บมจ.แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี หรือ AIT โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2563 จากงบเฉพาะกิจการมีกำไรสุทธิ 62 ล้านบาท และรายได้ 1,232 ล้านบาท ยันโรคระบาดโควิด-19 ไม่กระทบการดำเนินธุรกิจมากนัก มั่นใจรายได้ทั้งปีตามเป้าแตะ 6,000 ล้านบาท หลังตุน Backlog ในมือกว่า 7,700 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ปีนี้กว่า 50% พร้อมทั้งมีโครงการที่คาดว่าจะเข้าร่วมประมูลอีกกว่าหมื่นล้านบาท
ศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT ผู้ดำเนินธุรกิจบริการออกแบบและรับเหมาวางระบบโครงข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2563 (มกราคม - มีนาคม 2563) จากงบเฉพาะกิจการ บริษัทมีกำไรสุทธิ 62 ล้านบาท และมีรายได้อยู่ที่ 1,232 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 1,267 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 114 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทมั่นใจผลการดำเนินงานทั้งปี 2563 จะเติบโตตามเป้าหมาย คาดว่าจะมีรายได้แตะ 6,000 ล้านบาท แม้ปัจจุบันมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็ตาม โดยมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ณ วันที่ 5 พฤษภาคม 2563 รวมกว่า 7,700 ล้านบาท ประกอบกับมีงานที่อยู่ระหว่างรอใบคำสั่งซื้อจากลูกค้าอีกจำนวนประมาณ 350 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่คาดว่าจะเข้าร่วมประมูล รวมมูลค่ากว่า 10,400 ล้านบาท เน้นงานวางระบบของภาครัฐและภาคเอกชน แม้ในช่วงที่ผ่านมามีโครงการบางส่วนอาจเลื่อนประมูลออกไป แต่เชื่อได้ว่าหากสถานการณ์โรคระบาดเริ่มคลี่คลาย โครงการส่วนใหญ่จะเริ่มเปิดประมูลได้ในครึ่งปีหลัง คาดว่าภาครัฐและเอกชนส่วนใหญ่คงเร่งดำเนินการให้ได้ตามแผนเดิม
“เรายังคงดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ แม้ในช่วงที่มีโรคระบาดส่งผลต่อการเปิดประมูลโครงการต่างๆ ต้องเลื่อนออกไปบ้าง อย่างไรก็ตามบริษัทเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้า เพื่อเข้าประมูลงานได้ทันทีที่สถานการณ์คลี่คลาย และมั่นใจจะนำองค์กรผ่านเหตุการณ์ในช่วงนี้ไปได้” ศิริพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ การผลักดันการเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและการสื่อสาร เป็นสิ่งต้องการการสนับสนุนจากภาครัฐ โดยเฉพาะการพัฒนาระบบ Cloud Computing เพื่อรองรับการทำงานทุกด้าน ทั้งระบบเครือข่าย การจัดเก็บข้อมูล การติดตั้งฐานข้อมูล หรือการใช้งานซอฟต์แวร์เฉพาะด้านในธุรกิจต่างๆ เพื่อเข้าถึงข้อมูล และสามารถอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนได้อย่างรวดเร็ว
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine