลล์ในการรักษาผู้ป่วยได้ พร้อมทั้งสามารถลดค่าใช้จ่ายของระบบสาธารณสุขของประเทศได้ด้วย ซึ่งทาง ไครโอวิวา มั่นใจว่าจะทำให้บรรลุเป้าหมายได้ในอีกไม่นาน เพราะในขณะนี้ไทยมีบุคลากรทางการแพทย์ที่เชี่ยวชาญทางด้านสเต็มเซลล์เป็นอันดับต้นๆของโลกแล้ว”
ในส่วนของห้องปฏิบัติการของ ไครโอวิวา ที่มีมาตรฐานและศักยภาพที่สูงอยู่แล้วยังสามารถพัฒนาต่อไปได้อีก ซึ่งคุณ จิรัญญา ต้องการให้ห้องปฏิบัติการในการเก็บ, ค้นคว้า, วิจัย ไปจนถึงขั้นตอนการคัดเลือก สเต็มเซลล์ เป็นแนวทางมาตรฐานสากลเพื่อเป็นแบบอย่างให้กับห้องปฏิบัติการทางสเต็มเซลล์อื่นๆในอนาคตด้วย โดยคุณ จิรัญญา แสดงทัศนะว่าถ้าหากเอกชนและภาครัฐร่วมมือกันขับเคลื่อนธุรกิจนี้อย่างจริงจัง เพราะการใช้สเต็มเซลล์เป็นตัวเลือกที่ดีทั้งในเรื่องของการรักษาโรคและการชะลอวัยเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคนแล้ว นวัตกรรมนี้ยังจะสร้างเม็ดเงินเข้าประเทศได้อย่างมหาศาล เนื่องจากคนทั่วโลกยอมรับถึงคุณภาพของการบริการทางการแพทย์ของประเทศไทย และ Medical Tourism ก็เป็นหนึ่งในรายได้ที่สำคัญของประเทศ